DHL รุกเป้ากรีนโลจิสติกส์ในไทย ส่งรถตู้ขนส่งไฟฟ้า 16 คันลงตลาดส่งพัสดุทั่วกรุงเทพฯ เตรียมอีก 5 คันลงภาคตะวันออกไตรมาส 3/2566 สู่เป้ายานพาหนะเชิงพาณิชย์เป็น EV สัดส่วน 60% ภายในปี 2573
เฮอร์เบิต วงศ์ภูษณชัย กรรมการผู้จัดการบริษัท ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส หรือ DHL Express ประเทศไทย และหัวหน้าภาคพื้นอินโดจีน ส่วนหนึ่งของกลุ่มบริษัท ดอยช์ โพสต์ ดีเอชแอล กรุ๊ป เผยว่า ดีเอชแอล เป็นบริษัทให้บริการโลจิสติกส์ (Logistics) ระดับโลก ปัจจุบันดำเนินงานอยู่ในประเทศไทยผ่าน 4 หน่วยธุรกิจ ดังนี้
1. DHL Express หรือผู้ให้บริการขนส่งด่วนทางอากาศ, 2. DHL Global Forwarding หรือผู้ให้บริการขนส่งและนำเข้าสินค้าทางอากาศและทางเรือ, 3. DHL Supply Chain หรือ ผู้ให้บริการบริหารจัดการและเก็บรักษาสินค้าคงคลัง
และ 4. DHL eCommerce Solutions หรือ ผู้ให้บริการขนส่งพัสดุภายในประเทศ ซึ่งมีภาคอีคอมเมิร์ซ (E-Commerce) เป็นลูกค้าหลัก โดยปี 2566 ดีเอชแอลได้หันมาให้ความสำคัญกับการทำให้ไทยเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินธุรกิจแบบกรีนโลจิสติกส์ (Green Logistics)
ด้วยการนำรถตู้ขนส่งไฟฟ้า (EV Van) 16 คัน ลงตลาดขนส่งพัสดุในกรุงเทพฯ นอกเหนือจากรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า 50 คัน ที่มีใช้งานในตลาดอยู่แล้วในปัจจุบัน
โดยเริ่มทำตลาดไปแล้วตั้งแต่ช่วงต้นเดือนมีนาคม 2566 ให้บริการทั่วกรุงเทพฯ ในเขตพื้นที่ต่าง ๆ ได้แก่ สาทร, สีลม, ปทุมวัน, พระราม 3, ถนนสุขุมวิท, และถนนเพชรบุรีตัดใหม่
สมรรถนะการใช้งานของรถตู้ขนส่งไฟฟ้าของ ดีเอชแอล รองรับการเดินทางได้ 260 กิโลเมตรต่อการชาร์จไฟเต็มแบบธรรมดา (AC Normal Charge) ในระยะเวลา 8 ชั่วโมง ผ่านสถานีชาร์จที่ติดตั้งอยู่ในคลังสินค้าของดีเอชแอล
เพียงพอต่อการใช้งานมาตรฐาน สำหรับรับ-ส่งพัสดุ 45 จุดจอดต่อวัน มีการใช้งานวิ่งขนส่งพัสดุรวมระยะทาง 3,000 กิโลเมตรต่อเดือน รองรับการบรรทุกของได้ถึง 3.9 ลูกบาศก์เมตร หรือ 1.6 ตัน
มีระบบเบรก ABS, ระบบล็อกอัตโนมัติ, สัญญาณเตือนโดยใช้เซนเซอร์, และระบบควบคุมการกระจายแรงเบรก (EBD), ระบบเทเลเมดิกส์ ตรวจสอบและแจ้งเตือนความปลอดภัย แบบเรียลไทม์เมื่อเกิดเหตุเกี่ยวกับรถและผู้ขับรถได้ทันที
และเป็นบริษัทแรกที่นำระบบสแลมล็อก (Slam Lock) เข้ามาใช้ในรถตู้ขนส่งไฟฟ้ารุ่นนี้ ซึ่งเป็นระบบล็อกประตูรถทุกบานโดยอัตโนมัติ เมื่อผู้ขับรถปิดเพียงประตูเดียว
ทั้งมีแผนเพิ่มรถตู้ขนส่งไฟฟ้าอีก 5 คัน ลงตลาดภายในไตรมาส 3/2566 สำหรับใช้งานเพื่อการขนส่งพัสดุในเส้นทางภาคตะวันออก
รวมพอร์ตรถตู้-มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า สำหรับใช้ขนส่งพัสดุในกรุงเทพฯ-ภาคตะวันออก ทั้งปี 2566 จำนวน 71 คัน (รถตู้ขนส่งไฟฟ้า 16 คันในกรุงเทพฯ, 5 คันในภาคตะวันออก และมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า 50 คันในกรุงเทพฯ)
สู่เป้าหมายที่จะเปลี่ยนมาใช้รถ EV ให้ได้ 60% ของยานพาหนะเชิงพาณิชย์ทั้งหมดที่ดีเอชแอลใช้ในไทย ภายในปี 2573 เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ทั้งสิ้น 436 ตันต่อปี
สอดรับกับเป้าหมายระดับเอเชียแปซิฟิกของดีเอชแอล ที่จะลงทุนเป็นจำนวน 7,000 ล้านยูโร เพื่อสนับสนุนด้านมาตรการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จนถึงปี 2566
รวมถึงการเพิ่มจำนวนยานยนต์ EV ที่ดีเอชแอลวางแผนจะใช้มากกว่า 1,000 คันในกลุ่มธุรกิจขนส่งพัสดุภายในประเทศ ทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ภายในปี 2567
–
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Marketeeronline.co
Facebook: www.facebook.com/marketeeronline



