นาริฐา วิบูลยเสข ผู้จัดการธุรกิจกาแฟปรุงสำเร็จ บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดกาแฟทั้งหมดในปีนี้ที่ต้องเจอกับสถานการณ์โควิด-19 นั้น ตลาดรวมกาแฟทั้งหมดจะคงที่ (stable)
แต่ถ้าให้แยกประเภทเป็นกาแฟในบ้านและกาแฟนอกบ้านนั้น กาแฟนอกบ้านปีนี้อาจจะตกลงบ้าง ซึ่งเป็นเพราะผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19
“หากเทียบของเนสกาแฟเอง เนสกาแฟฮับ ในช่วงโควิด-19 ดร็อปลง 30-40%”
ขณะที่กาแฟในบ้านกลับเติบโตอย่างมาก ช่วง 8 เดือนแรกกาแฟในบ้านเติบโต 10.7% เนื่องจากผู้บริโภคปรับพฤติกรรมช่วงโควิด-19 หันมาทำกาแฟดื่มเองที่บ้านมากขึ้น
ส่วนเนสกาแฟเองนั้น ผู้จัดการธุรกิจกาแฟปรุงสำเร็จ เนสท์เล่ ระบุว่า ปีนี้ถือว่าเป็น Golden Year ของเนสกาแฟ เพราะกาแฟในบ้านเติบโตสูงมาก ซึ่งไม่ใช่จากอานิสงส์โควิด-19 อย่างเดียว แต่รวมถึงแคมเปญต่าง ๆ ที่ออกไปตั้งแต่ช่วงต้นปี
อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่าปีนี้เนสกาแฟโตกว่าที่ผ่านมาแน่นอน
สำหรับภาพรวมตลาดกาแฟ (ในบ้านและนอกบ้าน) นั้นมีมูลค่า 60,000 ล้านบาท แบ่งเป็น กาแฟในบ้าน 33,000 ล้านบาท และกาแฟนอกบ้าน 27,000 ล้านบาท

สำหรับในปีนี้ผู้จัดการธุรกิจกาแฟปรุงสำเร็จ เนสท์เล่ ระบุว่า เนสกาแฟประกาศเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ให้สามารถรีไซเคิลได้ 100% ภายในปี 2565 รับวันกาแฟสากลที่จะถึงในวันที่ 1 ต.ค. นี้
โดยได้นำร่องจากกลุ่มผลิตภัณฑ์เนสกาแฟเบลนด์ แอนด์ บรู และกาแฟพร้อมดื่มที่ได้เริ่มทยอยเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์แล้ว
ปัจจุบันเนสกาแฟเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ให้สามารถรีไซเคิลได้ไปแล้วราว 50% ภายในไตรมาส 1 ปีหน้าจะเป็นราว 70-75%
–
