ทะเลแดง คลองปานามา ทางเดินเรือสำคัญงานเข้า ดันราคาสินค้าแพง (วิเคราะห์)

เมื่อปี 2021 คนทั่วโลกมีเวลาติดตามข้อมูลข่าวสารมากขึ้น โดยนอกจากสถานการณ์โควิดที่ทำให้ต้องอยู่ติดบ้านและผลกระทบมากมายที่ตามมาแล้ว ก็ยังเกิดอีกข่าวใหญ่ระดับโลกแทรกขึ้น
ปลายมีนาคมปีนั้นเรือสินค้าลำยักษ์ Ever Given ของบริษัทไต้หวันเกิดเกยตื้นขวางคลองสุเอซ โดยหลังใช้ความพยายามกันอยู่ 6 วันเรือก็กลับลงน้ำ แต่ก่อนหน้านั้นการเดินเข้าไปในคลองแห่งนี้ต้องหยุดชะงัก สร้างความเสียหายสูงถึงวันละ 9,600 ล้านดอลลาร์ (ราว 333,000 ล้านบาท)

เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้คนทั่วโลกได้รู้ถึงความซับซ้อนของธุรกิจการเดินเรือและผลกระทบโดยเฉพาะราคาสินค้าที่แพงขึ้น หากเส้นทางเดินเรือแห่งใดแห่งหนึ่งเกิดปัญหาขึ้นมา

มาปีนี้เกิดเหตุการณ์ใกล้เคียงกันกับเมื่อปี 2021 ขึ้นถึง 2 เหตุการณ์ แม้มีที่มาต่างกันโดยสิ้นเชิงและจุดเกิดห่างกันคนละซีกโลก แต่ก็อาจทำให้เราต้องจ่ายเงินซื้อของกันแพงขึ้น เพราะการลำเลียงสินค้าทางเรือต้องใช้เวลานานกว่าปกติ
ภัยแล้งเล่นงานคลองปานามา
ประวัติของคลองปานามาย้อนไปได้ไกลถึงปี 1881 ช่วงที่ปานามายังเป็นเพียงเมืองในปกครองของโคลอมเบียและฝรั่งเศสเป็นฝ่ายริเริ่มโครงการหลังประสบความสำเร็จกับคลองสุเอซในแอฟริกา
แต่กลับเป็นสหรัฐฯ ที่ได้เริ่มลงมือทำโครงการนี้ในปี 1904 โดยมีวิศวกรคุมงานขุดส่งต่อกัน 5 คนจนที่สุดคลองปานามายาว 82 กิโลเมตรก็ได้เปิดใช้ในปี 1914

แม้ปานามาจะเป็นประเทศที่ได้ประโยชน์จากคลองปานามาที่ขุดเชื่อมมหาสมุทรแอตแลนติกกับมหาสมุทรแปซิฟิกมากสุด จากรายได้หลายพันล้านดอลลาร์ที่เข้ามาในแต่ละปี ทว่าก็สำคัญต่อเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ด้วย เพราะการส่งออกและนำเข้าสินค้าโภคภัณฑ์ต่าง ๆ ของประเทศ 73% ต้องผ่านคลองปานามา

ความสำคัญของคลองปานามาต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังทำให้สหรัฐฯ ต้องจับตาความเคลื่อนไหวทางการเมืองปานามาอยู่ตลอด ถึงขนาดเคยส่งกำลังทหารเข้าไปจัดการและล้มรัฐบาลมาแล้วช่วงรอยต่อยุค 80 และ 90

ขณะที่สถานะจุดเชื่อมและทางลัดระหว่างมหาสมุทรแอตแลนติกกับมหาสมุทรแปซิฟิกจึงสำคัญต่อเศรษฐกิจโลกด้วย โดยทุกปีจะมีเรือสินค้าราว 14,000 ลำล่องผ่าน เพื่อร่นเวลาเดินเรือจากสหรัฐฯ และประเทศแถบอเมริกากับจีนและประเทศต่าง ๆ ในเอเชีย

ข้ามมาปี 2023 ก็เกิดสถานการณ์ที่กระทบต่อคลองปานามาขึ้น ทว่าไม่ได้มีสาเหตุมาจากการเมือง โดยภัยแล้งจากปรากฏการณ์ เอล นีโญ่ ทำให้ระดับน้ำลดลง จนเมื่อตุลาคมที่ผ่านมาลดลงมากสุดในรอบ 70 ปี

จากสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้การล่องเรือสินค้าโดยเฉพาะบริเวณที่แคบของคลองใช้เวลานานและต้องทำอย่างระมัดระวังมากขึ้น จนทางเอซีพี หน่วยงานของรัฐบาลที่บริหารจัดการคลองปานานาได้ประกาศลดจำนวนเรือที่ผ่านเข้ามาในคลอง

จาก 31 เหลือ 25 ลำต่อวัน และหากกุมภาพันธ์ 2024 สถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น อาจลดลงอีกเหลือ 18 ลำต่อวัน ซึ่งหมายความว่ากำลังการรองรับเรือลดลง 40-50% จากปกติ และเมื่อทั้งเวลากับต้นทุนลำเลียงสินค้าทางเรือเพิ่มขึ้นที่สุดราคาสินค้าก็อาจแพงขึ้น
ทะเลแดงเดือดจากการโจมตี
จากวิกฤตคลองสุเอซ ทำให้คนทั่วโลกได้รู้จักทะเลแดงมากขึ้น แต่มาปีนี้ทะเลแดงกลายเป็นน่านน้ำที่บริษัทลำเลียงสินค้าทางเรือทุกแห่งพากันเลี่ยงเสียแล้ว

ทะเลแดงเป็นมหาสมุทรกินพื้นที่ 438,000 ตารางกิโลเมตร ยาว 2,250 กิโลเมตร และบริเวณกว้างสุดนั้นกว้าง 355 กิโลเมตร โดยมี 6 ประเทศคือ ซาอุดีอาระเบีย ซูดาน อียิปต์ เอริเทรีย เยเมน และจีบูติ ล้อมรอบอยู่

ความสำคัญของทะเลแดงอยู่ที่เป็นทางเข้าออกไปยังคลองสุเอซ จึงมีเรือสินค้ารวมไปถึงเรือบรรทุกน้ำมันกว่า 17,000 ลำผ่านเข้าออกในแต่ละปี เพื่อเดินเรือไปมาระหว่างทวีปเอเชียและแอฟริกา

มีการประเมินว่ามูลค่าสินค้าที่ลำเลียงผ่านทะเลแดงในแต่ละปีนั้นสูงถึง 1 ล้านล้าน (ราว 35 ล้านล้านบาท) เลยทีเดียว
ทว่าตั้งแต่ตุลาคมเป็นต้นมา กลุ่มฮูตีในเยเมนที่สนับสนุนกลุ่มฮามาสในปาเลสไตน์ ได้เพิ่มการโจมตีเรือสินค้าเพื่อเป็นการตอบโต้อิสราเอลซึ่งประเทศตะวันตกหนุนหลัง เพื่อร่วมกดดันอิสราเอลให้หยุดปฏิบัติการทางทหารในปาเลสไตน์

สถานการณ์ดังกล่าวทำให้บริษัทเดินเรือสินค้าใหญ่ 7 แห่งคือ MSC, MEARSK, Hapag-Lloyd, CMA, CGM, Yangmin และ Evergreen เลี่ยงการเข้าไปในทะเลแดง และอาจต้องหันไปอ้อมแหลมกู๊ดโฮปแทน
นี่จะทำให้ระยะเวลาเดินเรือจากต้นทางในเนเธอร์แลนด์ไปถึงไต้หวัน เพิ่มเป็น 34 วัน หรือเพิ่มมาจากสถานการณ์ตามปกติอีก 10 วัน

สถานการณ์นี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ถึงขนาดที่กองทัพสหรัฐฯ เตรียมผนึกกำลังกับกลุ่มประเทศสหราชอาณาจักร แคนาดา ฝรั่งเศส นอรเวย์ อิตาลี เนเธอร์แลนด์ สเปน บาห์เรนและซีเชลล์ ตั้งกองกำลังเพื่อกำราบกลุ่มฮูตี และให้การเดินเรือใน ทะเลแดง ราบรื่น

ขณะที่ Ikea กับ BP ที่เป็นยักษ์ใหญ่ในวงการค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์และอุตสาหกรรมน้ำมัน กังวลว่าการลำเลียงสินค้ากับน้ำมันคงล่าช้าออกไป

สื่อเศรษฐกิจในสหรัฐฯ รายงานอ้างจากข้อมูลในธุรกิจการเดินเรือว่า ความไม่สงบในทะเลแดงจะทำให้ค่าขนส่งสินค้าในตู้คอนเทนเนอร์ขนาด 40 ฟุตเพิ่มขึ้นเป็น 2,450 ดอลลาร์ (ราว 84,500 บาท) ต่อตู้ จึงหมายความว่าสินค้าที่ไปถึงมือผู้บริโภคย่อมแพงขึ้นตามไปด้วย/cnbc, bbc, wikipedia, elpais, thegaurdian
–
Website : Marketeeronline.co /
