ไฮโดรเจน เทคโนโลยีที่จีนมาแรง ยื่นจดสิทธิบัตรมากเป็นอันดับ 2 ของโลก
Astamuse บริษัทสำรวจและเก็บรวบรวมข้อมูลด้านพลังงานของญี่ปุ่นเผยว่า ปัจจุบันบริษัทญี่ปุ่นยังคงเป็นหนึ่งในด้านเทคโนโลยีไฮโดรเจน ด้วยจำนวนสิทธิบัตรมากสุดในโลก
แต่จะประมาทและชะล่าใจไม่ได้เด็ดขาด เพราะศักยภาพด้านนี้ของจีนเพิ่มขึ้นอย่างมากจากการสนับสนุนของรัฐบาล จนจำนวนสิทธิบัตรเพิ่มขึ้นมาอยู่อันดับสองแล้ว และยังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วอีกด้วย
เพราะญี่ปุ่นไม่มีแหล่งพลังงานของตัวเอง จึงมีการพัฒนาเทคโนโลยีด้านพลังงานอย่างจริงจัง โดยหนึ่งในเทคโนโลยีที่ญี่ปุ่นสนใจและมุ่งพัฒนามาตลอดหลายปีคือไฮโดรเจน ซึ่งมีจุดแข็งอยู่ที่การไม่ก่อมลพิษ
ปี 2014 Toyota กลายเป็นบริษัทยานยนต์แห่งแรกของโลกที่พัฒนารถที่ใช้เซลล์พลังงานจากไฮโดรเจนได้สำเร็จ และปี 2020 รถที่ใช้เซลล์พลังงานจากไฮโดรเจนของ Toyota ก็วิ่งได้ไกลขึ้น 30%
ด้านบริษัทอื่น ๆ ของญี่ปุ่นก็ไม่น้อยหน้า พัฒนาเทคโนโลยีพลังงานจากไฮโดรเจนตาม ๆ กันออกมา เช่น J-Power จับมือกับ Kawasaki ผลิตเครื่องบินพลังไฮโดรเจนออกมา ขณะที่ Iwatani สามารถสกัดไฮโดรเจนจากถ่านหินสีน้ำตาลในออสเตรเลีย
พัฒนาการดังกล่าวทำให้ Toyota เป็นบริษัทที่มีศักยภาพด้านไฮโดรเจนมากสุดในโลก ขณะที่บริษัทร่วมชาติอย่าง Honda Nissan Panasonic และ Kyocera ก็ติด 20 อันดับแรก ในลำดับรอง ๆ ลงมา
ตามข้อมูลของ Astamuse บริษัทสำรวจและเก็บรวบรวมข้อมูลด้านแวดวงพลังงานของญี่ปุ่นซึ่ง Nikkei สำนักข่าวใหญ่ร่วมชาติมีหุ้นอยู่ ระบุว่า ตั้งแต่ปี 2011-2020 บริษัทญี่ปุ่นขอยื่นจดสิทธิบัตรเทคโนโลยีไฮโดรเจน 34,624 รายการ ถือว่ามากเป็นอันดับ 1 ของโลก
ทว่าลดลง 30% จากเมื่อปี 2001-2010 ตรงข้ามกับจีนที่แรงขึ้นมา โดยจากอันดับ 5 ในระหว่างปี 2001-2010 พอปี 2011-2020 จำนวนสิทธิบัตรก็เพิ่มขึ้น 10 เท่า มีสิทธิบัตร 21,235 รายการ ถือว่ามากเป็นอันดับ 2 ของโลกแซงหน้าสหรัฐฯ เกาหลีใต้ และเยอรมนีไปแล้ว
สภาพการณ์ดังกล่าวจึงหมายความว่าแม้ญี่ปุ่นยังครองอันดับ 1 แต่ก็ประมาทไม่ได้ เพราะจีนกำลังเร่งเครื่องจนหายใจรดต้นคอแล้ว และพร้อมแซงขึ้นอยู่อันดับ 1 แทนญี่ปุ่นได้ทุกเมื่อ
โอกาสที่จีนจะแซงบริษัทญี่ปุ่นได้ในด้านเทคโนโลยี ไฮโดรเจน ถือว่าเป็นไปได้ ยืนยันได้จากการเลื่อนจากอันดับ 5 ขึ้นมาอันดับ 2 และรัฐบาลก็พร้อมทุ่มงบประมาณสนับสนุนเต็มที่
ทั้งนี้จีนเพิ่งมีการประกาศนโยบายด้านพลังงานไฮโดรเจนเพิ่มเติมอีกเมื่อมีนาคมที่ผ่านมา โดยตั้งเป้าพัฒนารถพลังงานไฮโดรเจนและส่งลงถนนให้ได้ 50,000 คันในปี 2025 โดยอีก 10 ปีต่อไปจะพัฒนาเทคโนโลยีไฮโดรเจนให้มากยิ่งขึ้นจนเป็นระดับอุตสาหกรรมพร้อมระบบนิเวศทางพลังงานนี้แบบครบวงจร/nikkei
–
Website : Marketeeronline.co /
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ