สถานการณ์โควิดรอบใหม่ในจีนกลายเป็นปัจจัยลบต่อการทำธุรกิจของแบรนด์ฟาสต์ฟู้ดดังสัญชาติอเมริกัน และยังติดลบไปถึงสิ้นไตรมาสนี้ด้วย
Yum China บริษัทที่ถือครองลิขสิทธิ์ของแบรนด์ฟาสต์ฟู้ดในเครือ Yum เช่น KFC และ Pizza Hut ในจีน เผยว่าครึ่งแรกของเดือนมีนาคม ยอดขายของทั้ง 2 แบรนด์ตกลงไป 20% โดยสาเหตุหลักคือการระบาดรอบใหม่ของโควิดตามเมืองใหญ่ ๆ ในจีนจนนำมาสู่มาตรการล็อกดาวน์
เมื่อไม่นานมานี้ จีนเผชิญการระบาดของโควิดรอบใหม่ ตามพื้นที่สำคัญ ๆ ทางเศรษฐกิจ เช่น นครเซี่ยงไฮ้ มณฑลกวางตุ้ง มณฑลจี๋หลิน และมณฑลชานตง โดยตามรายงานทางการจีนระบุว่า เมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา พบผู้ติดเชื้อ 2,125 คนกระจายอยู่ใน 58 เมือง
ในจำนวนนี้ เซินเจิ้น เมืองศูนย์กลางอุตสาหกรรมเทคโนโลยีจีนระบาดหนักสุด จนทางการจีนต้องสั่งใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อยับยั้งไม่ให้การระบาดลามติดประชากรกว่าทั้ง 17.5 ล้านคนในเมือง
Foxconn ยักษ์โรงงานรับจ้างผลิต (OEM) ไต้หวัน ซึ่งสร้างชื่อจากการผลิต iPhone รับลูกทันที ด้วยการสั่งปิดโรงงานในเซินเจิ้นแล้ว
สถานการณ์ระบาดรอบใหม่ในจีนเป็นปัจจัยลบต่อยอดขายฟาสต์ฟู้ด โดย Yum China เผยว่า 2 สัปดาห์แรกของเดือนมีนาคม ยอดขายของ KFC และ Pizza ลดลงไป 20% ซึ่งผลจากมาตรการล็อกดาวน์ทำให้ต้องปิดสาขาในพื้นที่ระบาดไปแล้วกว่า 1,100 แห่ง แล้วเปลี่ยนไปใช้แบบบริการแบบส่งตามสั่ง (Delivery) แทน
Yum China คาดว่าการระบาดของโควิดรอบใหม่จะกระทบอย่างหนักต่อยอดขายของไตรมาสแรกปีนี้ โดยจะทำให้ยอดขายอยู่ที่ระหว่าง 165-200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 5,518 ถึง 6, 689 ล้านบาท) ลดลงจาก 342 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 11,439 ล้านบาท)
ส่วนมาตรการล็อกดาวน์ในเซินเจิ้นจะใช้ไปจนถึงวันที่ 20 มีนาคมนี้ โดยทางการจีนจะมีการประเมินสถานการณ์ต่อเนื่องและให้คนทั้งเมืองมาตรวจหาเชื้อ 3 ครั้งต่อวันไปจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น
มาตรการล็อกดาวน์ในเซินเจิ้นยังส่งผลกระทบโดยตรงต่อบริษัทเทคโนโลยีจีน อย่าง Tencent BYD และ ZTE ที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในเมืองนี้ โดยนอกจากทำให้พนักงานต้องหยุดงานแล้ว ยังฉุดให้หุ้นที่ซื้อ-ขายอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงเมื่อวานนี้ (14 มีนาคม) ลดลง 9.8% 8.3% และ 7% อีกด้วยตามลำดับ/cna, reuters, cnn
–
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Marketeeronline.co
Facebook: www.facebook.com/marketeeronline
