ไก่ทอง – ลูกไก่ทอง – ปังชา เคสเดียวดังได้ 3 แบรนด์แบบไม่อยากให้โลกจำ

ไก่ทอง ออริจินัล-ลูกไก่ทอง-ปังชา คาเฟ่ สามแบรนด์นี้เกี่ยว หรือไม่เกี่ยวข้องกันอย่างไร แบบดังขึ้นมาพร้อมกัน ๆ โดยไม่อยากให้เกิดขึ้นอีก

หลังร้าน “ลูกไก่ทอง” ออกประกาศผ่านเฟซบุ๊กถึงการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าไม่กี่วัน ก็มีการเปิดเผยออกมาว่า ร้านขายขนมและเครื่องดื่มจำนวนสองร้าน มีร้านที่ใช้ชื่อว่า “ปังชา” ถูกทนายความส่งโนติสเรียกค่าเสียหาย 102 ล้านบาท ขณะที่อีกเจ้าถูกเรียก 7 แสนบาท และให้จ่ายภายใน 7 วัน

เมื่อข่าวนี้ถูกเผยเเพร่ออกไป เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง จนขึ้นเทรนด์ Twitter เพราะปังชา ถือเป็นเมนูฮิตที่คนรู้จัก เเละทำขายกันทั่วไป ทำไมร้านดังจึงถือสิทธิอ้างเรียกค่าเสียหายได้

ทนายความหลายท่านต่างออกมาเเสดงความคิดเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า ชื่อ “ปังชา” สามารถใช้โดยทั่วไปได้ ร้านไม่มีสิทธิฟ้องประชาชนคนอื่นที่ใช้คำว่า “ปังชา” ได้

ซึ่งกรมทรัพย์สินทางปัญญาได้ออกมายืนยันว่า ร้านทั่วไปสามารถขายเมนูนี้ หรือตั้งชื่อโดยใช้ชื่อนี้ได้ เพราะเมนูน้ำแข็งไสราดชาไทยมีขายมานานแล้ว จึงไม่มีใครสามารถจดสิทธิบัตรและอนุสิทธิบัตรเป็นสิทธิแต่เพียงผู้เดียวในเมนูนี้ได้ เพียงเเต่ต้องไม่มีการดัดแปลงเครื่องหมายการค้าหรือโลโก้แบรนด์ เพื่อสร้างความสับสน เข้าใจผิดเพื่อมุ่งหวังประโยชน์ทางการค้า

ในกรณีนี้ การจดทะเบียนของร้านดัง จดเฉพาะโลโก้เท่านั้น หากมีผู้เอาไปใช้ทั้งโลโก้ชื่อร้านครบถ้วน จึงจะเป็นการละเมิด เเต่หากมีเพียงคำว่า “ปังชา” อยู่ในโลโก้ที่ต่างไป ไม่เข้าข่ายละเมิดเครื่องหมายการค้า

มารู้จักร้านลูกไก่ทอง-ปังชาคาเฟ่ ดังขนาดไหน รายได้เท่าไร

หากจะพูดถึง “ร้านลูกไก่ทอง” ต้องกล่าวมาตั้งเเต่เริ่ม “ร้านไก่ทอง” เพราะเป็นร้านต้นตำรับ ต่อยอดการเกิดร้านลูกไก่ทอง

ร้านไก่ทองเป็นแบรนด์ร้านอาหารไทยต้นตำรับ ที่เปิดตัวเมื่อ 25 ปีก่อน ก่อตั้งโดย “อรุณี มนตรีวัต” เป็นร้านอาหารเล็ก ๆ ในเมืองทองธานี ที่ปัจจุบันเปลี่ยนมือสู่ทายาทรุ่นสอง คือลูกสาว แสงอรุณ มนตรีวัต

ซึ่งคุณแสงอรุณก็ได้รีแบรนด์ร้านไก่ทอง สู่ “ไก่ทอง ออริจินัล”

ส่วน แสงณรงค์ มนตรีวัต ลูกชายของคุณอรุณี มนตรีวัต ผู้ก่อตั้งไก่ทอง ออริจินัล ได้แยกออกมาเปิด ร้าน “ลูกไก่ทอง” เมื่อปี 2552 มีสัญลักษณ์รูปไก่ที่มาจากปีเกิดของคุณพ่อ

เปิดสาขาแรกที่ทองหล่อ  โดยจะขายอาหารที่ต่างจากร้านต้นตำรับของ ไก่ทอง ออรินัล  เน้นเป็นสูตรอาหารจีนที่ส่งต่อจากรุ่นคุณแม่

แต่เมื่อเปิดร้านมีความคิดอยากเพิ่มเมนูของหวานเข้ามาขายในร้านด้วย ซึ่งขณะนั้นมีข่าวว่าชาไทยเป็นเครื่องดื่มฮิตของโลก เลยเกิดไอเดียหยิบเอาชาไทยมาทำเป็น ปังชา จนกลายเป็นเมนูของหวานที่มีชื่อเสียงโด่งดัง และกลายเป็นซิกเนเจอร์ที่ลูกค้าทุกคนต้องตั้งใจแวะมาสั่งที่ร้านเสมอ

ปังชาถ้วยแรกเสิร์ฟที่ร้านสาขาทองหล่อ โดยทางร้านยังไม่ได้วางขายในทันที แต่ทดลองแจกให้ลูกค้าชิมก่อน ในช่วงแรกปังชาเป็นแค่ขนมปังกับน้ำแข็งไสชาไทย ก่อนปรับสูตรโดยเสริมทอปปิ้งไข่มุก 3 อย่าง คือ ไข่มุกแก้ว ไข่มุกชาไทย ไข่มุกชาดำ

ด้วยความโดดเด่นของเมนู ปังชา ก็ได้รับ Michelin Guide Thailand 5 ปีซ้อน (2561-2565)

จนร้านต่อยอดไปสู่การเปิดแบรนด์ใหม่ “ปังชา คาเฟ่” (Pang Cha cafe) เป็นร้านเมนูของหวานโดยเฉพาะเเยกออกมา

ไทม์ไลน์ร้าน ปังชา คาเฟ่ – ลูกไก่ทอง รายได้หลัก 200 ล้าน

ประวัติ ร้านลูกไก่ทอง
แรกเริ่ม ต้องกล่าวย้อนไปถึงร้าน “ไก่ทอง” ที่เป็นเเรงบันดาลใจของร้าน “ลูกไก่ทอง”
2541 ร้านไก่ทอง ก่อตั้งโดย “อรุณี มนตรีวัต” สาขาแรกที่เมืองทองธานี

ปัจจุบันเปลี่ยนมือสู่ทายาทรุ่นที่สองคือลูกสาว “แสงอรุณ มนตรีวัต” เเละได้รีแบรนด์ใหม่เป็น “ไก่ทอง ออริจินัล”

2552

 

 

ส่วน “แสงณรงค์ มนตรีวัต” ลูกชายอีกคนของ อรุณี มนตรีวัต   แยกเปิดร้าน “ลูกไก่ทอง”  สาขาแรกที่ทองหล่อ
สัญลักษณ์รูปไก่มาจากปีเกิดของบิดา
เกิดปังชา  เพราะร้านลูกไก่ทองต้องการเพิ่มเมนูของหวาน จึงนำชาไทยมาทำเป็นปังชา
2561-2565 เมนูปังชาได้รับ Michelin Guide Thailand 5 ปีซ้อน
ปังชาโด่งดังจนเป็นซิกเนเจอร์ของร้าน  จึงแตกไลน์เปิดร้านใหม่ ในชื่อ “ปังชา คาเฟ่” (Pang Cha cafe) เน้นขายของหวานรสชาติชาไทยแท้
2566 ดราม่าการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า
ร้านลูกไก่ทองมีสาขา 4 สาขา

ร้าน Pang Cha Café มี 9 สาขา

ทั้งสองร้านอยู่ภายใต้บริษัท กาญณรงค์ กรุ๊ป จำกัด
2563 2564 2565
รายได้(ล้านบาท) 97 94 290
กำไร (ล้านบาท) -7 -6 แสน 30

ที่มา: กรมพัฒนาธุรกิจ

 …

อ่าน: ไก่ทอง ออริจินัล ชี้แจงดราม่า ‘ปังชา’ เรื่องนี้ไม่ขอเกี่ยว

 

Marketeer FYI

 

ขอบเขตของคำว่า ลิขสิทธิ์  สิทธิบัตร เครื่องหมายทางการค้า

 

ลิขสิทธิ์

กรมทรัพย์สินทางปัญญาให้ความหมายคำว่า “ลิขสิทธิ์” ว่า คือ สิทธิเเต่เพียงผู้เดียวที่จะกระทำการใด ๆ เกี่ยวกับงานที่ผู้สร้างสรรค์ได้ริเริ่ม  โดยใช้สติปัญญา ความรู้ ความสามารถ และความวิริยะอุตสาหะของตนเองในการสร้างสรรค์ ไม่ลอกเลียนงานของผู้อื่น โดยงานที่สร้างสรรค์ต้องเป็นงานตามประเภทกฎหมายลิขสิทธิ์ให้ความคุ้มครอง โดยผู้สร้างสรรค์จะได้รับความคุ้มครองทันทีที่สร้างสรรค์โดยไม่ต้องจดทะเบียน

โดยประเภทงานที่กฎหมายลิขสิทธิ์ให้ความคุ้มครอง  ได้เเก่

– งานวรรณกรรม (หนังสือ บทความ บทกลอน)

– นาฏกรรม

– ศิลปกรรม (ภาพวาด ภาพถ่าย)

– ดนตรีกรรม (เนื้อร้อง ทำนองเพลง)

– โสตทัศน์วัสดุ (วีซีดีคาราโอเกะ)

– ภาพยนตร์ สิ่งบันทึกเสียง (เทป ซีดีเพลง)

– งานเเพร่เสียงเเพร่ภาพ (รายการวิทยุโทรทัศน์)

– หรืองานอื่นใดในแนว วรรณคดี แผนกวิทยาศาสตร์ หรือแผนกศิลปะ

 

สิทธิบัตร

หมายถึงหนังสือสำคัญที่รัฐออกให้เพื่อคุ้มครองการประดิษฐ์ หรือการออกแบบผลิตภัณฑ์ ที่มีลักษณะตามที่กฎหมายกำหนด เป็นสิทธิพิเศษที่ให้ผู้ประดิษฐ์คิดค้นหรือผู้ออกแบบผลิตภัณฑ์ มีสิทธิที่จะผลิตสินค้า จำหน่ายสินค้าแต่เพียงผู้เดียว

 

เครื่องหมายการค้า

ตามความหมายอย่างกว้างนั้น หมายถึงเครื่องหมาย หรือ ตราสัญลักษณ์ที่ใช้กับสินค้าหรือบริการเพื่อทำให้ผู้บริโภคสามารถแยกสินค้าและบริการหนึ่ง ๆ ออกจากสินค้าและบริการของผู้ผลิตรายอื่นได้ โดยเครื่องหมายการค้าจะทำให้สินค้าหรือบริการที่มาจากแหล่งหนึ่งมีเอกลักษณ์และแตกต่างจากสินค้าหรือบริการที่มาจากแหล่งอื่น

แต่ในความหมายอย่างแคบนั้น เครื่องหมายการค้าจะแบ่งออกเป็น 4 ประเภทย่อย ได้แก่

  • เครื่องหมายการค้า คือ เครื่องหมายที่ใช้เพื่อแยกแยะหรือแสดงว่าสินค้าที่ใช้เครื่องหมายการค้านั้นแตกต่างกับสินค้าที่ใช้เครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่น
  • เครื่องหมายบริการ คือ เครื่องหมายที่ใช้เพื่อแยกแยะหรือแสดงว่าบริการที่ใช้เครื่องหมายบริการนั้นแตกต่างกับบริการที่ใช้เครื่องหมายบริการของบุคคลอื่น
  • เครื่องหมายรับรอง คือ เครื่องหมายที่เจ้าของเครื่องหมายรับรองใช้เพื่อเป็นการรับรองเกี่ยวกับแหล่งกำเนิด ส่วนประกอบ วิธีการผลิต คุณภาพ หรือ คุณลักษณะอื่นใด ของสินค้านั้น หรือเพื่อรับรองเกี่ยวกับสภาพ คุณภาพ ชนิด หรือ คุณลักษณะอื่นใดของบริการ ว่าเป็นสินค้าหรือบริการที่มีคุณสมบัติสอดคล้องและได้มาตรฐานตามที่เจ้าของเครื่องหมายรับรองนั้นกำหนดขึ้น
  • เครื่องหมายร่วม คือ เครื่องหมายการค้าหรือเครื่องหมายบริการที่ใช้โดย บริษัทหรือวิสาหกิจในกลุ่มเดียวกัน หรือโดยสมาชิกของสมาคมสหกรณ์ สหภาพ กลุ่มบุคคลหรือองค์กรของรัฐหรือเอกชน เพื่อแยกแยะสินค้าหรือบริการของกลุ่มกิจการที่ใช้เครื่องหมายร่วมนั้นออกจากสินค้าหรือบริการของบุคคลอื่น ทั้งนี้ กลุ่มกิจการดังกล่าวสามารถใช้เครื่องหมายร่วมควบคู่ไปกับเครื่องหมายการค้า หรือ เครื่องหมายบริการของตนได้ด้วยเช่นกัน

(กรมทรัพย์สินทางปัญญา, กระทรวงพาณิชย์)

 –

อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ 
Website : Marketeeronline.co / Facebook : www.facebook.com/marketeeronline



ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ

.
Marketeer ฉบับดิจิทัล : อ่านบน Ookbee / อ่านบน meb
.
Marketeer ฉบับ PDF : https://marketeermagazine.com/
.
Marketeer ฉบับกระดาษ : สั่งซื้อทางไปรษณีย์ Inbox มาที่ เพจ Marketeer Online