“แอสเซทไวส์” ผนึก Doctor A to Z ดึงแพลตฟอร์มดิจิทัล ดูแลสุขภาพลูกบ้าน เจ้าแรกของอสังหาฯ นำร่องใช้ที่โครงการ “Kave TU” ตอกย้ำการเป็นผู้นำด้าน Health Facility
“แอสเซทไวส์” นำเทรนด์ Digital Health จับมือ Doctor A to Z บริษัทเทคโนโลยีด้าน Health Tech ต่อยอด “Health Station” ยกระดับการดูแลสุขภาพของลูกบ้านด้วยแพลตฟอร์มเทคโนโลยีบริการด้านสุขภาพออนไลน์แบบครบวงจร ย้ำการเป็นผู้นำด้าน HealthFacility เจ้าแรกของวงการอสังหาฯ ให้ลูกบ้านเข้าถึงบริการทางการแพทย์ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ได้ตลอด 24 ชม. ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยยุค New Normal นำร่องใช้งานที่คอนโด Kave TU แห่งแรก ก่อนขยายการให้บริการไปยังทุกโครงการอื่น ๆ ต่อไป
ล่าสุด ได้ต่อยอดการดูแลสุขภาพของลูกบ้านให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น โดยร่วมมือกับ Doctor A to Z ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มเทคโนโลยีบริการด้านสุขภาพออนไลน์ ที่มีประสบการณ์ด้านอุตสาหกรรมสุขภาพมากว่า 20 ปี ซึ่งมีจุดเด่นคือ เป็นศูนย์รวมบริการทางการแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ โดยมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางให้บริการอยู่ในแพลตฟอร์ม Telemedicine มากกว่า 1,200 คน จาก 22 สาขา โดยลูกบ้านที่มีปัญหาด้านสุขภาพ จะสามารถปรึกษาแพทย์ออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านแอปพลิเคชัน Doctor A to Z ซึ่งจะเป็นการช่วยลดเวลาในการรักษาของทั้งแพทย์และคนไข้ และยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการรักษาดูแลสุขภาพสำหรับลูกบ้านได้อีกด้วย
“แอสเซทไวส์ เล็งเห็นว่าการมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ทั้งในด้านไลฟ์สไตล์ และสุขภาพ ที่พร้อมให้บริการและง่ายต่อการเข้าถึงแก่ลูกบ้าน ถือเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญที่จะช่วยสร้างความสุขให้กับผู้อยู่อาศัยได้อย่างแท้จริง โดย Doctor A to Z จะเข้ามามีส่วนร่วมในการต่อยอด Health Station ซึ่งแต่เดิมมีโรงพยาบาลสมิติเวช และโรงพยาบาลเปาโล ให้บริการด้านสุขภาพอยู่แล้วทำให้เกิดความหลากหลายของบริการทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ให้กับลูกบ้าน ผ่านการเชื่อมต่อแพลตฟอร์ม เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้บริการ Telemedicine และการซื้อเวชภัณฑ์ทางการแพทย์อื่น ๆ เพิ่มเติม รวมถึงให้ความรู้ และสร้างกิจกรรมด้านสุขภาพร่วมกันเพื่อให้ลูกบ้านได้รับการดูแลด้านสุขภาพที่สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะสอดคล้องกับแนวทางของแอสเซทไวส์ที่ให้ความสำคัญเรื่องสุขภาพของลูกบ้านมาโดยตลอด ภายใต้แนวคิด “Health Solution” ซึ่งประกอบด้วย 4 ด้าน ได้แก่ Virtual Health, Health Privilege, Health Living และ Health Activity โดยแพลตฟอร์มดังกล่าวจะเริ่มนำร่องใช้ที่โครงการ “เคฟ ทียู” (Kave TU)และมีแผนที่จะนำไปใช้กับทุกโครงการในเครือของแอสเซทไวส์
นายกรมเชษฐ์กล่าวเพิ่มเติมว่า “เราเชื่อมั่นว่าการร่วมมือในครั้งนี้ รวมถึงการพัฒนา Health Station อย่างต่อเนื่อง จะตอกย้ำวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นตั้งใจในการยกระดับการดูแลสุขภาพของลูกบ้านได้อย่างครบวงจร ทั้งยังตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยในยุค New Normal เพื่อให้ลูกบ้านได้รับบริการด้านสุขภาพที่ดี และสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น พร้อมปรับตัวเพื่อให้เข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อสร้างความสุขในการอยู่อาศัยให้กับลูกบ้านได้อย่างแท้จริง”