ตัวเลขการส่งออกสินค้าของไต้หวันไปจีนปีนี้คงจะลดลงอีกมาก สืบเนื่องจากความสัมพันธ์ที่ตกต่ำลงและความไม่พอใจของจีนต่อการไปเยือนไต้หวันของ Nancy Pelosi ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ จนนำมาสู่การที่จีนสั่งห้ามนำเข้าสินค้าไต้หวันเพิ่มอีก
แม้ไต้หวันยืนยันมาตลอดว่าเป็นประเทศเอกราช แต่จีนก็ไม่เคยยอมรับและไม่เคยละความพยายามที่จะผนวกเข้าไปเป็นดินแดนใต้อาณัติ โดยเรื่องนี้จะทวีความร้อนแรงขึ้นทุกครั้งหากมีนักการเมืองจากชาติตะวันตกเดินทางไปเยือนไต้หวัน
Nancy Pelosi
ล่าสุดสถานการณ์ระหว่างจีนกับไต้หวันร้อนแรงขึ้นอีกครั้ง หลัง Nancy Pelosi ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เดินทางถึงไต้หวัน โดยไม่สนใจการทัดทานจากประธานาธิบดี Joe Biden กับกองทัพ
แน่นอนว่านี่ทำให้จีนไม่พอใจอย่างมาก เพราะเป็นการเยือนของนักการเมืองสหรัฐฯ ระดับสูงครั้งแรกในรอบ 25 ปี ท่ามกลางความพยายามของไต้หวันในการเพิ่มบทบาทในเวทีโลก โดยเฉพาะทางเทคโนโลยีผ่านการเป็น “ยักษ์เล็ก” ในอุตสาหกรรมชิป
และอีกประเด็นที่มองข้ามไปไม่ได้เลยคือตัว Nancy Pelosi เองก็ถือเป็นนักการเมืองสหรัฐฯ ที่ต่อต้านจีนอย่างเปิดเผยมาตลอด จนอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนก่อน ๆ ต้องเว้นระยะห่าง โดยเธอเคยไปชูป้ายประท้วงจีนและสนับสนุนประชาธิปไตยที่จัตุรัสเทียนอันเหมินมาแล้วเมื่อปี 1991
และเคยพยายามยื่นเอกสารให้อดีตรองประธานาธิบดี หู จิ่นเทา ปล่อยตัวบรรดานักโทษการเมืองจีนอีกด้วย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ หลิว เซี่ยวป๋อ ที่ต่อมาได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ แต่จีนไม่ให้เดินทางไปนอกประเทศจนสุดท้ายเสียชีวิตจากโรคมะเร็งระหว่างการถูกควบคุมตัวนั่นเอง
จีนแสดงความไม่พอใจต่อการไปเยือนไต้หวันของ Nancy Pelosi ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ วัย 82 ปี ทั้งด้วยการแถลงประณาม มีความเคลื่อนไหวทางทหาร และยังได้มีการเพิ่มมาตรการ ‘สั่งแบน’ สินค้า ไต้หวัน
ตามรายงานของ Nikkei สำนักข่าวใหญ่ของญี่ปุ่นระบุว่า ในเว็บไซต์ของกรมศุลกากรจีน สินค้าไต้หวันที่ขึ้นบัญชีสั่งห้ามนำเข้าที่มีอยู่แล้ว 2,000 รายการ มีเพิ่มขึ้นมาอีก 50 รายการ โดยประกอบไปด้วยผัก อาหารทะเล ขนม และเครื่องดื่ม
ด้าน หวัง ติงหยู สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรค DDP ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลไต้หวัน วิจารณ์ว่าจีนข่มขู่ไต้หวันด้วยมาตรการทางการค้า และรัฐบาลจะช่วยเหลือบริษัทส่งออกที่ได้รับผลกระทบ
สำหรับจีนถือหนึ่งในตลาดส่งออกที่สำคัญของไต้หวัน โดยปี 2021 มูลค่าการส่งออกเฉพาะอาหารและเครื่องดื่มอยู่ที่ 683 ล้านดอลลาร์ (ราว 24,700 ล้านบาท) และเฉพาะครึ่งปีนี้อยู่ที่ 183 ล้านดอลลาร์ (ราว 6,600 ล้านบาท)
แต่บริษัทส่งออกไต้หวันก็ไม่สามารถวางใจตลาดจีนได้เต็มที่เลย เพราะมักจะได้รับผลกระทบจากความสัมพันธ์ที่เปราะบางของรัฐบาลทั้งสองประเทศอยู่เสมอ
เมื่อกลางปี 2021 เกษตรกรผู้ส่งออกสับปะรด น้อยหน่า และชมพู่ไต้หวัน ก็ต้องเจ็บปวดจากมาตรการห้ามนำเข้าของจีนเพราะไม่พอใจรัฐบาลไต้หวันมาแล้ว/nikkei, theguardian, bbc
–
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Marketeeronline.co
Facebook: www.facebook.com/marketeeronline
