เมตาโพลิส ผนึกหน่วยงานรัฐ-รัฐวิสาหกิจ-เอกชน-สถาบันการเงิน-สถาบันการศึกษา เปิดตัว Metapolis (เมตาโพลิส) โปรเจกต์เมตาเวิร์ส ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ดิจิทัลครบวงจร พร้อมผังเมืองที่ใส่แลนด์มาร์กของกรุงเทพฯ
นายสุกิจ ตั้งเต็มจิตร ประธานกรรมการ บริษัท เมตาโพลิส จำกัด บริษัทผู้พัฒนาธุรกิจโลกเสมือนจริง เมตาเวิร์ส (Metaverse) รายแรกของเมืองไทย ที่มีประสบการณ์มากกว่า 15 ปี เผยว่า เมตาโพลิส เป็นบริษัทที่เริ่มเข้ามาพัฒนาธุรกิจโลกเสมือนจริง หรือ เมตาเวิร์ส (Metaverse) และเกมสามมิติ ในประเทศไทย มาตั้งแต่ปี 2552
ทั้งเริ่มทำ Virtual 3D ให้กับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน และพัฒนาโครงการ Ubermall หรือ ห้างสรรพสินค้าเสมือนจริง โลกเสมือนจริงเชิงพาณิชย์รายแรกของไทย เมื่อปี 2554
โดยจากกระแส เมตาเวิร์ส (Metaverse) ในปัจจุบัน บริษัทจึงมีแนวคิดจะต่อยอดนำความรู้ และประสบการณ์ที่ผ่านมา พัฒนาโปรเจกต์ให้ก้าวหน้าไปอีกขั้น
โดยต่อยอดสู่การพัฒนาเมืองจำลองขึ้น กับโปรเจกต์เมตาเวิร์ส Metapolis ที่จับมือร่วมกับพันธมิตรทั้งภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ เอกชน สถาบันการเงิน สถาบันการศึกษา ฯลฯ มาร่วมออกแบบเมือง เพื่อให้ผู้เล่น (User) ได้มาใช้ชีวิตดิจิทัลบนโลกเมตาเวิร์ส
ไม่ว่าจะเป็น การท่าเรือแห่งประเทศไทย, สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล, บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน), บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน), บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮล ดิ้งส์ จำกัด (มหาชน), บริษัท บาเซโลนา มอเตอร์ จํากัด, บริษัท นานมีบุ๊คส์ จำกัด เป็นต้น
ซึ่งร่วมกันพัฒนาเมืองจำลองขึ้นอย่างครบวงจร บนโลกเมตาเวิร์ส Metapolis เช่น การซื้อขายครอบครองที่ดิน การชอปปิงในศูนย์การค้า โดยผู้เล่นสามารถใช้ร่างอวตาร (Avatar) โต้ตอบ หรือมีปฏิสัมพันธ์กับเกมที่เห็นอยู่ตรงหน้า
ผ่านแผนผังโครงสร้างของกรุงเทพฯ และมีแลนด์มาร์กของเมือง เช่น เสาชิงช้า ถนนราชดำเนินคลุมไปถึงเยาวราช รวมถึงสถานที่สำคัญต่าง ๆ ภายในเมือง ก็สามารถเข้าจับจองเป็นเจ้าของ เพื่อสร้างสิ่งปลูกสร้างที่เป็นตัวคุณเอง และเก็บเกี่ยวทรัพยากรต่าง ๆ พัฒนาไปสู่ผลงาน NFT (สินทรัพย์ดิจิทัล) ที่เกิดจากการสร้างด้วยตัวเอง
ไม่ว่าจะเป็นการสร้างที่ดิน สร้างอาคาร และองค์ประกอบอื่น ๆ สร้างสังคม ชุมชนขึ้นมาเป็นโลกคู่ขนานกับสังคมที่เราอยู่จริง ๆ ทั้งกิจวัตรประจำวัน การทำงาน การใช้ชีวิตไปจำลองให้ได้มากที่สุด เช่น สถานศึกษา โรงพยาบาล ศูนย์การค้า การทำธุรกรรมต่าง ๆ อย่างครบวงจร

นายชาติชาย พยุหนาวีชัย อดีตผู้อำนวยการธนาคารออมสิน และที่ปรึกษาโครงการ Metapolis เสริมว่า ได้นำความรู้ และประสบการณ์ด้านการเงินการธนาคาร มาเป็นแนวคิดหลักในการออกแบบระบบเศรษฐศาสตร์ของโลกเมตาเวิร์สแห่งนี้
ทำให้ปัจจุบัน มีพาร์ทเนอร์หรือองค์กร ร่วมโปรเจกต์ Metapolis มากกว่า 50 ราย และได้ตั้งเป้าผู้ใช้งานไว้เบื้องต้น ประมาณ 1 ล้านราย เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่
ซึ่งตอนนี้โปรเจกต์เมตาเวิร์ส Metapolis ได้พัฒนาไปถึงเฟสที่ 3 ของปี 2565 โดยสามารถลองเข้าใช้งาน และติดตามความคืบหน้าในการพัฒนาได้ทาง https://www.metapolis.in.th/
Metapolis จะมีจุดแข็งทั้งในเรื่องประสบการณ์ และทีมงานผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้โดยเฉพาะ สามารถให้คำปรึกษาธุรกิจไหนบ้าง ที่จะเหมาะสมกับเมตาเวิร์สหรือไม่อย่างไร รวมทั้งมีพันธมิตรทางการค้าที่แข็งแรง และพร้อมจับมือไปด้วยกันในระยะยาว
อาทิ การท่าเรือแห่งประเทศไทย โดยนายเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย ที่เล็งเห็นความสำคัญของดิจิทัลเทคโนโลยี ในมุมของการพัฒนาภาครัฐวิสาหกิจ
ก็ได้นำเทคโนโลยีเมตาเวิร์ส มาใช้ในการทำงาน เช่น การเปิดศูนย์ให้บริการประชาชนเสมือนจริง หรือจำลองเส้นทางโลจิสติกส์ เพื่อให้คนทั่วไปรู้ได้ว่าโลจิสติกส์มีระบบอย่างไร และทำความเข้าใจในบทบาทหน้าที่ของการท่าเรือฯ มากขึ้น
นอกจากนั้น ยังมีพันธมิตรจาก สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ตามนโยบายภาครัฐ ที่มีแนวคิดในการนำเทคโนโลยีดิจิตอลมาใช้สร้างโลกเมตาเวิร์ส ด้วยการสร้างสำนักงานกองสลากฯ
ให้คนสามารถมาใช้บริการติดต่อ สอบถาม รับเรื่องร้องเรียน หรือหวยออกก็สามารถดูสดได้ผ่าน Virtual Reality เทคโนโลยีการจำลองภาพเสมือนของสถานที่ หรือสภาพแวดล้อมแบบเหมือนเราเข้าไปนั่งในห้องส่ง เพิ่มอรรถรสในการลุ้นรางวัล เป็นต้น
