ยัสปาล กรุ๊ป กวาดเเชร์ตลาดเสื้อผ้าและรองเท้าต่อเนื่อง เดินหน้ารุกตลาดอาเซียน ขยายสาขาต่างแดนเพิ่ม เตรียมเปิดตลาดใหม่ฟิลิปปินส์ ก้าวเป็นแบรนด์ประจำอาเซียน

อุตสาหกรรมเสื้อผ้าแฟชั่นและรองเท้ายังคงเติบโตไม่หยุด ปี 2565 เติบโต 5.8% มูลค่า 302,751 ล้านบาท และคาดว่าปี 2566-2570 มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นราว 420,423 ล้านบาท เติบโตเฉลี่ยสะสมต่อปีอยู่ที่ 6.8%

ขณะที่อุตสาหกรรมที่นอน เครื่องนอน และผ้าปูที่นอน ปี 2565 มูลค่า 5,310 ล้านบาท คาดการณ์ว่าปี 2566 จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 5,863 ล้านบาท อัตราการเติบโตเฉลี่ยสะสมต่อปี 4.3% ในระหว่างปี 2566 – 2570

มีไม่มากนักที่แบรนด์แฟชั่นไลฟ์สไตล์สัญชาติไทย จะก้าวไปแข่งขันในระดับสากลได้ บริษัท ยัสปาล จำกัด (มหาชน) (ยัสปาล กรุ๊ป หรือ JPC) อาณาจักรธุรกิจสินค้าแฟชั่นไลฟ์สไตล์สัญชาติไทยที่ดำเนินการเข้าสู่ปีที่ 70 ประกอบด้วยแบรนด์ดังภายใต้การดูเเล อาทิ JASPAL, CPS CHAPS, LYN, LYN Around, Jelly Bunny, QUINN, Oasics, SUPERDRY, Champion, MANGO ฯลฯ

จรัญ สิงห์สัจจเทศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยัสปาล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ยัสปาล กรุ๊ป เป็นบริษัทสัญชาติไทยที่มีส่วนแบ่งการตลาดอันดับหนึ่ง ในอุตสาหกรรมเสื้อผ้าและรองเท้าเฉพาะอย่างของประเทศไทย  ตลอดช่วงปี 2563-2565 กลุ่มบริษัทครองมาร์เก็ตเเชร์เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ตั้งเเต่ 8.4%, 10% ถึง 10.5%

ยัสปาล กรุ๊ป ดำเนินธุรกิจผลิต จัดหา และจัดจำหน่ายเสื้อผ้า สินค้าแฟชั่นและไลฟ์สไตล์อื่น ๆ และเป็นผู้ผลิต จัดหาและจำหน่ายที่นอนและเครื่องนอน ของตกแต่งบ้านและเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งบริษัทแบ่งเป็นสองกลุ่มธุรกิจ คือ กลุ่มธุรกิจสินค้าแฟชั่น และกลุ่มธุรกิจที่นอนและเครื่องนอน ที่ดำเนินงานภายใต้บริษัท ยัสปาล แอนด์ ซันส์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย

ภายใต้แบรนด์สินค้าที่กลุ่มบริษัทฯ เป็นเจ้าของ (In-house brand)  รวมถึงแบรนด์ที่บริษัทได้รับสิทธิ์ให้ผลิตและเป็นตัวแทนจำหน่าย ได้รับอนุญาตให้ใช้สิทธิ์ (Import Brand) รวมทั้งหมด 25 แบรนด์

โดยแบ่งเป็นสินค้าในกลุ่มธุรกิจแฟชั่น 19 แบรนด์ แบ่งเป็น In-house brand จำนวน 10 แบรนด์ รวมมากกว่า 113,000 SKUs  ครอบคลุมตั้งเเต่เสื้อผ้า เครื่องประดับ รองเท้า กระเป๋า เครื่องสำอาง เเละเเว่นตา

ขณะที่กลุ่มธุรกิจที่นอนเเละเครื่องนอน ภายใต้ (In-house brand) และ (Import Brand) รวม 6 แบรนด์ 21,500 SKUs ภายใต้เเบรนด์ SANTAS, SANTAS HOME, STEVENS, Sealy, TEMPUR และ ETHAN ALLEN

วิเศษ สิงห์สัจจเทศ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยัสปาล จำกัด (มหาชน) เผยว่า ด้วยความได้เปรียบด้านสาขาหน้าร้าน จุดจำหน่ายภายในศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า ช่องทางออนไลน์ มาร์เก็ตเพลส และศูนย์ค้าปลีก จำนวน 970 แห่งทั้งในเเละต่างประเทศ แบ่งเป็นสาขาในไทย 888 แห่ง และต่างประเทศ 82 แห่ง ขณะที่กลุ่มธุรกิจเครื่องนอนจำหน่ายผ่านการขายโครงการและส่งออกสินค้าไปต่างประเทศ

แบรนด์ที่ทำรายได้หลัก ประกอบด้วย JASPAL, CC DOUBLE O, CPS CHAPS, LYN และ LYN Around

ด้านพอร์ต Import Brand ที่โดยเฉลี่ยมี Success rate ค่อนข้างสูง ยัสปาล กรุ๊ป มีแผนที่จะนำเสนอแบรนด์นำเข้าใหม่ ๆ ตามความเหมาะสมเพื่อสร้างความสามารถในการทำกำไร ขยายพอร์ตโฟลิโอของกลุ่มนี้ต่อเนื่อง

เร่งเครื่องรุกต่างประเทศ ชูการเป็นเเบรนด์ประจำภูมิภาคอาเซียน

ยศเทพ สิงห์สัจจเทศ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยัสปาล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทมีศักยภาพในการดำเนินธุรกิจในต่างประเทศ โดยมีข้อได้เปรียบเชิงการแข่งขัน เนื่องจากไลฟ์สไตล์ที่ใกล้เคียงกันของกลุ่มผู้บริโภคในอาเซียน สินค้าเเฟชั่นของไทยเป็นที่ยอมรับ

อีกทั้งแบรนด์ยัสปาลยังได้รับการยอมรับเทียบเท่าแบรนด์ยุโรปในมุมมองของประเทศเพื่อนบ้าน เนื่องจากเป็นแบรนด์แรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ใช้ซูเปอร์โมเดล เซเลบริตี้ นักแสดง นักร้อง ระดับโลกเป็นพรีเซนเตอร์ให้เเบรนด์ในกลุ่มบริษัท

ที่ผ่านมายัสปาลกรุ๊ปเข้าทำการตลาด มีสาขาและจุดจำหน่ายสินค้าภายในศูนย์การค้า และช่องทางอีคอมเมิร์ซ ใน 3 ประเทศอาเซียน ได้แก่ เวียดนาม กัมพูชา เเละมาเลเซีย ก่อนที่ปีนี้เตรียมขยายไปยังตลาดฟิลิปปินส์ ที่บริษัทมองว่ามีเศรษฐกิจและกำลังซื้อสูง โดยใช้  “Lyn around” เป็นเรือธง เปิดสโตร์แห่งแรกในประเทศฟิลิปปินส์

ในปี 2567 บริษัทตั้งเป้าเปิดสาขาใหม่ในอาเซียน 44 สาขา ในเวียดนาม มาเลเซีย กัมพูชา และฟิลิปปินส์

ทั้งนี้ บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจด้วยวิสัยทัศน์ “เป็นผู้นำในธุรกิจแฟชั่นไลฟ์สไตล์ เพื่อนำความสุขที่ยิ่งใหญ่มาสู่ผู้คนนับล้านทั่วโลก” สร้างการเติบโตที่ยั่งยืนและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมแฟชั่น ให้เป็นที่ยอมรับระดับสากล

1. นำเสนอแบรนด์สินค้าใหม่ ๆ ที่มีความหลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างครอบคลุม

2. ขยายสาขาและจุดจำหน่ายสินค้าอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการขยายสาขาไปในต่างประเทศ ด้วยความสามารถในการทำกำไรที่ใกล้เคียงกับบริษัทระดับโลก จัดหาผลิตภัณฑ์โดยยึดความต้องการของลูกค้าเป็นศูนย์กลาง เพื่อส่งเสริมขีดความสามารถการเเข่งขัน

3. พัฒนาช่องทางออนไลน์ เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต

4. ขยายเข้าสู่ธุรกิจเกี่ยวเนื่องอื่น ๆ

5. เสริมสร้างศักยภาพของบุคลากรอย่างเต็มความสามารถตามแนวทางการเติบโตขององค์กร เพื่อส่งมอบไลฟ์สไตล์แก่ลูกค้า

นอกจากนี้ หลังเข้าสู่ Omni Channel บริษัทปรับบัตรสมาชิกสำหรับยกระดับ Loyalty Program ด้วยการเปิดตัว ‘JPS CLUB’ บัตรสะสมคะแนนต่อยอดจาก My Card เพื่อสร้างประสบการณ์ความสัมพันธ์ระหว่างลูกค้ากับแบรนด์

ในโอกาสนี้ บมจ. ยัสปาล ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลาดหลักทรัพย์ฯ) เสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 156 ล้านหุ้น เตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

“กุญแจความสำเร็จของ ยัสปาล กรุ๊ป ที่อยู่ในวงการมานานกว่า 70 ปี ไม่มากนักที่เเบรนด์แฟชั่นไลฟ์สไตล์จะสามารถยั่งยืนได้นาน เพราะเราลงทุนกับแบรนด์ของเราอยู่ตลอดเวลา ไม่เคยหยุดนิ่ง จึงมีความเข้าใจอุตสาหกรรม High Value Fashion เป็นอย่างดี ซึ่งแต่ละแบรนด์มีอัตลักษณ์สูง  อีกทั้งการออกแบบที่เท่าทันกระเเสอยู่เสมอ และโลเคชันของสโตร์ตั้งอยู่บนทำเลทองทั้งหมด ประกอบกับการไม่เคยหยุดตอบสนองไลฟ์สไตล์ด้านเเฟชั่นของผู้บริโภค” จรัญ สิงห์สัจจเทศ กล่าวสรุป

อาณาจักรยัสปาล

ในวันที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ และเตรียมโกอินเตอร์

บริษัท ยัสปาล จำกัด (มหาชน) หรือ JPC ดำเนินธุรกิจมา 70 ปี
ทุนจดทะเบียน 300,000,000 บาท
แบ่งออกเป็น 2 ธุรกิจ
กลุ่มธุรกิจสินค้าแฟชั่น 19 แบรนด์

In-house brand 10 แบรนด์: Jaspal, MISTY MYNX, CPS CHAPS, CC DOUBLE O, Lyn around, LYN,  Jelly Bunny, QUINN, shoebar,  ROYAL IVY REGATTA

Import brand 9 แบรนด์: Ipanema, ASICS, melissa, DIESEL, SUPERDRY, NEW ERA, Champion, MANGO,Fred Perry

 

กลุ่มธุรกิจที่นอนและเครื่องนอน 6 แบรนด์

In-house brand:  SANTAS, SANTAS HOME, STEVENS

Import brand: Sealy, TEMPUR, ETHAN ALLEN

2563 2564 2565
รายได้ (ล้านบาท) 9,021 9,153 11,854
กำไร (ล้านบาท) -153 221 915
แบรนด์ที่ทำรายได้สูงสุด 1. JASPAL = 18.19%
2. CC DOUBLE O = 17.83%
3. CPS CHAPS = 11.10%
4. LYN = 12.93%
5. Lyn around = 5.51%
สาขาของแบรนด์ภายใต้ยัสปาล กรุ๊ป รวม 970 สาขา

แบ่งเป็นสาขาในไทย 888 แห่ง ต่างประเทศ 82 แห่ง

ตลาดต่างประเทศ ดำเนินการใน 4 ประเทศ

(ฟิลิปปินส์เป็นประเทศล่าสุด)

เวียดนาม

จำนวน 36 สาขา

รายได้ 379 ล้านบาท

กัมพูชา

จำนวน 31 สาขา

รายได้  214 ล้านบาท

มาเลเซีย

จำนวน 15 ล้านบาท

รายได้ 86 ล้านบาท

ตั้งเป้าขยายสาขาเพิ่ม

ปี 2566 ในไทย 43 สาขา ต่างประเทศ 38 สาขา

ปี 2567 ในไทย 64 สาขา ต่างประเทศ 44 สาขา

บมจ. ยัสปาล ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 156 ล้านหุ้น เตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

 



ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ

.
Marketeer ฉบับดิจิทัล : อ่านบน Ookbee / อ่านบน meb
.
Marketeer ฉบับ PDF : https://marketeermagazine.com/
.
Marketeer ฉบับกระดาษ : สั่งซื้อทางไปรษณีย์ Inbox มาที่ เพจ Marketeer Online