“สถานการณ์โรคระบาด” ยังคงทำให้ทัศนวิสัยของสายการบินทั่วโลกย่ำแย่และมีพนักงานอีกมากที่ต้องตกงาน โดยสายการบิน Emirates อาจปลดพนักงานถึง 30,000 คน คิดเป็นราว 30% จากพนักงานทั้งหมด 105,000 คน หลังไวรัสโควิด-19 ส่งผลอย่างรุนแรงต่อธุรกิจเช่นเดียวกับสายการบินอื่นๆ ทั่วโลก และ Tim Clark-CEO ก็ยอมรับว่าต้องเวลาใช้อีกอย่างน้อยปีครึ่งกว่าจะฟื้นตัว
ความรุนแรงของวิกฤตครั้งนี้ยังทำให้สายการบิน Emirates เตรียมปลดระวาง Airbus รุ่น SE A380 เครื่องบินโดยสารขนาดใหญ่ที่สุดที่มีอยู่หลายลำ เร็วกว่าปกติอีกด้วย

ด้านโฆษกของสายการบิน Emirates ไม่ยืนยันหรือปฏิเสธเรื่องปลดพนักงานครั้งใหญ่ ที่ทั้ง Bloomberg และ Reuters รายงาน โดยอ้างแหล่งข่าว แต่ให้ข้อมูลเพียงว่าอยู่ระหว่างพิจารณาตัดลดค่าใช้จ่าย และให้ผู้บริหารใช้ความรอบคอบเพื่อร่วมกันพาองค์กรฝ่าวิกฤต
รายงานดังกล่าวมีขึ้นไม่นานหลังสายการบิน Emirates แถลงว่ามีนาคมที่ผ่านมาทำกำไรน้อยเกินคาด และยังขาดทุนอีกไม่ใช่น้อย จาก “สถานการณ์โรคระบาด”

ท่ามกลางข่าวร้ายในธุรกิจสายการบินที่เที่ยวบินแทบทั้งหมดเหมือนถูกตรึงให้จอดนิ่งอยู่สนามบินทั่วโลก และจำนวนสายการบินที่ล้มละลายแบบ Virgin Australia มีเพิ่มขึ้น เพราะการเดินทางทั่วโลกยังไม่คืนสู่ระดับปกติและกิจกรรมทางเศรษฐกิจเพิ่งเริ่มฟื้นตัวอย่างช้าๆ
ความรุนแรงของวิกฤตในธุรกิจสายการบินครั้งนี้ยังยืนยันได้จากการที่ Berkshire Hathaway บริษัทถือหุ้นยักษ์ใหญ่ของ Warren Buffett ขายทิ้งหุ้น 4 สายการบินใหญ่สหรัฐฯ ไปก่อนหน้านี้

ด้านสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) ประเมินว่า “สถานการณ์โรคระบาด” ทำให้เที่ยวบินทั่วโลกลดลงไปถึง 70% และสร้างความเสียหายมหาศาลถึง 314,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 10 ล้านล้านบาท)/bloomberg, reuters, wikipedia
–
