Pokémon Go เพิ่มฟีเจอร์สู้โควิดให้ผู้เล่นยังคงสนุกได้แม้จะกักตัวอยู่บ้าน
ในขณะที่หลายๆ เกมได้รับประโยชน์จากมาตรการกักตัวอยู่กับบ้าน แต่ไม่ใช่สำหรับ Pokémon Go เกมที่มุ่งกระตุ้นให้ผู้เล่นเกิดความกระตือรือร้นที่จะออกจากบ้าน เพื่อเดินทางไปจับ “โปเกมอน” หรือไป “ตียิม” ตามสถานที่ต่างๆ … จนมีข่าวว่ามีผู้เล่นในประเทศอิตาลีถูกจับในข้อหาละเมิดคำสั่งกักตัว เพราะต้องการออกไปจับโปเกมอน
เพื่อให้ผู้เล่น Pokémon Goหรือที่เรียกว่า “โปเกมอนเทรนเนอร์” ไม่ต้องออกมาไล่จับโปเกม่อนนอกบ้านท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อ Covid-19 ให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อหรือติดคุก ช่วงกลางเดือน มี.ค. บริษัท Niantic Labs ผู้พัฒนาเกม Pokémon Go จึงออกฟีเจอร์ (Feature) ใหม่เพื่อให้ผู้เล่นเกมยังสนุกกับการล่าโปเกมอนจำนวนมากได้ง่ายขึ้น แม้จะอยู่ในบ้าน
ด้วยการเปิดให้ซื้อ “ไอเทมเกม” ที่เรียกว่า Incense (ธูปหอมเรียกโปเกมอน โดยเฉพาะตัวที่หายาก) ซึ่งเมื่อเปิดใช้ไอเทมดังกล่าวจะมีโปเกมอนมาให้จับถึงที่มากถึง 30 ตัวต่อธูป 1 ดอก และเพิ่มเวลาทำงานของธูปเป็น 1 ชั่วโมง จากเดิมแค่ 30 นาที, ปรับช่วงเวลาการฟักไข่ให้เร็วขึ้นถึง 2 เท่า ทำให้เดินน้อยลง, เพิ่มการเกิดของโปเกมอนป่ามากขึ้น โดยไม่ต้องเดินทางไปในแหล่งเหมือนเดิม, เพิ่มรางวัลการปั่นเสา (PokéStops) ต่อหนึ่งให้บ่อยขึ้นและมากขึ้น ไม่ต้องรอนานเหมือนเดิม
แถมด้วยไอเทมเพิ่มพลัง (Stardust) และไอเทมอัพเลเวล (XP) มากถึง 3 เท่าสำหรับโปเกมอนตัวแรกที่จับได้ในแต่ละวัน, ปลดล็อกให้ผู้เล่นเปิดของขวัญได้ 30 ชิ้นต่อวัน และเก็บของขวัญได้มากถึงคราวละ 20 ชิ้น, สะสม Poke Ball ในสต๊อกได้ถึง 100 ลูก ฯลฯ ตั้งแต่กลางเดือน มี.ค. ถึงสิ้นเดือน ทุกสัปดาห์จะมีการหมุนเวียนขายแพ็กเกจไอเทมเด่นๆ รวมถึงไอเทม Incense 30 อัน ในราคาเพียง 1 PokéCoin … เรียกว่า ลดราคากระหน่ำถึง 99%
นอกจากนี้ ยังปรับให้ผู้เล่นสามารถต่อสู้ทางไกลกับเพื่อนได้ตั้งแต่ระดับหัวใจ 1 ดวง (Good Friend) และมีการเลื่อนจัดกิจกรรมชุมนุมผู้เล่นที่เรียกว่า Abra Community Day และ the Lugia Raid ที่จะจัดขึ้นในช่วงปลายเดือน มี.ค. ออกไปไม่มีกำหนด … นี่เป็นบางส่วนของความพยายามปรับตัวของ Pokémon Go ขณะที่ทั่วโลกกำลังใช้มาตรการเพิ่มระยะห่างทางสังคม (Social Distancing)
ทันทีที่ปรับตัวปรับเกม ในช่วงอาทิตย์นั้นอาทิตย์เดียวทำให้รายได้เพิ่มขึ้นจากอาทิตย์ก่อนหน้าถึง 66.7% โดยรายได้ไปแตะ 23 ล้านเหรียญสหรัฐ ในอาทิตย์นั้น โดยรายได้หลักเกือบ 8 ล้านเหรียญสหรัฐ มาจากผู้เล่นในสหรัฐฯ ประเทศเดียว
ย้อนดูความฮิตของ Pokémon Go
ปี 1996 วิดีโอเกม Pokémon เปิดตัวครั้งแรกในญี่ปุ่น ขณะที่ Pokémon Goเปิดตัวอย่างเป็นทางการช่วงเดือน ก.ค. 2016 ภายใต้ลิขสิทธิ์ของบริษัท Niantic Labs ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพใต้ร่มของ Google ที่ก่อตั้งในปี 2010 ช่วงนั้นมีหน้าที่รับผิดชอบโปรเจกต์แผนที่แบบอินเตอร์แอคทีฟ ซึ่งต่อมากลายเป็น Google Earth โดยในปี 2015 Niantic ได้แยกตัวออกมา แล้วในปีต่อมา Niantic ก็เปิดตัว AR Mobile Game แนว Location-based อันโด่งดังในปีต่อมา นั่นคือ Pokémon Go
ข้อมูลจาก Sensor Tower Store Intelligence ระบุว่า หลังเปิดตัวเพียง 3 เดือนแรก Pokémon Go ทำรายได้สูงถึง 592 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณเกือบ 2 หมื่นล้านบาท (อัตราแลกเปลี่ยน 32.8 บาท/USD อ้างอิง ธปท. ณ วันที่ 26 มี.ค. 2563) โดยแค่ 19 วันหลังเปิดตัว ยอดดาวน์โหลดก็พุ่งไปถึง 50 ล้านครั้ง ส่วนรายได้ปี 2016 สูงถึง 832 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 2.7 หมื่นล้านบาท
สำหรับปี 2019 Pokémon Go มีรายได้ 894 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 2.9 หมื่นล้านบาท สูงสุดนับตั้งแต่เปิดตัวมา โดยประเทศที่สร้างรายได้สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา (335 ล้านเหรียญสหรัฐ) ตามมาด้วยญี่ปุ่น (286 ล้านเหรียญสหรัฐ) และเยอรมนี (54 ล้านเหรียญสหรัฐ)โดยบริษัทหวังไว้ตั้งแต่ต้นปีว่า ปี 2020 รายได้จะทำสถิติสูงที่สุดอีกครั้ง! ซึ่งต้องจับตาดูกันต่อไป
ตั้งแต่ปี 2016 จนถึงปี 2019 ทั่วโลกมีผู้เล่น Pokémon Goไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านคน โดยเป็น Active Players หลายล้านคน นับตั้งแต่เปิดมาจนปี 2019 เกมนี้ทำรายได้รวมมากกว่า 3.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 1 แสนล้านบาท โดยมาจากสหรัฐฯ กว่า 900 ล้านเหรียญสหรัฐ และมาจากญี่ปุ่นกว่า 700 ล้านเหรียญสหรัฐ
ถ้ายังจำกันได้ ช่วงเปิดตัวใหม่ๆ Pokémon Goถือได้ว่าเป็นเกมที่มีข่าวว่าก่อให้เกิดอุบัติเหตุกับผู้เล่นมากที่สุดเกมหนึ่ง มีการรวบรวมสถิติว่ามีโปเกมอนเทรนเนอร์เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนมากถึง 1 แสนครั้ง ขณะที่บางประเทศมีผู้เล่นเผลอตกเขาไปก็มี หรือบางประเทศ ผู้เล่นออกไปล่าโปเกมอนบนเกาะเพลินจนน้ำขึ้นทำให้ติดเกาะไม่สามารถกลับเข้าฝั่งได้ทัน ก็มี
แต่ขณะเดียวกัน Pokémon Goก็ถือเป็นที่ทำให้ผู้เล่นหลายคนที่เคยเป็นคนเก็บตัวและซึมเซากลายเป็นคนที่มีความแอคทีฟมากขึ้น นอกจากนี้ เกมนี้ยังทำให้ธุรกิจหลายๆ แห่ง โดยเฉพาะร้านกาแฟ ร้านอาหาร และร้านค้าที่อยู่ใกล้กับ Pokéstop มีลูกค้าเพิ่มขึ้น มีรายได้เพิ่มขึ้น และสามารถสร้างแบรนด์ได้ นอกจากนี้ ยังเกิดอาชีพใหม่ เช่น คนขับรถพาทัวร์จับโปเกมอน ซึ่งเกิดขึ้นในหลายเมือง เป็นต้น
หมายเหตุ: อัตราแลกเปลี่ยน 32.8 บาท/USD อ้างอิง ธปท. ณ วันที่ 26 มี.ค. 2563
ที่มา: dailymail, digital trends, venture beat
Website : Marketeeronline.co /
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ