สิงห์ เอสเตท เผยไฮไลท์เด่นแผนงานปีนี้ บ้านแนวราบใหม่ 5 โครงการ เริ่ม 15-550 ล้านบาทต่อหลัง, เตรียมเซ็นสัญญาผู้เช่ารายใหญ่ในอาคารสำนักงาน เอส โอเอซิส, เปิดโรงแรม 6 ดาวใหม่ในมัลดีฟส์ ตลอดจนเพิ่มยอดโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินในนิคมอุตฯ เอส อ่างทอง เป็น 2 เท่า รวมงบลงทุน 7 พัน ลบ. เป้ารายได้รวม 1.67 หมื่น ลบ. โต 34% YoY

 

นางฐิติมา รุ่งขวัญศิริโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ Singha Estate เผยว่า ผลการดำเนินงาน ปี 2565 บริษัทสามารถสร้างรายได้รวม 12,500 ล้านบาท โต 62% YoY ผ่านการดำเนินงานใน 4 หน่วยธุรกิจหลัก

 1. ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัย มียอดจองและยอดโอนกรรมสิทธิ์ของโครงการศิรนินทร์ เรสซิเดนเซส สูงถึง 77% และ 30% ตามลำดับ หลังปรับโครงสร้างธุรกิจ และรุกเข้าสู่การพัฒนาบ้านแนวราบอย่างเต็มตัว

2. ธุรกิจโรงแรมภายใต้การบริหารงานของ เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท (SHR) สามารถทำรายได้ทะลุเป้า อยู่ที่ 8,700 ล้านบาท ขึ้นแท่นผู้ประกอบการโรงแรมในไทยที่มีรายได้สูงสุดเป็นอันดับ 2 ของประเทศ

3. ธุรกิจอาคารสำนักงานให้เช่า มีอัตราการเช่าพื้นที่ (Occupancy) ที่ไต่ระดับสูงขึ้น และ 4. ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม มีรายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินในปี 2565 ได้กว่า 77 ไร่

 

ส่วน แผนการดำเนินงานปี 2566 ของบริษัทมี ดังนี้ 1. ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัย เป้ารายได้โต 70% YoY งบลงทุน 5 พันล้านบาท เปิดตัวโครงการบ้านแนวราบใหม่ 5 โครงการ แบ่งเป็น 2 แบรนด์ใหม่ มูลค่าโครงการรวม 10,000 ล้านบาท และมีที่ดินรองรับแล้วทั้งหมด

ประกอบด้วย บ้านเดี่ยวระดับราคา 15-30 ล้านบาท (แบรนด์ใหม่), ระดับราคา 30-50 ล้านบาท (แบรนด์ใหม่), ระดับราคาตั้งแต่ 150 ล้านบาทขึ้นไป

และ Flagship Cluster Home Project ซึ่งมีระดับราคาเริ่มต้นสูงถึง 550 ล้านบาทต่อหลัง ย่าน CBD สุขุมวิท รวมมีเพียง 2 ยูนิต ซึ่งเป็นการขายก่อนแล้วค่อยสร้าง เพื่อความยืดหยุ่นด้านการออกแบบตามความต้องการของลูกค้า

ขณะเดียวกัน เพื่อตอบรับความต้องการในตลาดคอนโดมิเนียมที่กลับมาคึกคักอีกครั้ง บริษัทจึงขยายสัดส่วนการถือครองโครงการ The ESSE Sukhumvit 36 ให้สามารถรับรู้รายได้ และกำไรจากโครงการดังกล่าวเต็ม 100%

2. ธุรกิจโรงแรมภายใต้การบริหารงานของ เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท (SHR) เป้ารายได้ โต 20% YoY งบลงทุน 1 พันล้านบาท (รวมกับงบ ธุรกิจอาคารสำนักงาน) โดยโรงแรมในเครือที่ประเทศไทยทั้ง 4 แห่งจะเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญ

เน้นการเติบโตของอัตราการเข้าพักรวม แตะระดับ All-time High ที่ 75% สนับสนุนให้ SHR สามารถครองตำแหน่งผู้ประกอบธุรกิจบริหารจัดการโรงแรม รายได้สูงสุดเป็นอันดับ 2 ของไทยต่อเนื่อง

 

โรงแรม SO/Maldives

นอกจากนี้ ในช่วงปลายปีจะมีการเปิดตัว SO/ Maldives โรงแรมไลฟ์สไตล์หรูระดับ 6 ดาว ในโครงการครอสโรดส์ มัลดีฟส์ ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง SHR และพันธมิตรทางธุรกิจ รวมห้องพัก 80 ห้อง ราคาห้องพัก เฉลี่ย 24,000-34,000 บาทต่อคืน คาดผลประกอบการจะสร้างกำไรให้กับบริษัทในระยะยาวได้ในอีกทางหนึ่ง

3. ธุรกิจอาคารสำนักงานให้เช่า เป้ารายได้โต 20% YoY งบลงทุน 1 พันล้านบาท (รวมกับงบธุรกิจโรงแรม) จากการที่มีสัญญาณฟื้นตัวดีอย่างต่อเนื่องด้วยกลยุทธ์โมเดลธุรกิจ Right sizing ซึ่งนำเสนอขนาดพื้นที่ให้เช่าที่หลากหลาย ควบคู่กับโมเดลธุรกิจ Ready-to-move หรือการจัดสรรพื้นที่ให้เช่าพร้อมใช้งาน

ปีนี้บริษัทจึงตั้งเป้าอัตราการเช่าพื้นที่สูงกว่า 90% ในทุกโครงการ ทั้ง สิงห์ คอมเพล็กซ์ ซันทาวเวอร์ส และ เอส เมโทร รวมถึงโครงการอาคารสำนักงานล่าสุด อย่าง เอส โอเอซิส บนถนนวิภาวดีรังสิต บริเวณห้าแยกลาดพร้าว ศูนย์กลางธุรกิจที่เปี่ยมศักยภาพแห่งใหม่ พร้อมเซ็นสัญญาผู้เช่ารายใหญ่ในไตรมาส 2/2566

 

อาคารสำนักงาน เอส โอเอซิส

4. ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม เป้ารายได้โต 200% YoY งบลงทุน 1 พันล้านบาท บริษัทจะเพิ่มยอดโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินในนิคมอุตสาหกรรม เอส อ่างทอง เป็น 2 เท่า จากแรงหนุนสำคัญของปัจจัยมหภาค โดยบีโอไอคาดระดับการลงทุนจากต่างประเทศคงตัวได้ที่ราว 5-6 แสนล้านบาท

ทั้งความร่วมมือกับการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) และจุดแข็งของนิคมอุตสาหกรรม เอส อ่างทอง ซึ่งตอบโจทย์ธุรกิจที่หลากหลาย โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจที่ต้องการใช้พลังงานและน้ำจำนวนมาก และธุรกิจที่ต้องการใช้พลังงานสะอาดในการผลิตเป็นเงื่อนไขเพื่อขยายสู่ตลาดระดับสากล อย่างธุรกิจอาหาร

เนื่องจากนิคมตั้งอยู่ในทำเลยุทธศาสตร์ที่เป็นจุดศูนย์กลางระหว่างแหล่งวัตถุดิบอาหาร และเส้นทางการขนส่ง มีแหล่งน้ำจืดขนาดใหญ่ แหล่งไฟฟ้าคาร์บอนต่ำ และมีโรงไฟฟ้า 3 แห่ง

ภายใต้ความร่วมมือกับ บมจ. บี. กริม เพาเวอร์ (BGRIM) ซึ่งจะมีกำลังผลิตไฟฟ้าสูงสุดครบ 400 เมกะวัตต์ ภายในสิ้นปีนี้ นอกจากนี้ การเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ของโรงไฟฟ้า จะผลักดันส่วนแบ่งกำไรให้เติบโตอย่างต่อเนื่องได้ในระยะยาว

รวมบริษัทจะใช้งบลงทุนใน 4 หน่วยธุรกิจหลัก ปีนี้ 7,000 ล้านบาท ตั้งเป้ารายได้ 16,700 ล้านบาท โต 34% YoY มาจากรายได้ โรงแรม-อาคารสำนักงานให้เช่า 12,000 ล้านบาท, นิคมอุตสาหกรรม 1,000 ล้านบาท และอสังหาฯ เพื่อการอยู่อาศัย 4,000 ล้านบาท

อนึ่ง แผนการดำเนินงานระยะยาว บริษัทตั้งเป้าขับเคลื่อนทุกกลุ่มธุรกิจให้มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ที่ 20% ใน 3 ปีหลังจากนี้ ผ่านการผนึกกำลังทั้งภายใน และภายนอกเครือบริษัท

และตั้งเป้าหมายสู่การเป็นองค์กรที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2573 ด้วยการเริ่มลดการปล่อยคาร์บอนให้ได้ถึง 5% ต่อปีหลังจากนี้ และเพิ่มเทคโนโลยีที่นำพลังงานสะอาดมาใช้ในกระบวนการดำเนินธุรกิจ



อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Marketeeronline.co
Facebook: www.facebook.com/marketeeronline

ติดตาม Marketeer Online ทาง LINE Official


เพิ่มเพื่อน