TOSTEM ทำความรู้จักนวัตกรรมประตูหน้าต่างจากญี่ปุ่น สู่แบรนด์ชั้นนำผลิตภัณฑ์อาคารที่อยู่อาศัยของไทย

ท่ามกลางการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล เทคโนโลยีถูกนำมาใช้ในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ไม่เว้นแม้แต่ธุรกิจอุตสาหกรรมการสร้างบ้าน ที่ปัจจุบันมีการนำเทคโนโลยีมาช่วยพัฒนาทั้ง Total Solution เพื่อให้ตอบโจทย์ Functional และ Emotional ของผู้สร้างและผู้อยู่อาศัยได้อย่างครอบคลุม

ตัวอย่างที่เห็นชัดคือเทคโนโลยีประตูหน้าต่างบ้านจากเดิมที่มีเพียงบานพับ วงกบ กรอบบาน และหน้าที่อย่างการเป็นจุดเชื่อมโยงพื้นที่ ปัจจุบันถูกออกแบบอย่างมีระบบ ตอบโจทย์ทั้งเรื่องความปลอดภัย ทนทาน สวยงาม และลดเวลาการทำงานด้วยระบบการติดตั้งที่ได้มาตรฐาน

ลึกไปกว่านั้นคือการเพิ่มฟังก์ชันเป็นตัวช่วยเรื่องระบบการถ่ายเทอากาศ ปรับอุณหภูมิบ้าน ป้องกันเรื่องเสียงรบกวน รองรับทุกภูมิอากาศและภัยพิบัติต่าง ๆ รวมไปถึงเรื่องความปลอดภัยและดีไซน์ที่สวยงามสร้างสุนทรียภาพแห่งการอยู่อาศัย

หนึ่งในแบรนด์ที่โดดเด่นด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี คือ “ทอสเท็ม” (TOSTEM) แบรนด์ผลิตภัณฑ์ประตู หน้าต่างอะลูมิเนียมจากประเทศญี่ปุ่นที่มีอายุครบ 100 ปีในปีนี้ กับความเชี่ยวชาญด้านการยกระดับคุณภาพสินค้าประตูหน้าต่างอะลูมิเนียมสำหรับที่อยู่อาศัย

เนื่องในโอกาส “100 Years of Wisdom” ของทอสเท็ม Marketeer เดินทางมาพูดคุยกับ วิชา วรสายัณห์ ลีดเดอร์ กลุ่มธุรกิจเฮาส์ซิ่งเทคโนโลยี บริษัท แอล เอช ที เอเซีย เซลส์ แอนด์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ถึงอินไซต์ด้านเทคโนโลยีของทอสเท็ม ที่เป็น Key Success ของการเป็นแบรนด์ชั้นนำผลิตภัณฑ์ประตูหน้าต่างอะลูมิเนียมในประเทศไทยได้ในเวลาเพียง 10 ปี

“ทอสเท็ม” (TOSTEM) คือใคร

ทอสเท็ม (TOSTEM) คือผู้ผลิตและพัฒนาเทคโนโลยีประตูหน้าต่าง หนึ่งในแบรนด์ของกลุ่มธุรกิจ LIXIL Housing Technology (LHT) ในเครือ LIXIL ผู้นำธุรกิจวัสดุก่อสร้างและตกแต่งอาคารจากประเทศญี่ปุ่น ที่มีอายุกว่า 100 ปี ด้วยกลิ่นอายของประเทศญี่ปุ่นและความหลากหลายทางธรรมชาติ ทำให้ทอสเท็มขึ้นชื่อทั้งเรื่องดีไซน์ที่เรียบง่าย มีสไตล์ และมีฟังก์ชันที่ยืดหยุ่น ตอบทุกโจทย์การใช้งานด้วยโซลูชันที่ครบวงจร

“จุดเริ่มต้นของแบรนด์ทอสเท็มในประเทศไทยนั้นเริ่มจากการตั้งโรงงานผลิตที่นวนครเมื่อ 40 ปีก่อน ด้วยวัตถุประสงค์หลักคือเป็นแหล่งผลิตสินค้ากลับไปยังประเทศญี่ปุ่น ราว 10 ปีก่อนทอสเท็มเล็งเห็นโอกาสการเติบโตของตลาดวัสดุก่อสร้างและวัสดุตกแต่งอาคารในประเทศไทย และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จึงเริ่มทำตลาดอย่างจริงจัง

เดิมทีตลาดวัสดุก่อสร้างและวัสดุตกแต่งอาคารนั้นแข่งขันกันด้วยราคา ทำให้ตัวสินค้านอกจากเรื่องวัสดุที่ใช้แล้วด้านฟังก์ชันการใช้งานแทบจะไม่มีความแตกต่างกัน แต่หลังจากเทรนด์เริ่มเปลี่ยน ตลาดเริ่มให้ความสำคัญเรื่องฟังก์ชันและความสวยงามมากขึ้น

ทำให้ทอสเท็มที่เข้ามาบุกตลาดด้วยความโดดเด่นอย่างการเป็น Total Housing Solution เริ่มเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมในกลุ่มดีไซเนอร์ สถาปนิก และดีเวลลอปเปอร์

“สิ่งที่ทอสเท็มโฟกัสคือ ส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า เราไม่ใช่แค่ผู้ผลิตประตูหน้าต่างอะลูมิเนียม แต่เราเป็น Total Housing Solution ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งาน”

Total Housing Solution ดีอย่างไร

คุณวิชาอธิบายให้เห็นภาพมากขึ้นว่า “โซลูชันครบวงจรสำหรับที่อยู่อาศัยของทอสเท็มถูกออกแบบมาให้ใช้งานง่ายและสะดวก โดยใช้ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์พัฒนาเทคโนโลยีและสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดในทุกมิติ”

จุดเด่นของทอสเท็มคือ ผลิตภัณฑ์ ระบบ Pre-Engineered System และนวัตกรรมการชุบสี Anodizing

โดยตัวผลิตภัณฑ์แต่ละรุ่นของทอสเท็มจะมีระบบ ฟังก์ชัน และแนวคิดการออกแบบที่แตกต่างภายใต้คุณภาพ ความทนทาน และนวัตกรรมที่ทันสมัย อย่างที่เกริ่นในข้างต้นว่าภูมิอากาศในประเทศญี่ปุ่นมีความหลากหลาย ทำให้ผลิตภัณฑ์ทุกรุ่นของทอสเท็มถูกออกแบบมาให้รองรับการใช้งานที่หลากหลาย สามารถป้องกันฝุ่น ลม และน้ำรั่วซึมจากฝนที่ตกหนัก แต่ยังคงมีช่องสำหรับระบายอากาศ รู้สึกถึงความโปร่งสบาย ไม่อึดอัด รวมถึงดีไซน์และฟังก์ชันการใช้งานที่ง่าย สะอาด ปลอดภัย และเป็น Universal Design ตามแบบฉบับประเทศญี่ปุ่น

อีกส่วนคือ Pre-Engineered System ระบบการผลิตชิ้นงานแบบสำเร็จรูปเพื่อให้เวลาติดตั้งงานทุกชิ้นส่วนจะต่อกันสนิท  อธิบายเพิ่มเติมคืองานจากทอสเท็มเป็นผลิตภัณฑ์ผลิตตามขนาดที่ลูกค้าต้องการ (Customize) แบบสำเร็จรูป โดยแต่ละชิ้นส่วนของประตูหน้าต่างจะถูกผลิตสำเร็จมาจากโรงงานทอสเท็มโดยตรง เมื่อถึงหน้างานที่ต้องติดตั้งจริงก็เพียงลงมือประกอบ

ข้อดีของ Pre-Engineered System จึงเป็นเรื่องการไม่มีวัสดุเหลือทิ้ง ไม่ต้องเสียเวลาวัดขนาดหรือตัดชิ้นส่วนหน้างาน ช่วยลดปัญหาอุปสรรคความผิดพลาดในการวัดหรือตัดขนาด ทั้งยังประกอบและติดตั้งง่ายใช้เวลาไม่มากโดยช่างผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการอบรมจากทอสเท็มโดยเฉพาะ และเนื่องจากวัสดุทุกชิ้นทอสเท็มเป็นผู้ผลิตเองทั้งหมด ซึ่งสินค้าของทอสเท็มได้รับการการันตีมาตรฐานจาก Japanese industrial Standards (JIS) ทำให้ผู้ใช้งานมั่นใจได้ในคุณภาพและความคงทน

“ระบบ Pre-Engineered หมายความว่า เราตัด-เจาะจากโรงงานมาให้เรียบร้อย อุปกรณ์ต่าง ๆ ทางทอสเท็มเป็นผู้จัดหาทั้งหมด เพราะฉะนั้นเรามั่นใจว่าคุณภาพสินค้าได้มาตรฐานถูกต้องตามที่เราดีไซน์ไว้ เรามี เครือข่ายตัวแทนจำหน่ายที่ต้องผ่านการฝึกอบรมจากทอสเท็มแล้วเท่านั้น ถึงจะนำสินค้าจากทอสเท็มไปนำเสนอหรือไปติดตั้งให้ลูกค้าได้ เรามีทั้งสินค้าที่ดีมีคุณภาพ และระบบการติดตั้งที่ถูกต้องได้มาตรฐาน สองอย่างนี้คือจุดแข็งที่ทำให้ทอสเท็มได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า”

นอกจากสองส่วนข้างต้นแล้ว อีกหนึ่งนวัตกรรมที่เติมให้ทอสเท็มมีเสน่ห์และดึงดูดใจคือ นวัตกรรมการชุบสีพื้นผิวด้วยไฟฟ้าหรือเรียกว่า อะโนไดซ์ (Anodizing) พร้อมชั้นเคลือบ TEXGUARD ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของทอสเท็ม ทำให้สีอะลูมิเนียมจากทอสเท็มมีความสวยงาม ทนทานต่อทุกสภาวะอากาศ ที่สำคัญคือทำความสะอาดง่าย

เพิ่มช่องทางเข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมาย

อย่างไรก็ตาม นวัตกรรมเทคโนโลยีที่ดีจะไม่มีความหมายถ้าแบรนด์ไม่สามารถเข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายได้

กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ของทอสเท็มคือกลุ่มดีไซเนอร์ สถาปนิก และดีเวลลอปเปอร์แต่เมื่อถึงยุคที่เทรนด์เปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน ลูกค้ารายย่อยหรือเจ้าของบ้านหันมาเลือกซื้อสินค้าตกแต่งบ้านเองมากขึ้น ทอสเท็มได้เพิ่มช่องทางการเข้าถึงให้ผู้บริโภคได้เลือกซื้อ สัมผัส ทดลอง และเห็นสินค้าจริง ผ่าน TOSTEM Flagship Showroom ที่ คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ (CDC)

แต่หลังจากเปิดตัว Showroom ได้ไม่นานก็เกิดสถานการณ์โควิด-19 ทอสเท็มได้ขยายช่องทางไปสู่โลกออนไลน์ที่มีทั้งเว็บไซต์, Facebook, IG หรือ LINE official รวมถึงสร้างโชว์รูมเสมือนจริง (Virtual Showroom) ให้ผู้บริโภคสามารถเข้ามาชมได้ง่ายขึ้น พร้อมกันนี้ก็ได้ขยายสาขาโชว์รูมเพิ่มขึ้น และเมื่อสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ที่สร้างไว้จะทำงานร่วมกัน ทำให้แบรนด์ไม่ใช่แค่เข้าถึงผู้บริโภค แต่ยังสร้างประสบการณ์ และเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันให้มากขึ้น

ปัจจุบันทอสเท็มมีโชว์รูมทั้งหมด 4 แห่ง คือ TOSTEM Flagship Showroom CDC, บุญถาวร สาขาราชพฤกษ์, และโชว์รูมที่ภูเก็ต และเชียงใหม่ และกำลังมีแผนจะขยายโชว์รูมในหัวเมืองใหญ่จังหวัดต่าง ๆ ครอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วประเทศ

100 ปี TOSTEM ความสำเร็จที่มาจากนวัตกรรม

ปัญหาของคนทำบ้านคืองานแก้ที่ไม่จบไม่สิ้น แต่ด้วย Total Housing Solution ของทอสเท็มที่ช่วยลดปัญหาการก่อสร้างในส่วนของประตูและหน้าต่าง นั่นเป็นเหตุผลว่า ทำไมกว่า 100 ปีในประเทศญี่ปุ่น และ 10 กว่าปีในประเทศไทย แบรนด์ “ทอสเท็ม” ถึงเป็นชื่อที่ลูกค้านึกถึงเป็นอันดับต้น ๆ

มากกว่านั้นคือการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย มีฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ

ยกตัวอย่าง ประตูหน้าบ้าน GIESTA รุ่นล่าสุดที่ทอสเท็มออกแบบมาให้มีความสูงถึง 3 เมตร ตอบโจทย์เทรนด์และความต้องการของตลาดในปัจจุบัน โดยยังคงคอนเซ็ปต์การเป็นประตูเหล็กลายไม้คุณภาพสูง ระบบมือจับที่ใช้งานง่าย และระบบล็อกนิรภัยแน่นหนา ที่สำคัญคิดเผื่อเรื่องความปลอดภัย ด้วยการกรุยางรอบตัววงกบป้องกันทั้งน้ำและลดอุบัติเหตุรุนแรง

ล่าสุดกับการพัฒนาสีอะลูมิเนียมขึ้นใหม่อย่างสี DUSK GRAY” ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากแสงสุดท้ายของพระอาทิตย์ตกดิน เป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับลูกค้า

“ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีของทอสเท็มทำให้โจทย์ความต้องการที่ว่า ดีไซน์สวยงาม มีฟังก์ชันที่ดีและแข็งแรง มารวมกันได้ อย่างที่บอก DNA ของทอสเท็มมาจากประเทศญี่ปุ่น ดังนั้นทุกการออกแบบมาจากความใส่ใจในคุณภาพ มาตรฐาน และใช้งานได้จริง”

สำหรับใครที่สนใจนวัตกรรมประตูหน้าต่างอะลูมิเนียมจากทอสเท็ม สามารถเข้าไปชมได้ที่โชว์รูมโดยตรง หรือต้องไปดูที่งานสถาปนิกวันที่ 25-30 เมษายน 2566 ณ ชาเลนเจอร์ฮอลล์ 1-2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี บูธ D101

นอกจากจะมีการเปิดตัวสี DUSK GRAY” อย่างเป็นทางการแล้ว เนื่องในโอกาส “100 Years of Wisdom” ทอสเท็มยังเตรียมโปรโมชันเด็ดไว้รออีกด้วย

อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ 
Website : Marketeeronline.co / Facebook : www.facebook.com/marketeeronline



อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Marketeeronline.co
Facebook: www.facebook.com/marketeeronline

ติดตาม Marketeer Online ทาง LINE Official


เพิ่มเพื่อน