ถ้าพูดถึงธุรกิจที่ต้องทรานส์ฟอร์มตัวเองอยู่ตลอด กลุ่มธนาคารหรือสถาบันการเงิน คือตัวอย่างอันดับต้น ๆ ที่หลายคนนึกถึง อีกทั้งการเข้ามา Disrupt ของเทคโนโลยี ทำให้ธุรกิจธนาคารต้องเร่งทรานส์ฟอร์ม ทั้งในมิติการบริหารงานเพื่อการเติบโต การบริการ กระทั่งการสื่อสารแบรนด์ เพื่อให้องค์กรเดินหน้าไปสู่เป้าหมายได้ตามที่คาดหวัง

ธนาคารกรุงศรี คือหนึ่งในกรณีศึกษาที่น่าสนใจที่สุดในเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นยุค Digital Banking, Mobile Banking และการมาของ Fintech ที่แข่งขันกันอย่างรุนแรง จนมาสู่ยุคของ Cashless Society ที่ธนาคารต้องทำมากกว่าการให้บริการฝากถอนโอนจ่าย

ด้วยแนวคิด Customer Centricity หรือการคิดจากความต้องการของลูกค้า ทำให้ทุก ๆ การทรานส์ฟอร์มของธนาคารกรุงศรี คิดอย่างเข้าใจลูกค้า และหน้าที่สำคัญที่สุดคือการมอบโซลูชันทางการเงิน เพื่อให้ชีวิตของลูกค้าง่ายขึ้นกว่าเดิม

นอกจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการแล้ว ในด้านการสื่อสารแบรนด์ธนาคารกรุงศรีก็ทำได้ดีไม่แพ้กัน

Make Life Simple วิวัฒนาการของ Tagline สู่คำมั่นสัญญา “ชีวิตง่าย ได้ทุกวัน”

ย้อนกลับไปในปี 2011 ธนาคารกรุงศรีได้ประกาศสโลแกนใหม่คือ “เรื่องเงิน เรื่องง่าย” พร้อมการทรานส์ฟอร์มแบบอินไซด์เอาต์ (Inside Out) ที่เริ่มจาก DNA ภายในอย่างพนักงาน ก่อนถ่ายทอดผ่านการดำเนินธุรกิจให้ตอบความต้องการของผู้บริโภคมากที่สุด ยกตัวอย่างผลิตภัณฑ์ในยุคนั้น เช่น “ออมทรัพย์มีแต่ได้” บัญชีเงินฝากดอกเบี้ยสูงที่สามารถถอนได้ หรือ “ออมทรัพย์จัดให้” ที่ทำเรื่องค่าธรรมเนียมให้เป็นเรื่องง่าย โดยเป็นบัญชีที่ฟรีทุกการทำธุรกรรม

ในปี 2018 เมื่อเข้าสู่ยุค Cashless Society ที่ Digital Banking มีผลต่อวงการธนาคารอย่างมาก ธนาคารกรุงศรีได้มีการศึกษาเพื่อค้นหาความต้องการของผู้บริโภคที่แท้จริงให้ลึกมากยิ่งขึ้น ซึ่งพบว่า ปัจจัยที่แท้จริงคือความสะดวกของลูกค้าต่างหากที่มีผลต่อการเลือกใช้บริการ

กล่าวคือ ลูกค้าเป็นผู้เลือกใช้บริการว่าตอนนั้นสะดวกแบบไหนก็จะเลือกใช้บริการแต่ละช่องทาง อาจจะอยู่ในห้างสรรพสินค้า เดินไปทำธุรกรรมที่สาขาสะดวกกว่า หรืออยู่บ้านอยากโอนเงินก็สามารถทำธุรกรรมได้ผ่าน Mobile Banking ดังนั้น ทุกช่องทางของธนาคารมีความจำเป็น และต้องตอบสนองความต้องการของลูกค้า ณ ขณะนั้นให้ได้

ในตอนนั้นธนาคารกรุงศรีจึงพัฒนาเทคโนโลยีมุ่งสู่ดิจิทัล ควบคู่ไปกับการขยับขยายช่องทางต่าง ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าธนาคารให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น และเป็นที่มาของแนวคิด #กรุงศรีอยู่นี่นะ ที่ทำให้ทุกเรื่องยากง่ายได้ และนำไปปรับใช้ได้กับทุกบริการและทุกผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่มี โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

เมื่อปี 2020 ท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 ที่ผู้คนกำลังเจอวิกฤตรอบด้าน ธนาคารกรุงศรีได้ทำหน้าที่เป็นแบรนด์ที่พร้อมอยู่เคียงข้างผู้บริโภคในทุกสถานการณ์ ส่งมอบ “ความห่วงใย” ผ่านผลิตภัณฑ์ แคมเปญ และความช่วยเหลือหลากหลายรูปแบบ ผ่านแคมเปญ “ความห่วงไม่เคยห่าง #กรุงศรีอยู่นี่นะ”

ความห่วงใยในแบบฉบับกรุงศรีที่เชื่อมั่นในเรื่อง การลงมือทำอย่างตั้งใจ สม่ำเสมอและต่อเนื่อง จนเห็นเป็นรูปธรรมในทุก ๆ สถานการณ์หรือทุกความท้าทาย

จาก “เรื่องเงิน เรื่องง่าย” สู่ “ชีวิตง่าย ได้ทุกวัน”

จากวิวัฒนาการของการสื่อสารในข้างต้นจะเห็นได้ว่า เป้าหมายของธนาคารกรุงศรี คือการทำให้ชีวิตของทุกคนง่ายขึ้น ผ่านผลิตภัณฑ์ที่ตรงและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน

ล่าสุดปี 2023 ท่ามกลางการแข่งขันที่เข้มข้นขึ้น ธนาคารกรุงศรี ยังคงยึดหลัก Customer Centricity และกลับมามองที่อินไซต์ความต้องการของผู้บริโภคและบริบทของสังคมที่เปลี่ยนอีกครั้ง และพบว่าความง่าย หรือ Simplicity มีความสำคัญมากขึ้นและยังเป็นสิ่งที่ลูกค้ายิ่งมองหาในช่วงเวลานี้

เพื่อให้ผู้คนในยุคนี้มีเวลามากขึ้น ได้ใช้ชีวิตกับสิ่งที่รัก และได้ทำสิ่งที่สนใจ ธนาคารกรุงศรีจึงเพิ่มมิติเรื่อง “ความง่าย” ให้มากขึ้น จากความง่ายในมิติเรื่องเงินและการทำธุรกรรมทางการเงิน มาเป็นความง่ายในมิติของโซลูชันทางการเงินที่ตอบโจทย์ การเป็นพันธมิตรที่ลูกค้าวางใจ และการช่วยให้ลูกค้าใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น

เป็นที่มาของการรีแบรนด์พร้อมเปลี่ยนแท็กไลน์ภาษาไทยใหม่เป็น “ชีวิตง่าย ได้ทุกวัน” ขณะที่แท็กไลน์ภาษาอังกฤษยังคงเป็น “Make Life Simple” ที่ลูกค้าคุ้นเคย ที่สำคัญการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะเป็นคำมั่นสัญญา แกนหลักและรวมเป็นส่วนหนึ่งของค่านิยมองค์กร จากพนักงานสู่ลูกค้า ด้วยการมุ่งมั่นยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลางอย่างต่อเนื่อง การพัฒนาและนำเสนอนวัตกรรมโซลูชัน ควบคู่กับการสร้างและส่งมอบประสบการณ์ที่ง่ายเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่ม

เปิดตัวหนังโฆษณา ให้คุณใช้เวลากับเรื่องสำคัญ กรุงศรี ชีวิตง่ายได้ทุกวัน 

นอกจากนี้ เพื่อสื่อสารไปยังลูกค้าคนสำคัญ ธนาคารกรุงศรีได้เปิดตัวหนังโฆษณาชุดใหม่ “ให้คุณใช้เวลากับเรื่องสำคัญ กรุงศรี ชีวิตง่ายได้ทุกวัน บอกเล่าความหมายและเป้าหมายของแท็กไลน์ คำมั่นสัญญาใหม่ให้ชัดเจนมากขึ้น

โดยตัวหนังหยิบยกเรื่อง “เวลา” มาเป็นแก่นในการเล่าเรื่อง เพราะเข้าใจว่า “เวลา” ของแต่ละคนมีความสำคัญไม่เหมือนกัน บางคนใช้เวลาเพื่อไปเที่ยว ช้อปปิ้ง เที่ยวคาเฟ่ เก็บเงินซื้อบ้านใหม่ รถคันใหญ่ นั่งกอดแมว หรือแค่นอนทิ้งตัว

“กรุงศรี” จะทำทุกทางเพื่อให้ลูกค้าได้มีเวลาไปทำในเรื่องสำคัญ โดยให้ทุกคนใช้เวลากับกรุงศรีให้น้อยที่สุด ผ่านการทำธุรกรรม โซลูชันทางการเงิน และการบริการต่าง ๆ ที่กรุงศรีพัฒนาให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้น ไม่ว่าเรื่องสำคัญของคุณคืออะไร กรุงศรีพร้อมทำให้คุณมีชีวิตที่ง่ายได้ทุกวัน

แน่นอนว่าการเปิดตัวแท็กไลน์และหนังโฆษณาใหม่นี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้น ตลอดทั้งปีนี้กรุงศรีมีอะไรใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นโซลูชันทางการเงิน การบริการ รวมถึงแคมเปญการสร้างแบรนด์ มาให้เราได้ใช้ได้ชมกันแน่นอน

ทั้งหมดนี้ไม่เพียงสะท้อนจุดยืนของแบรนด์ที่ว่า กรุงศรีจะเป็นพันธมิตรที่มีเครือข่ายระดับโลก ส่งมอบความง่ายผ่านนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าได้มีเวลาไปทำในสิ่งที่มีความหมายในทุกช่วงชีวิต ในมุมธุรกิจยังทำให้เห็นว่า กรุงศรีเป็นองค์กรใหญ่ที่ไม่อุ้ยอ้าย พร้อมเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และก้าวไปข้างหน้าโดยที่ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

รายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://bit.ly/3GRuShy



อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Marketeeronline.co
Facebook: www.facebook.com/marketeeronline

ติดตาม Marketeer Online ทาง LINE Official


เพิ่มเพื่อน