พญ. ปรมาภรณ์ ปราสาททองโอสถ ผู้สานต่ออาณาจักรของ นายแพทย์ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ
เครือโรงพยาบาลกรุงเทพ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS เป็นแหล่งเงินที่ใหญ่ที่สุดของ นายแพทย์ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ
เมื่อธุรกิจสายการบินอาการยังน่าเป็นห่วงพลิกเม็ดเงินกำไรเป็นขาดทุน กว่า 3 พันล้านบาทใน ครึ่งปีแรก 2563 ส่วนพีพีทีวี ปีที่ผ่านมายังเดินหน้าต่อขาดทุนถึง 2 พันล้านบาท
ธุรกิจโรงพยาบาลจึงเป็นอนาคตและความหวัง ที่วันนี้อยู่ในการดูแลของ ”หมอปุย” พญ. ปรมาภรณ์ ปราสาททองโอสถ ลูกสาวคนที่ 4 ของเขา
ในวันที่ 1 กันยายน 2563 ที่ผ่านมาคณะกรรมการบริษัทก็ได้มีมติแต่งตั้ง พญ. ปรมาภรณ์ เข้าดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร และตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ แทนผู้เป็นพ่อ
หมอปุยถูกวางให้เป็นทายาทที่ดูแลธุรกิจโรงพยาบาล เช่นเดียวกับพี่ชาย “กัปตันเต๋” พุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ ที่เข้าไปบริหารสายการบินบางกอกแอร์เวย์สมาหลายปีแล้ว
กัปตันเต๋เคยเล่าให้ผู้เขียนฟังว่า “คุณพ่อไม่เคยบังคับใครตอนเรียนหนังสือ ใครชอบแบบ ไหนก็เรียนแบบนั้น พอใกล้เรียนจบถึงค่อยเรียกมาถามว่า จะเรียนอะไรต่อ จะทำงานอะไร”
โชคดีที่เขาหลงใหลเรื่องการบิน ส่วนน้องสาวก็ชอบเรียนหมอ จนได้เข้ามารับผิดชอบ 2 ธุรกิจหลักของตระกูล
เพียงแต่วันนี้ หมอปุยเข้ามารับผิดชอบในตำแหน่งสูงสุดของบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ ในวันที่กำลังเจอกับปัญหาอย่างหนัก
ชื่อของเธออาจจะไม่เป็นที่รู้จักเท่าไรนัก ค่อนข้างโลว์โพรไฟล์มาก ๆ จนกระทั่งมีปัญหาเรื่องการซื้อขายหุ้นบริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BA และถูกแขวนป้าย ห้ามเป็นกรรมการและผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียนเป็นเวลา 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2562 ถึงวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2563
หมอปุย จบแพทยศาสตรบัณฑิต/คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เคยเป็นผู้ช่วยคณบดี ฝ่ายทรัพยากรบุคคล คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล และผู้ช่วยคณบดี ฝ่ายกิจการนักศึกษา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล และได้เข้ามาเป็นกรรมการบริหารโรงพยาบาลกรุงเทพมาหลายปี
เช็กอาการโรงพยาบาลกรุงเทพในมือหมอปุย
วันนี้โรงพยาบาลในเครือกรุงเทพมีอยู่ 48 โรงพยาบาล (6 แบรนด์) จับกลุ่มลูกค้าทุกกลุ่มเป้าหมายตั้งแต่ C ถึง A+
มีจำนวนเตียงทั้งหมด 8,300 เตียง มีแพทย์ทั้งหมด 12,000 คน พยาบาล 9,000 คน และพนักงานที่เป็น Staff ในตำแหน่งต่าง ๆ อีกประมาณ 15,000 คน (ตัวเลขจากรายงานประจำปี 2562)
ถ้าเทียบขนาดกิจการ หรือ Market Capitalization รั้งอันดับ 1 ใน 5 ของโลก
รายได้จากโรงพยาบาลในเครือทั้งหมด ปี 2562 ที่ผ่านมา เท่ากับ 92,535 ล้านบาท กำไร 15,517 ล้านบาท
30% เป็นลูกค้าต่างชาติ 70% เป็นลูกค้าคนไทย
แต่เป็นอีกธุรกิจหนึ่งที่เจอกับมรสุมโควิด-19 อย่างจัง รายได้ครึ่งปีแรกมีจำนวน 33,980 ล้านบาท ลดลง 16% จากครึ่งปีแรกของปี 2562 ในขณะที่มีกำไร 3,026 ล้านบาท ลดลง 71% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรอยู่ที่ 10,304 ล้านบาท
แม้วันนี้ จุดต่ำสุดของโรงพยาบาลน่าจะผ่านไปแล้ว โดยเริ่มมี OPD Visit หรือผู้ป่วยนอก เพิ่มกลับเข้ามาในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา
แต่ท้องฟ้าก็ยังไม่สดใส วิกฤตครั้งนี้ทำให้รายได้ของคนชั้นกลางถึงสูงในประเทศที่เคยเป็นลูกค้าหลักได้รับผลประทบ ในขณะเดียวกันตัวเลขคนไข้ต่างชาติก็ยังหายไปเกือบหมด จากกรณีที่ยังล็อกดาวน์ประเทศ และรัฐบาลยังขยายเวลาออกไปเรื่อย ๆ มีบางส่วนที่จะผ่อนผันให้เข้ามาบ้างแต่ยังเป็นส่วนน้อยมาก
การตัดลดค่าใช้จ่ายด้านการบริหารจัดการ บุคลากร จึงได้เริ่มมาอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าว่าทั้งปีจะลดได้ประมาณ 2 พันล้านบาท
รวมทั้งล้มดีลการซื้อกิจการของบริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BH ออกไป
ในขณะเดียวกันต้องเร่งหารายได้เพิ่มผ่านกลยุทธ์ทางด้านการตลาดต่าง ๆ เพื่อดึงลูกค้าคนไทยให้เข้ามามากที่สุด พร้อมกับเตรียมแผนรองรับลูกค้าคนไข้ต่างประเทศหลังเปิดประเทศ
ซึ่งคาดเดาได้ยากว่าจะเป็นเมื่อไหร่ และจะดึงคนไข้ต่างชาติกลับมาได้แค่ไหน
แต่ความใหญ่ของเครือโรงพยาบาลกรุงเทพ ที่มีทั้งชื่อเสียงของแบรนด์ และบุคลากรและเครื่องไม้เครื่องมือที่ทันสมัย มีบริการด้านสุขภาพที่ครอบคลุมทุกระดับตั้งแต่เวชศาสตร์ป้องกันไปจนถึงการรักษาโรคที่มีความซับซ้อนรุนแรงและโรคเฉพาะทาง
ทำให้มีความเป็นไปได้มากว่าถ้าฟ้าเปิดโอกาสก็จะกลับมาเร็วอย่างแน่นอน
ความท้าทายทั้งหมดอยู่ในภาระความรับผิดชอบของ หมอปุย และทีมงานที่หมอปราเสริฐฝากความหวังเอาไว้
ส่วนตัวเขาในวัย 87 ปี ก็จะไปลุยขุมทรัพย์แห่งใหม่ ในอภิมหาโปรเจกต์มูลค่าลงทุน 2.9 แสนล้านบาท “สนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก” ที่ร่วมทุนกับ คีรี กาญจนพาสน์ และกำลังจะเริ่มก่อสร้างเฟสที่ 1 ในเร็ว ๆ นี้
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /
