หลังเป็นแกนนำฝ่ายพันธมิตรที่ชนะสงครามโลกครั้งที่ 2 สหรัฐฯ ก็ขึ้นมาเป็นมหาอำนาจโลก และทยอยส่งออกวัฒนธรรมผ่านอาหารการกิน สื่อบันเทิงและกีฬา ซึ่งมีส่วนสำคัญให้ “ความเป็นอเมริกัน” รู้จักและดังไปทั่วโลก ถือได้ว่าต้นแบบการขยายอำนาจและอิทธิพลแบบอ่อน (Soft power) ตรงข้ามกับการกำลังทางทหารหรืออำนาจแข็งกร้าว (Hard power) 

ในส่วนของกีฬาอเมริกันฟุตบอล บาสเกตบอล และเบสบอล จะไม่มีผู้คนนอกสหรัฐฯ เล่นกันเลย ถ้าสหรัฐฯ ไม่ได้นำไปเผยแพร่ไว้ตามประเทศต่าง ๆ หลังสงครามครั้งนั้น และต่อด้วยการถ่ายทอดการแข่งขันไปยังประเทศอื่น ๆ

ตัวอย่างที่ชัดเจนของ Soft power ด้านกีฬาผ่าน American game คือ การโด่งดังของเบสบอลที่ฝังรากลึกในญี่ปุ่น กระทั่งกระจายต่อไปสู่สื่อบันเทิงของญี่ปุ่น อย่างหนัง ซีรีย์ และการ์ตูนด้วย 

Touch มังงะเบสบอลเรื่องดัง 

แต่ก็ด้วยการที่ American Game เหล่านี้ดังมากในสหรัฐฯ นี่เองลีก ทำให้กีฬาประเภทอื่นที่คนทั่วโลกนิยมกันตกเป็นรองและอยู่ใต้เงา American game เมื่อมาถึงสหรัฐฯ ชัดเจนที่สุดคือกรณีของฟุตบอล ซึ่งสหรัฐฯ เรียกกว่าซ็อกเกอร์

สหรัฐฯ พยายามหลายครั้งที่จะทำให้ลีกฟุตบอลในประเทศดังเหมือนประเทศอื่น โดยเฉพาะประเทศแถบยุโรป ตลาดใหญ่ของกีฬาประเภทนี้ เพื่อหวังให้ทีมชาติสหรัฐฯ เข้าไปได้ถึงรอบลึก ๆ เมื่อมีการแข่งขันฟุตบอลโลก

NASL คือลีกฟุตบอลแรกของสหรัฐฯ โดยตั้งขึ้นเมื่อปี 1968 แต่จากการที่แต่ละสโมสรแข่งกันทุ่มเงินคว้านักเตะดัง ๆ อย่าง Pele, Johan Cruyff, Gerd Mueller และ George Best มาเข้าสังกัดมากเกินไป หลายสโมสรจึงประสบปัญหาการเงิน

Pele

จนที่สุดลีกต้องปิดตัวไปในปี 1984 โดยมี New York Cosmos ต้นสังกัดของ Pele คือสุดยอดของลีกด้วยการสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ไปได้ 5 สมัย

ฟุตบอลหายไปจากแวดวงกีฬาสหรัฐฯ กว่าทศวรรษ โดยกลับมาลีกแข่งกันอีกครั้งในปี 1996 หรือ 2 ปี หลังสหรัฐฯ เป็นเจ้าภาพจัดฟุตบอลโลก ซึ่งบราซิลชนะอิตาลีเพราะความผิดพลาดของ Roberto Baggio นักเตะดังอิตาลีขณะนั้นที่ยิงบอลข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย 

Roberto Baggio

ลีกฟุตบอลสูงสุดในสหรัฐฯ ในครั้งที่ 2 ใช้ชื่อว่า Major League Soccer หรือ MLS โดยฤดูกาลแรกในปี 1996 มี 10 สโมสรร่วมเข้าแข่งขัน ซึ่งหนึ่งในนั้นมี LA Galaxy ที่ต่อมาจะสำคัญต่อวงการฟุตบอลสหรัฐฯ รวมอยู่ด้วย

อีก 10 ปีถัดจากนั้น MLS ก็ยังคงลุ่ม ๆ ดอน ๆ โดยสโมสรที่เข้าร่วมแข่งขัน ขยับไปมาระหว่าง 10-12 สโมสรเพราะมีบางสโมสรต้องยุบไปจากปัญหาการเงิน

David Beckham

ปี 2007 เกิดเหตุการณ์สำคัญใน MLS ซึ่งมาจากนักเตะดังที่คนทั่วโลกแม้ได้เป็นแฟนบอลก็รู้จัก โดย David Beckham ย้ายจาก Real Madrid ในสเปน มาเล่นให้กับ LA Galaxy ซึ่ง MLS มีการขยายเพดานค่าตัวสำหรับนักเตะบางคน

เปิดทางให้นักเตะดังค่าตัวแพงย้ายมาได้ หรือ Beckham rule เพื่อเรียกความสนใจจากนักเตะดัง ๆ จากลีกนอกสหรัฐฯ โดยเฉพาะลีกยุโรป

Beckham rule ช่วยให้ MLS มีนักเตะดัง ๆ จากยุโรปหรืออเมริกาใต้ย้ายมาค้าแข้งเพิ่มขึ้นตาม David Beckham แต่ก็ยังไม่มากเท่าที่ควร เพราะส่วนใหญ่มาในช่วงปลายอาชีพ จนแฟนบอลดูถูกว่า MLS เป็นลีกของนักเตะใกล้เกษียณ

ด้าน David Beckham หลังเลิกเล่นก็ย้ายมาอยู่สหรัฐฯ  และยังคงพยายามช่วยพัฒนา MLS เหมือนที่เป็นคนแรกที่ได้ใช้กฎเพิ่มเพดานค่าตัว

Masayoshi Son 

ปี 2018 เขาจับมือกับ Simon Fuller มหาเศรษฐีวงการบันเทิงสหรัฐฯ ผู้คิดค้นรายการ American Idol และ Masayoshi Son มหาเศรษฐีชาวญี่ปุ่นเชื้อสายเกาหลีใต้ เจ้าของค่ายโทรคมนาคม Softbank ตั้งสโมสร Inter Miami ขึ้น

การตั้ง Inter Miami ที่ David Beckham เป็นแกนนำทำให้ MLS ขยายมายัง Miami ทำให้จำนวนสโมสรในลีกเพิ่มขึ้น ท่ามกลางรายงานว่าเขาสร้างสโมสรแห่งนี้เพื่อวางแผนคว้าตัว Leonel Messi ซึ่งเห็นได้จากการนำอดีตทีมงานของ Barcelona มาทำงานด้วย

เวลาถัดมาจากนั้น MLS ก็มีสโมสรดเพิ่มขึ้น พร้อมพัฒนาขึ้นจากระบบปั้นนักเตะเยาวชนที่ดีขึ้น จนมีบางคนได้ย้ายไปอยู่สโมสรใหญ่ ๆ ในยุโรป โดยปี 2022 มีนักเตะจากทวีปอเมริกาเหนือ 33 คนใน MLS ย้ายไปเล่นในยุโรป

Matt Turner

เช่น Matt Turner ที่ย้ายจาก New England Revolution ไป Arsenal, Daryl Dyke ที่ย้ายจาก Orlando City ไป West Bromwich Albion และ Ricardo Pepi ที่ย้ายจาก FC Dallas ไป Augsburg  

ปีนี้ MLS เรียกเสียงฮือฮาได้มากสุดในรอบหลายปี ด้วยการได้ตัว Lionel Messi ที่ไม่มีความสุขกับ PSG มาเล่นในลีก ซึ่งสโมสรที่ทุ่ม 60 ล้านดอลลาร์ (ราว 2,000 ล้านบาท) ต่อปี เพื่อให้ได้ตัวกัปตันทีมชาติอาร์เจนตินาชุดแชมป์ฟุตบอลโลกปี 2022 มาอยู่ด้วยเป็นเวลา 2 ปีครึ่ง คือ Inter Miami ที่ David Beckham เป็นหัวเรือใหญ่ และมีข่าวว่าอยากได้ตัวเขานั่นเอง

Lionel Messi

Inter Miami เอาใจ Lionel Messi เต็มที่ ด้วยการคว้าตัว Sergio Busquets อดีตเพื่อนร่วมทีมจาก Barcelona กับ Gerardo Martino อดีตโค้ชทีมชาติอาร์เจนตินาและโค้ช Barcelona พร้อมเม็ดเงินจากส่วนแบ่งอีกมากมาย

Gerardo Martino

ท่ามกลางความหวังว่า Lionel Messi จะมาช่วยพลิกสโมสรที่แพ้ต่อเนื่องให้เป็นแชมป์ พร้อมยอดขายเสื้ออีกมหาศาลเหมือนที่ทำได้ตลอดการอยู่กับ Barcelona และ PSG

การย้ายสโมสรครั้งล่าสุดของ Lionel Messi พร้อมปัดข้อเสนอกลับ Barcelona หรือย้ายไปลีกตะวันออกกลางตามนักเตะดัง ๆ ร่วมรุ่นหลายคน

Cristiano Ronaldo

รวมถึงคู่ปรับอย่าง Cristiano Ronaldo ส่งผลดีต่อ Inter Miami ทันทีในนัดประเดิมสนาม เมื่อ 21 กรกฎาคมที่ผ่านมา

Lionel Messi พาต้นสังกัดใหม่ชนะ Cruz Azul ไป 2-1 โดยที่ตัวเขายิงลูกฟรีคิกปิดเกม พาให้นัดนี้กลายเป็นข่าวใหญ่ในสหรัฐฯ และจากนี้แฟนบอลทั่วโลกก็คงหันมามอง Inter Miami กับ MLS มากขึ้น

เพราะหาก Lionel Messi เรียกฟอร์มเก่งให้ Inter Miami ได้ก็จะช่วยให้ MLS ได้รับความสนใจมากขึ้น จนนักเตะดังคนอื่น ๆ ย้ายมามากขึ้น

และจะส่งผลต่อพัฒนาการกับความนิยมของฟุตบอลในสหรัฐฯ โดยร่วมก่อนการเป็นเจ้าภาพจัดฟุตบอลโลกปี 2026 ร่วมกับแคนาดาและเม็กซิโก ซึ่งอาจเป็นทัวร์นาเมนต์อำลาทีมชาติของ Lionel Messi ซึ่งอีก 3 ปีข้างหน้าจะอายุ 39 ปีอีกด้วย/bbc, theguardian, wikipedia, cnn



ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ

.
Marketeer ฉบับดิจิทัล : อ่านบน Ookbee / อ่านบน meb
.
Marketeer ฉบับ PDF : https://marketeermagazine.com/
.
Marketeer ฉบับกระดาษ : สั่งซื้อทางไปรษณีย์ Inbox มาที่ เพจ Marketeer Online