ไทยประกันชีวิต ถอดวิธีคิดทำหนังให้เป็นมากกว่าโฆษณา พร้อมสร้างแรงบันดาลใจได้เสมอ

“Live Life to The Fullest” ภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ล่าสุดจาก “ไทยประกันชีวิต” กำลังกลายเป็น Talk of the town อย่างมากในทุกช่องทาง ด้วยเนื้อหาที่สื่อได้อย่างตรงจุด กระชากอารมณ์ ให้แง่คิด และน่าจดจำ พร้อมสะกิดให้ใคร ๆ ที่รับชมต่างต้องย้อนมามองตัวเองและฉุกคิดถึงคนรอบข้างอย่างแน่นอน

นี่เป็นอีกครั้งที่ THE ORIGINAL SADVERTISING” อย่างไทยประกันชีวิต สามารถเรียกน้ำตาไปพร้อมกับฝากความประทับใจและมุมมองดี ๆ ให้กับทุกคน

ซึ่งแนวคิดและมุมมองของการสร้างสรรค์ผลงานในครั้งนี้คงไม่มีใครให้คำตอบได้ดีเท่า คุณไชย ไชยวรรณ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ที่จะมาเปิดเผยเบื้องหลังอย่างเจาะลึกในทุกแง่มุม

ให้คนตระหนักถึงคุณค่าของความรัก คุณค่าของชีวิต และคุณค่าของมนุษย์

“ภาพยนตร์โฆษณาไทยประกันชีวิตพัฒนาบนแนวคิดที่ต้องการให้คนตระหนักถึงคุณค่าของความรัก คุณค่าของชีวิต และคุณค่าของมนุษย์ (Value of Love, Value of Life & Value of People) ซึ่งโฆษณา ‘Live Life to The Fullest’ ยังคงพัฒนาอยู่บนแนวคิดนี้เช่นเดียวกัน”

คุณไชยกล่าวถึงแนวคิดในการสร้างสรรค์ภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้ ซึ่งเสมือนการสานต่อ Brand Purpose ของไทยประกันชีวิต หรือเจตนารมณ์ของแบรนด์ ในการมุ่งเป็นแบรนด์ที่ได้รับความชื่นชอบ ได้รับความไว้วางใจ และมุ่งสร้างแรงบันดาลใจ จุดประกายความคิดให้กับคนในสังคมผ่านภาพยนตร์โฆษณา

ซึ่งไทยประกันชีวิตนับเป็นบริษัทประกันชีวิตแห่งแรก ๆ ที่สื่อสารแบรนด์ผ่านภาพยนตร์โฆษณา เพื่อสะท้อนแนวคิด “ให้รักดูแลชีวิต” โดยเดินเรื่องด้วยแกนหลักคือ “คุณค่าความรัก” อันเป็นการจุดประกายความคิดให้กับคนในสังคมมาอย่างต่อเนื่อง และสะท้อนให้เห็นว่าแบรนด์ให้คุณค่าและเชื่อมั่นในความรักของครอบครัว คนรอบข้าง และคนในสังคม

“เราต้องการให้โฆษณาเรื่องนี้สร้างแรงบันดาลใจ กระตุ้นให้ผู้ชมคิดตามและเห็นคุณค่าของ ‘เวลา’ เพื่อให้ตระหนักถึงเวลาที่มีอยู่กับครอบครัวและคนที่รัก เมื่อชมโฆษณาเรื่องนี้จบแล้วอยากกลับไปใช้เวลาดี ๆ ร่วมกันกับคนที่รัก โดยไม่ต้องรอโอกาส ไม่ต้องรอวันพิเศษ

เพราะไทยประกันชีวิตเชื่อว่า วันที่ดีที่สุด วันที่พิเศษที่สุด คือ ‘วันนี้’ ซึ่งโฆษณา ‘Live Life to The Fullest’ ได้ถ่ายทอดความคิดนี้ให้กับผู้ชม เพื่อให้ทุกคนทำชีวิตทุกวันให้มีความหมาย เพื่อส่งมอบความรักและการดูแลกัน”

มากกว่าการโฆษณา คือสร้างแรงบันดาลใจ
ให้เห็นคุณค่าของความรักและคุณค่าของชีวิต

คุณไชยอธิบายเพิ่มเติมว่า แนวคิด Value of Love, Value of Life เป็นแนวคิดที่สื่อสารกับคนได้แบบไร้กาลเวลา (Timeless) เพราะเรื่องของความรักและชีวิตเป็นพื้นฐานในการดำรงชีวิตของคน และเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับทุกคน ทุกกลุ่ม ทุกเพศ ทุกวัย

การนำเสนอภาพยนตร์โฆษณาภายใต้แนวคิดนี้นั้น สะท้อนถึงรูปแบบการดำเนินธุรกิจของไทยประกันชีวิต เพราะ แก่นของธุรกิจประกันชีวิตเกิดจากการเห็นคุณค่าของความรักและคุณค่าของชีวิต (Value of Love, Value of Life) ซึ่งการซื้อประกันชีวิตต้องเกิดจากความรัก ความรักที่เป็นการให้โดยไม่หวังผลตอบแทน ที่ผ่านมา หนังโฆษณาไทยประกันชีวิตจึงอยู่บนพื้นฐานคุณค่าของความรัก คุณค่าของชีวิตทั้งสิ้น จากนั้นได้ยกระดับให้กว้างขึ้นโดยเพิ่มเรื่อง คุณค่าของมนุษย์ (Value of People) เนื่องจากธุรกิจประกันชีวิตเป็นเรื่องของ People Business เพราะเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ Stakeholder ที่ล้วนเป็นคนทั้งสิ้น

“เรามองว่า คุณค่าของความรัก คุณค่าของชีวิต เป็นคุณค่าที่สำคัญสำหรับทุกคน ที่ควรจะสร้างให้เกิดกับตนเอง กับครอบครัว และส่งต่อคุณค่าให้เกิดกับผู้อื่นในสังคม เพื่อให้สถาบันครอบครัวหรือสังคมแข็งแรงขึ้น อย่างเรื่อง ‘Unsung Hero’ ทำหน้าที่สะท้อนมุมมองเพื่อให้สังคมน่าอยู่มากขึ้น หรือเรื่อง ‘My Girl’ ที่ทำให้คนเป็นพ่อและแม่ให้ความสำคัญกับจิตใจของลูก มากกว่าหน้าตาทางสังคมของตนเอง

ซึ่งจะเห็นว่าโฆษณาไทยประกันชีวิตไม่ได้เป็นโฆษณาขายสินค้า แต่เป็นโฆษณาที่ให้แรงบันดาลใจ ให้แง่คิดกับผู้ชมบนแกนที่แข็งแรง คือ คุณค่าของความรัก คุณค่าของชีวิต และคุณค่าของมนุษย์ เพื่อส่งมอบคุณค่านั้นให้กับผู้ชม ขณะเดียวกันหนังโฆษณาของไทยประกันชีวิต มีเนื้อหาและบริบทที่เชื่อมโยงกับคนในแต่ละยุคแต่ละสมัย ทำให้หนังของเราสามารถสร้างแรงบันดาลใจได้เสมอ แต่มุมมองและแรงบันดาลใจอาจแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของผู้ชมแต่ละคน ที่สำคัญหนังโฆษณาทุกเรื่องมีประเด็นให้ผู้ชมขบคิด (Controversial Issue) ทำให้โฆษณาไทยประกันชีวิตได้รับการพูดถึงในวงกว้าง”

ไทยประกันชีวิต “THE ORIGINAL SADVERTISING”
ตำแหน่งอยู่ไม่นาน แต่ตำนานจะอยู่ตลอดไป

Philip Kotler

Philip Kotler ปรมาจารย์ด้านการตลาดระดับโลกได้นิยามคำว่า “Sadvertising” (SAD + Advertising) ให้กับภาพยนตร์โฆษณาของไทยประกันชีวิต ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่า Sadvertising แบบฉบับของไทยประกันชีวิตได้สร้างปรากฏการณ์มาตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา ทั้งด้วยเอกลักษณ์ของการนำเสนอและเนื้อเรื่องน่าจดจำที่ล้วนมอบความประทับใจให้แก่ผู้ชม

อาทิ เรื่องราวของปู่ชิว แม่ต้อย เพลง Que Sera Sera และอีกหลายต่อหลายเรื่องราวที่ยังคงอยู่ในความทรงจำ และเคยเรียกน้ำตาของใครหลายคนได้ จนถือได้ว่าเป็นต้นแบบและเปรียบเสมือน “ตำนาน” บทหนึ่งของวงการโฆษณา

อะไรทำให้หนังของไทยประกันชีวิตทำงานได้อย่างแข็งแกร่ง และได้รับรางวัลการันตีความสำเร็จมากมาย ทั้งในระดับประเทศและระดับโลก?

คุณไชยกล่าวว่า สิ่งสำคัญคือ Content is a King” ซึ่งเสน่ห์ของหนังโฆษณาไทยประกันชีวิต คือ Content ต้องดี ต้องใหม่ ต้องสด และต้องโดนใจ จนเกิด Emotional Attachment และโฆษณาไม่จำเป็นต้องเศร้าสะเทือนใจ แต่ต้องทรงพลัง เชื่อมโยงกับบริบทของคนดูได้ เพราะ Context is a Queen และต้องเกิด Controversial Issue เพื่อสร้างความน่าสนใจ เมื่อจุดติดเป็นกระแสในสังคมแล้ว สิ่งที่ตามมาก็คือ ผู้บริโภคจะเกิดอารมณ์และความรู้สึกร่วมหลังดูโฆษณาไทยประกันชีวิต

การทำให้ผู้บริโภคเกิดอารมณ์และความรู้สึกร่วมหลังดูโฆษณานี่เองที่ทำให้ ไทยประกันชีวิตยังคงให้ความสำคัญกับ Storytelling แม้ในยุคที่ผู้คนนิยมเสพคอนเทนต์ที่เร็วและสั้น

สำหรับไทยประกันชีวิต Storytelling ไม่ใช่เรื่องใหม่ และในชีวิตของคนเราทุกคนตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน มีวิวัฒนาการมาจากการเล่าเรื่อง ชีวิตประจำวันของคนเรามีเรื่องราวด้วยกันทุกคน แค่เราไม่รู้ว่าสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่อง Storytelling และหนังโฆษณาคือการสร้างแบรนด์ ดังนั้นเมื่อเราสร้างแบรนด์จึงต้องอยู่บนการเล่าแบบ Storytelling

แต่ความสามารถใน ‘การเล่าเรื่อง’ กับ ‘การเล่าเรื่องที่ดี’ ก็มีความแตกต่างกัน ดังนั้น วิธีการทำ Storytelling ที่จะทรงพลังนำพาให้แบรนด์เป็นที่จดจำได้นั้น สิ่งสำคัญคือ ต้องทำให้ผู้บริโภคเกิดอารมณ์ร่วม จนสามารถมีประสบการณ์ และ Engage กับแบรนด์ให้ได้ นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ไทยประกันชีวิตเลือกที่จะนำ Storytelling มาอยู่ในหนังโฆษณา”

“Live Life to The Fullest” และ “Time for Love”
ชวนให้เห็นถึง “คุณค่าของเวลา” เพราะทุกวันคือวันพิเศษ

เพื่อตอกย้ำแนวคิด “ให้รักดูแลชีวิต” ไทยประกันชีวิต ได้เผยแพร่ภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ “Live Life to The Fullest” ความยาว 3 นาที และเวอร์ชันสั้น “Time for Love” ความยาว 30 วินาที ผ่านทางโทรทัศน์ และช่องทาง Online

โดยพัฒนาบนแนวคิดการให้ความสำคัญเรื่อง “คุณค่าของเวลา” เพราะเราไม่รู้ว่าจะเหลือเวลาเพื่อใช้ร่วมกันกับคนที่รักมากเพียงไหน บางครั้งอาจมีเวลาเหลือไม่มาก และสิ่งสำคัญที่สุดคือ “การใช้เวลาดูแลกันให้มากที่สุดในวินาทีที่เหลืออยู่” ซึ่งจะกระตุ้นให้ผู้ชมทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของการให้เวลากับคนที่รัก และหันกลับไปใช้เวลาดี ๆ ร่วมกันโดยไม่ต้องรอโอกาส ไม่ต้องรอวันพิเศษ เพราะทุกวันคือวันพิเศษ (Every Day is a Special Day) เพื่อให้ผู้ชมได้ใช้ชีวิตในทุก ๆ วันร่วมกับคนที่รักอย่างมีความหมาย

“โฆษณาเรื่องนี้มาจาก Insight ของคนในปัจจุบันที่ต้องทำงานหนักเพื่อหาเลี้ยงตัวเองและครอบครัว ซึ่งการทุ่มเททำงานอย่างหนัก ก็อาจทำให้ไม่มีเวลาอยู่กับครอบครัวหรือคนที่รักมากนัก บางคนเป็นคนต่างจังหวัดและต้องเข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ ไม่มีโอกาสได้กลับไปหาครอบครัวบ่อยนัก ต้องรอเทศกาลหรือโอกาสพิเศษ หากนับเวลาที่เหลือเป็นปี เป็นเดือน เป็นสัปดาห์ เป็นวัน เป็นชั่วโมง หรือเป็นวินาที เราอาจมีเวลาที่เหลืออยู่ไม่มาก เพื่อให้ผู้ชมทุกคนทำทุกวันให้เป็นวันที่มีคุณค่าสำหรับส่งมอบความรักและการดูแลกัน”

สามารถรับชมภาพยนตร์โฆษณาไทยประกันชีวิตทั้งหมดได้บน YouTube Thai Life Channel: www.youtube.com/@thailifechannel

 

 

อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ 
Website : Marketeeronline.co / Facebook : www.facebook.com/marketeeronline

 

 

 

 



ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ

.
Marketeer ฉบับดิจิทัล : อ่านบน Ookbee / อ่านบน meb
.
Marketeer ฉบับ PDF : https://marketeermagazine.com/
.
Marketeer ฉบับกระดาษ : สั่งซื้อทางไปรษณีย์ Inbox มาที่ เพจ Marketeer Online