หลังจากที่โคคา-โคล่านำ ชเวปส์กลิ่นผลไม้ เข้าร่วมแข่งขันในน้ำโซดากลิ่นผลไม้ หรือ สปาร์คกลิ้งกลิ่นผลไม้ เพื่อแข่งขันในตลาดมาแล้วพักใหญ่
ในวันนี้ตลาดโซดากลิ่นผลไม้เติบโตมากขึ้นจากผู้เล่นรายใหญ่ที่ขยายพอร์ตโฟลิโอเข้าสู่ตลาดนี้ ทั้งแบรนด์ทิปโก้ที่เปิดตัว ทิปโก้ อิซซี่ น้ำโซดากลิ่นพีช, ส้มยูสุ, มิกซ์เบอร์รี่ และ มะม่วง ในไตรมาสสามปี 2022
โอสถสภาส่ง ชาร์ค อุเมะ โซดา ลงเล่นในตลาดปลายมีนาคม 2023
การลงเล่นในตลาดของแบรนด์ต่าง ๆ มาจากมองเห็นโอกาสของตลาดน้ำโซดากลิ่นผลไม้ ที่มีมูลค่าประมาณ 2,200 ล้านบาท เติบโต 2 หลักในปีที่ผ่านมา
โดยตลาดน้ำโซดากลิ่นผลไม้คิดเป็นสัดส่วน 4% ของตลาดน้ำอัดลมที่มีมูลค่า 56,000 ล้านบาท ข้อมูลนี้อ้างอิงจากริชา ซิงห์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด โคคา-โคล่า ประจำประเทศไทย เมียนมา และลาว
การเติบโตของตลาดโซดากลิ่นผลไม้ ถือเป็นการเติบโตมากกว่า ตลาดน้ำอัดลมรวมที่มีการเติบโต 7% ในปีที่ผ่านมา
เหตุผลที่ตลาดนี้เติบโตมาจากตลาดโซดากลิ่นผลไม้สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้ดื่มเครื่องดื่มได้ถึง 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มน้ำอัดลม ทั้งน้ำดำและน้ำสี และกลุ่มเครื่องดื่มโซดา
ในตลาดนี้ปัจจุบันคู่แข่งในตลาดช่วยกันผลักดันการเติบโต
ประกอบกับผู้บริโภคในปัจจุบันมีไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป นิยมความหลากหลายในการดื่มเครื่องดื่ม และประสบการณ์ใหม่ ๆ ในการดื่ม และให้ความนิยมดื่มเครื่องดื่มปราศจากน้ำตาลมากขึ้นจากการใส่ใจสุขภาพ
และแบรนด์น้ำโซดากลิ่นผลไม้ต่าง ๆ ทำตลาดผ่านจุดขายน้ำตาล 0% เพื่อดึงดูดเม็ดเงินผู้บริโภคเช่นกัน
เมื่อตลาดน้ำโซดากลิ่นผลไม้มีโอกาสที่น่าสนใจ โคคา-โคล่า จึงขยายโอกาสในตลาดนี้ ด้วยการเปิดตัวแบรนด์น้องใหม่ Ooha (อู-ฮ่า) มีจุดเด่นปราศจากน้ำตาล และ 0 แคลอรี และนำรสชาติ 2 รสชาติมามิกซ์รวมกัน เริ่มต้น 2 รสชาติให้เลือก ได้แก่ กลิ่นเลมอนผสมซีซอล์ท และกลิ่นลิ้นจี่และโยเกิร์ต ในราคากระป๋องละ 16 บาท
พร้อมกับวางกลุ่มเป้าหมายเจาะกลุ่ม Gen Z อายุ 14-25 ปีเป็นหลัก ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายคนละกลุ่มกับคู่แข่งแบรนด์อื่น เช่นชาร์ค อุเมะ โซดา เจาะกลุ่ม Gen Y
และยังเป็นกลุ่มเป้าหมายคนละตลาดกับชเวปส์ที่เน้นวัยทำงาน อายุ 25-49 ปี ที่นิยมดื่มเครื่องดื่มเพื่อเข้าสังคมและสังสรรค์สไตล์เพื่อไม่แย่งชิงตลาดกันเอง
ริชา ซิงห์ ยังให้เหตุผลว่า Gen Z เป็นกลุ่มที่ชอบไลฟ์สไตล์ที่แอ็กทีฟ และนิยมดื่มเครื่องดื่มรสชาติที่ยอดเยี่ยมและสุขภาพพร้อม ๆ กัน
และกลุ่ม Gen Z ยังเป็นกลุ่มที่ โคคา-โคล่า ให้ความสำคัญกับการนำเครื่องดื่มชนิดต่าง ๆ ออกสู่ตลาดอีกด้วย
การเข้าตลาดถึงกลุ่ม Gen Z ของ Ooha เน้นการทำตลาดรูปแบบผ่านสื่อโฆษณา ทั้งนอกบ้านและสื่อดิจิทัล รวมถึงการนำนนกุล-ชานน สันตินธรกุล ร่วมโปรโมตแบรนด์เข้าถึงกลุ่มแฟนคลับ Gen Z
พร้อมกับใช้พลังของไทยน้ำทิพย์ และหาดทิพย์ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายกระจายสินค้าไปถึงกลุ่มเป้าหมาย
การเข้ามาของ Ooha แม้จะเป็นโอกาสในการเปิดตลาดเครื่องดื่มโซดากลิ่นผลไม้ แต่ในตลาดนี้มีความท้าทายจากผู้เล่นรายใหญ่อย่างสิงห์ ที่มี โซดาเลมอน เป็นเครื่องดื่มรสชาติที่ใกล้เคียงกับ Ooha กลิ่นเลมอนซีซอลท์
และมีบริษัทเครื่องดื่มขนาดใหญ่เปิดตัวลงเล่นตลาดในเวลาห่างกันไม่ถึงปีอย่าง ทิปโก้ อิซซี่ และ ชาร์ค อุเมะ โซดา ซึ่งแต่ละแบรนด์ต่างมีกลยุทธ์การตลาดเป็นของตัวเองเพื่อสร้าง Brand Awareness และยอดจำหน่ายให้กลับมาจากเครื่องดื่มชนิดนี้
รวมถึงยังต้องแข่งขันกับเจ้าตลาดอย่างสิงห์ และการสร้างความแตกต่างจากชเวปส์ให้ชัดเจนเพื่อไม่ให้กินส่วนแบ่งตลาดกันเอง
พร้อมกับแข่งขันกับคู่แข่งที่เป็นน้ำโซดากลิ่นที่ไม่ใช่ผลไม้ แต่จับกลุ่ม Gen Z เหมือนกับ Ooha เช่น ตันซันซู โซดากลิ่นโซจู บอมบ์ และโซจู โยเกิร์ต ซึ่งสองกลิ่นนี้เป็นกลิ่นที่มีจุดขายด้านความแตกต่างอย่างชัดเจน
อย่างไรก็ดี การลงเล่นตลาดของ Ooha ยังเป็นหนึ่งเกมต่อยอดปรากฏการณ์รุกตลาดครั้งใหญ่ของโคคา-โคล่า ประเทศไทย หลังจากทุกอย่างเริ่มกลับมาจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
ในปีที่ผ่านมา โคคา-โคล่า ประเทศไทย มีการเปิดตัวเครื่องดื่มรสชาติใหม่ และการปรับสูตรใหม่ถึง 15 ชนิด เช่น การเปิดตัวโค้ก มาชเมโล่ การปรับสูตรแฟนต้า สไปรท์ และอื่น ๆ เพื่อเป้าหมายคือการปรับตัวเองเพื่อรักษาและเพิ่มรายได้จากกลุ่มธุรกิจเครื่องดื่มต่าง ๆ ผ่านนวัตกรรมและการนำลูกค้าเป็นศูนย์กลางในการพัฒนาเครื่องดื่มใหม่ ๆ
ในปัจจุบันกลุ่มธุรกิจโคคา-โคล่า ในประเทศไทย มี 4 กลุ่มหลักได้แก่
กลุ่มน้ำอัดลม ได้แก่ โค้ก, แฟนต้า, สไปรท์, ชเวปส์ และ Ooha
กลุ่มน้ำดื่ม ได้แก่ น้ำทิพย์ และน้ำแร่บอนอควา
กลุ่มน้ำผลไม้ ได้แก่ มินิทเมด สแปลช
กลุ่มชา ได้แก่ ฟิวซ์ ที
โดยในกลุ่มน้ำอัดลม โค้ก คงความเป็นผู้นำในตลาดน้ำดำด้วยส่วนแบ่ง 56.1%
ส่วน Ooha น้องใหม่แบรนด์นี้จะทำตลาดได้แค่ไหน คงต้องดูพลังกันต่อไป
–
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Marketeeronline.co
Facebook: www.facebook.com/marketeeronline



