ตลาดทีวีโฮมช้อปปิ้ง 2564 คนยิ่งอยู่บ้าน ตลาดยิ่งโต (วิเคราะห์)
ตลาดทีวีโฮมช้อปปิ้ง ปีที่ผ่านมาได้อานิสงส์จากโควิด-19
แค่เฉพาะ 9 เดือนแรกของปีก็มีมูลค่าไปแล้ว 14,000 ล้านบาท
ซึ่งเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 อยู่ที่ราว 1 หมื่นล้านบาท
เหตุผลไม่ใช่อะไรอื่น นั่นคือการที่ผู้คนไม่ได้เดินทาง เปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภค อยู่บ้านดูทีวีกันมากขึ้น
เปิดช่องไหนแป๊บๆ เดี๋ยวก็มีสินค้ามาเสนอขายให้ดูตลอดเวลา จากที่ไม่ได้อยู่ในลิสต์ที่จะซื้อ แต่ทนไม่ไหวหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรทุกที
ทำให้ในปี 2563 ที่ผ่านมา ภาพรวมตลาดทีวีโฮมช้อปปิ้งทั้งปีอยู่ที่ 16,000 ล้านบาท
ปีที่ผ่านมาก่อนโควิด-19 น้องใหม่รายที่ 16 อย่าง “Happy Shopping” ที่มีเครือเนชั่นถือหุ้น 50% ลงแข่งในตลาดอย่างเป็นทางการ (เปิดตัวกลางปี 62) วางโพสิชั่นคือกลุ่มผู้สูงอายุ ที่เป็นตลาดมีกำลังซื้อ
แม้ตลาดทีวีโฮมช้อปปิ้งจะเติบโต และน่าสนใจจากผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามาทุก ๆ ปี
แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าในยุคนี้ที่ออนไลน์และอีคอมเมิร์ซมาแรง ยิ่งในปีนี้หลังจากโควิด-19 นักการตลาดหลาย ๆ เจ้า มองว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคจะเปลี่ยนไปอย่างชัดเจนรับวิถี New Normal ผู้บริโภคมีทางเลือกในการซื้อสินค้ามากขึ้น
ตลาดทีวีโฮมช้อปปิ้ง จากที่อยู่บนหน้าจอทีวีอาจไม่เพียงพออีกต่อไป
ล่าสุดกับพี่ใหญ่ในวงการทีวีโฮมช้อปปิ้ง ‘ทีวี ไดเร็ค’ ที่มีประโยคคุ้นหูอย่าง โอ้ พระเจ้าจอร์จ มันยอดมาก เพิ่งแถลงทิศทางปี’64 จะบุกอีคอมเมิร์ซเต็มตัว
ไตรมาส 1-2 ของปี จะรุกเพิ่มยอดขายสินค้าบน Social Commerce สร้างคอนเทนต์ผ่าน tiktok พัฒนาเว็บและแอปให้ดีขึ้น
จับมือกับ โมโม่ดอทคอม หรือ Momo.com Inc. (MOMO) ผู้นำธุรกิจโฮมชอปปิ้งและอีคอมเมิร์ซรายใหญ่จากไต้หวัน (โมโม่เข้ามาถือหุ้นเพิ่ม)
วางเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนยอดขายช่องทางออนไลน์ในปีนี้เป็น 15% จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนยอดขายประมาณ 8%
และในปี 2567 จะมีสัดส่วนรายได้จากช่องทางออนไลน์อีคอมเมิร์ซอยู่ที่ 50%
ส่วนอีกฟากที่ถือเป็นน้องใหม่ในธุรกิจทีวีโฮมช้อปปิ้ง อมาโด้ กรุ๊ป ผู้จัดจำหน่ายอาหารเสริม คอลลาเจน ที่ประกาศทิศทางธุรกิจไปเมื่อต้นปี เปิดตัว “Amado Shopping”
ที่ ธนาตรัยฉัตร ภูโชคอนันต์ ซีอีโอและผู้ก่อตั้งอมาโด้ บอกว่า เห็นศักยภาพในการเติบโตของทีวีโฮมช้อปปิ้งที่ส่งสินค้าได้ตรงถึงผู้บริโภค และอมาโด้เองก็มีการขายสินค้าผ่านทีวีโฮมช้อปปิ้งอยู่แล้ว
การเปิดตัว “Amado Shopping” ไม่ได้แค่จะเป็นช่องทางในการขายคอลลาเจนแบรนด์ของตัวเองได้มากขึ้น
แต่อมาโด้ยังจะได้รายได้เพิ่มมากขึ้นจากการเปิดรับพาร์ตเนอร์ทางธุรกิจที่ต้องการนำสินค้ามาจัดจำหน่ายผ่านทาง Amado Shopping
ที่ชูจุดเด่นด้วยการเก็บค่า GP ต่ำกว่า 25%
ทั้งหมดนี้คือความเคลื่อนไหวแค่ 2 เจ้าในตลาดทีวีโฮมช้อปปิ้ง ที่เชื่อว่าช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ตลาดทีวีโฮมช้อปปิ้งจะแข่งกันงัดสารพัดกลยุทธ์ออกมาขายของแน่ ๆ
และจะทำให้ตลาดเติบโตแค่ไหน หรือจะโดนการซื้อของออนไลน์และอีคอมเมิร์ซมาช่วงชิงเม็ดเงิน ต้องรอดู
I-
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ