ตลาดนมยูเอชทีเด็ก ทำไม โฟร์โมสต์ มั่นใจโอกาสชนะ ดันมาร์เก็ตแชร์เกิน 50% ในสามปี
โฟร์โมสต์ ขึ้นแท่นเบอร์หนึ่งตลาดนมยูเอชทีสำหรับเด็ก ครองแชร์ 41% เดินหน้าลุยแจกนม 1 ล้านกล่อง โครงการโฟร์โมสต์ส่งต่อรอยยิ้มให้เด็กไทยเป็นปีที่สาม พร้อมออกนมแบรนด์โอเมก้าสูตรใหม่
ในตลาดนม UHT ไทย มีมูลค่า 29,000 ล้านบาท โตเฉลี่ย 5-6% ต่อปี เซกเมนต์นมเด็กมีสัดส่วนเกือบครึ่งหนึ่งของตลาด
อ่าน: ตลาดนมพาสเจอร์ไรซ์เป็นอย่างไร ในวันที่ โฟร์โมสต์ถอนตัวจากตลาด
แต่ตลาดนมได้รับผลกระทบในช่วงเศรษฐกิจ หลายครัวเรือนต้องรัดเข็มขัดอย่างหนัก ผลิตภัณฑ์นมที่ถือเป็นสิ่งจำเป็นถูกลดการซื้อ ส่งผลให้ตลาดนมผงหดตัว ดีมานด์ของผู้บริโภคจึงหันมาที่ผลิตภัณฑ์นมกล่อง ซึ่งมีราคาถูกกว่าเท่าตัว และอัตราการเริ่มดื่มนมกล่องในเด็กเล็กก็เร็วขึ้นจากเดิม ปัจจุบันเด็กวัย 1 ขวบ ก็เริ่มต้นดื่มนมกล่องแล้ว
ประกอบกับการหายไปจากตลาดของกลุ่มลูกค้าวัย 4-12 ปี ที่คาดว่าไม่ดื่มนมแล้ว และหันไปหาเครื่องดื่มอื่นแทน แต่ตลาดนมโคในกลุ่มเด็กโตยังมีอัตราการโตอยู่ เพียงเเต่เป็นตัวเลขการเติบโตที่ลดลง เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการเข้ามาของผู้เล่นในกลุ่มเซกเมนต์อื่น อาทิ นม Plant based นมแพะ นมข้าวโอ๊ต แต่ตลาดนมเด็กยังเติบโตได้ต่อเนื่อง ไม่ได้รับผลกระทบจากผู้เล่นดังกล่าว
สุภสิตา ไกรศรี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ฟรีสแลนด์คัมพิน่า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมโฟร์โมสต์ในประเทศไทยและอินโดจีน เผยว่า กลุ่มสินค้าหลักที่สร้างรายได้ยังคงเป็นนมพร้อมดื่ม UHT สำหรับเด็ก โฟร์โมสต์ โอเมก้า 369 ที่ครองตำแหน่งอันดับหนึ่งในกลุ่มนม UHT เด็ก บริษัทประสบความสําเร็จกับการลุยตลาดนมเด็กผ่านซับแบรนด์ “โอเมก้า” ครองส่วนแบ่งการตลาดถึงเกือบครึ่งหนึ่ง 41.2% และคาดว่าภายในสามปี จะสามารถมีตัวเลขเกิน 50% ได้
“แบรนด์โอเมก้าเป็นตัวขับเคลื่อนยอดขายในกลุ่มนมเด็ก ซึ่งการเลือกโฟกัสในสนามนมเด็กของโฟร์โมสต์นั้น บริษัทมองเห็นโอกาสในการแข่งขันในตลาดนี้ และโฟร์โมสต์มีโอกาสชนะสูง” สุภสิตากล่าว
ปัจจุบันพอร์ตโฟลิโอแบรนด์ของโฟร์โมสต์ ประกอบด้วย
– นมโคสดแท้ 100%
– โอเมก้า 369, โอเมก้า โกลด์, โอเมก้า สมาร์ท 369
– มัลติเกรน
– ผลิตภัณฑ์สำหรับอาหาร เครื่องดื่ม และเบเกอรี่ (Falcon, Debic, Myboy, Ship)
ซึ่งโฟร์โมสต์สมาร์ท และโฟร์โมสต์โกลด์ จัดอยู่ในเซกเมนต์พรีเมียม ขับเคลื่อนยอดขายโดยรวมของกลุ่มนมเด็กได้อย่างมีนัยสำคัญ
ด้านสัดส่วนรายได้ 60% มาจากกลุ่มนมเด็ก และอีก 40% เป็นรายได้จากกลุ่มนมสำหรับคนทั่วไป
แต่จากการสำรวจของโฟร์โมสต์ พบว่า ในหนึ่งครัวเรือนจะให้บุตรดื่มนมกล่องโดยเฉลี่ยวันละ 3 กล่องต่อวัน แต่สำหรับกลุ่มผู้มีรายได้น้อย นมจะกลายเป็นสิ่งขาดแคลน ที่พวกเขาไม่สามารถเข้าถึงได้
เป็นที่มาให้โครงการบริจาคนมพร้อมดื่ม จำนวน 1 ล้านกล่อง ภายใต้โครงการโฟร์โมสต์ส่งต่อรอยยิ้มให้เด็กไทยปีที่ 3 ดึงความร่วมมือจากทุกภาคส่วนทั้งจากพาร์ตเนอร์หลักมูลนิธิกระจกเงา พาร์ตเนอร์ทางธุรกิจ ร้านค้า และผู้บริโภค ร่วมสนับสนุนการส่งมอบให้แก่เด็กและครอบครัวที่ต้องการความช่วยเหลือทั่วประเทศมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท
ตลาดนมยูเอชทีเด็ก
เนื่องจากที่ผ่านมาโฟร์โมสต์ให้ความสำคัญกับการนำผลวิจัยและภาวะทางสุขภาพ รวมถึงภาวะทางโภชนาการของเด็กไทยมาใช้พัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะจากผลสำรวจจากโครงการสำรวจภาวะโภชนาการเด็กในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ SEANUTS ครั้งที่ 2 เพื่อให้ผลิตภัณฑ์มีสารอาหารที่ตรงกับความต้องการของเด็กไทยอย่างครอบคลุม
จากผลสำรวจเด็กไทย (SEANUTS II) พบว่าเด็กไทยยังมีปัญหาภาวะทุพโภชนาการ มีภาวะโภชนาการทางด้านขาด อาทิ ภาวะเตี้ยแคระแกร็น ภาวะโภชนาการเกิน ได้แก่ ภาวะน้ำหนักเกินและโรคอ้วน รวมทั้งการขาดสารอาหาร micronutrients โดยมากกว่า 70% ของเด็กที่อายุ 6 เดือน-12 ปี ยังได้รับแคลเซียมไม่ถึงเกณฑ์ที่แนะนำให้บริโภคต่อวัน
โฟร์โมสต์จึงได้เปิดตัว “โฟร์โมสต์ โอเมก้า 369” ปรับปรุงสูตรใหม่ ซึ่งเป็นสูตรที่ขายดีที่สุดมาตลอด 7 ปี นับเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์นมพร้อมดื่ม UHT ที่มีอัตราการเติบโตสูง สอดรับกับอานิสงส์ของการดื่มนมและกลุ่มพ่อแม่ กลุ่มครอบครัวที่ให้ความสำคัญกับการเสริมพัฒนาการของเด็ก ช่วยให้เด็กไทยเติบโตได้อย่างฉลาดและแข็งแรง เสริมพัฒนาการรอบด้านทั้งสมอง ร่างกาย และภูมิคุ้มกัน อุดช่องว่างภาวะทุพโภชนาการของเด็กไทย
–
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /


