ใครๆก็ชอบกินขนม เพราะอร่อย ทานง่าย กินเมื่อไหร่ก็ได้ นั่นจึงเป็นสาเหตุให้อุตสาหกรรมนี้มีมูลค่าถึง 30,000 ล้านบาท และยังมีผู้เล่นเกิดใหม่มากมาย จนตอนนี้ตลาดขนมครอบคลุมตั้งแต่ ลูกอม หมากฝรั่ง บิสกิต ช็อกโกแลต เยลลี่ และอื่นๆ ซึ่งนี่ยังไม่รวมมันฝรั่งทอดกรอบอีก 9,000 ล้านบาทด้วย
จุดประสงค์หลักของผู้บริโภคที่ซื้อขนมขบเคี้ยวนั้น คงไม่ได้ต้องการกินแทนอาหาร แต่ต้องการกินเวลาว่าง กินเพื่อรองท้องเท่านั้น ทำให้งบของผู้บริโภคพร้อมที่จะตัดส่วนนี้ออกไปได้ทันที เพราะ ‘เป็นสินค้าไม่จำเป็น’ และยิ่งเทรนด์รักสุขภาพ การกินคลีน และไม่ทานขนม กำลังฮอตในตอนนี้ ไม่ว่าจะทำการตลาดขนาดไหน ก็คงต้องมีชะลอกันบ้าง
นั่นจึงเป็นสาเหตุให้ การออกผลิตภัณฑ์เพื่อลบจุดด้อยของขนมจึงเกิดขึ้น โดยตลาดมันฝรั่งทอดกรอบนั้นเป็นตัวอย่างชั้นดี เช่น เลย์กับเทสโต ที่หันมาใช้น้ำมันรำข้าว และลดปริมาณไขมันลง ซึ่งก็ถือว่าสร้างสีสันได้ดีทีเดียว ในขณะที่ขนมอย่างช็อกโกแลต หรือขนมที่มีน้ำตาลเยอะๆ จะให้ลดน้ำตาลไป รสชาติก็ไม่เหมือนเดิม จึงเป็นสาเหตุให้ขนมประเภทที่มีน้ำตาลเยอะต้องรีบปรับตัว อย่างโคอะล่า มาร์ช ขนมหมีช็อกโกแลต จากไทย ลอตเต้ ก็ มีการเตรียมนำเข้าโคอะล่า มาร์ช รสชาติอื่นๆเข้ามาเช่นกัน
และเมื่อต้องออกขนมใหม่ หลายแบรนด์ก็จำเป็นที่จะต้องทำการตลาดอย่างเต็มที่ เพื่อที่จะให้ขนม หรือรสชาติใหม่ๆนั้น เข้าหูผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด โดยถ้างบเยอะการใช้ TVC ก็สามารถทำให้คนจดจำได้เป็นวงกว้าง รองลงมาก็ออนไลน์ตามสื่อต่างๆ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ การทำตลาดที่จุดขาย และโปรโมชั่น ที่จะสร้างการรับรู้อย่างได้ผลที่สุด
ในยุคที่กำลังซื้อของภาคครัวเรือนยังไม่กลับมา อุตสาหกรรมขนมก็ต้องดินรนต่อไป ไม่ว่าจะเป็นลดราคา ออกโปรโมชั่น โฆษณาต่างๆ หนำซ้ำเทรนด์รักสุขภาพ และขนมรูปแบบใหม่ๆ ก็กำลังตบเท้ามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งขนมที่ดีต่อสุขภาพ และแคลอรี่ต่ำ
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Marketeeronline.co
Facebook: www.facebook.com/marketeeronline



