สัปดาห์หนังสือฯ ครั้งที่ 52 เป้ายอดขายหนังสือเล่ม 380 ลบ. ควบเงินสะพัดทางออนไลน์ รับเทรนด์โซเชียล อีก 380 ลบ. ลุย B2B ครั้งแรก PUBAT ผู้จัดยังเผย ตลาดหนังสือเปลี่ยน สำนักพิมพ์ ร้านหนังสือ ต้องปรับตัวสู่ผู้ผลิตคอนเทนต์ หนีบทคนกลางหมดสำคัญ
| งานสัปดาห์หนังสือฯ ครั้งที่ 52
กว่าล้านเล่ม พันปกใหม่ Booklympics อีเวนต์ส่งเสริมการจ้างงาน คนทำหนังสือระยะยาว |
|||||||
| ครั้งที่จัดงานสัปดาห์หนังสือฯ | 44 / 2559 | 45 / 2560 | 46 / 2561 | 47 / 2562 | * 50 / 2565 | 51 / 2566 | 52 / 2567 |
| สถานที่จัดงาน |
ศูนย์ฯ สิริกิติ์ |
สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ | ศูนย์ฯ สิริกิติ์ | ||||
| บูธหนังสือ | 934 | 947 | 941 | 924 | 584 | 905 | 914 |
| ผู้เข้าร่วมงาน/ล้านคน | 2.03 | 1.67 | 1.39 | 1.41 | 7.15 แสนคน | 1.14 | 1.3 (ตั้งเป้า) |
| ยอดขายหนังสือเล่ม/ล้านบาท | 339 | 293 | 363 | 352 | 199 | 350 | 380 (ตั้งเป้า) |
| * งานสัปดาห์หนังสือฯ ครั้งที่ 50 ปี 2565 ถูกจัดขึ้นภายใต้ข้อจำกัดผู้เข้าร่วมงานต่อวัน พื้นที่จัดงาน | |||||||
| หมายเหตุ: งานสัปดาห์หนังสือฯ ครั้งที่ 48 (ปี 2563) – ครั้งที่ 49 (2564) ไม่มีข้อมูลเปรียบเทียบ เนื่องจากจัดงานแบบออนไลน์เท่านั้น ทางเว็บไซต์ ThaiBookFair | |||||||
| Marketeer FYI: ครั้งแรกในรอบ 52 ปีของงานสัปดาห์หนังสือฯ ที่มีการจัดงานแบบ B2B | |||||||
| ที่มา: PUBAT, มี.ค. 2567 | |||||||
คุณสุวิช รุ่งวัฒนไพบูลย์ นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) กล่าวว่า งานหนังสือใหญ่ในไทยซึ่งจัดโดยสมาคมฯ แบ่งเป็น 2 ช่วงหลัก ๆ คือ งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ช่วงปลายเดือน มี.ค. – ต้นเดือน เม.ย. ของทุกปี และงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ช่วงเดือน ต.ค. ของทุกปี
งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 52 และสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 22 จัดวันที่ 28 มี.ค. – 8 เม.ย. 2567 เวลา 10.00-21.00 น. ณ ฮอลล์ 5-7 ชั้น LG ศูนย์ฯ สิริกิติ์
ความน่าสนใจของงานปีนี้ เริ่มส่วน B2C ยังคงจัดเต็มหนังสือในงานกว่า 1 ล้านเล่ม เป็นหนังสือปกใหม่อย่างน้อย 1,000 ปก และสัดส่วนหนังสือทั้งหมดในงานเป็นฟิกชั่น 41% เฉพาะการ์ตูน ไลท์โนเวล 20% ตามด้วยนอนฟิกชั่น ซึ่งมีหนังสือประวัติศาสตร์ ตำราเรียน เป็นมาร์เก็ตแชร์ใหญ่
ภาพบรรยากาศงานสัปดาห์หนังสือฯ ครั้งที่ 51
สมาคมฯ ยังประเมินว่ายอดขายออนไลน์ ทั้งการสั่งซื้อหนังสือผ่านอีคอมเมิร์ซ และซื้ออีบุ๊ก ซึ่งเกิดจากการรับรู้ในงานจะอยู่ที่อีก 380 ล้านบาท นอกเหนือจากเป้าขายหนังสือเล่มในงานที่ 380 ล้านบาท ตลอดจนเงินสะพัดต่อเนื่องอีกหลายพันล้านบาทจากการพิมพ์เพิ่มของหนังสือเล่มที่ได้กระแสตอบรับดีในงาน
และเป็นครั้งแรกในรอบ 52 ปีของงานสัปดาห์หนังสือฯ ที่มีการจัดงานแบบ B2B กับ Bangkok Rights Fair งานที่สมาคมฯ ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) TCEB
เพื่อสร้างการจับคู่ธุรกิจโดยตรง ระหว่างสำนักพิมพ์ไทยกับสำนักพิมพ์ต่างประเทศ หรือตัวแทนจำหน่ายจากต่างประเทศ โดยไม่ต้องผ่านเอเจนซี ซึ่งช่วยลดต้นทุนการพิมพ์หนังสือ
โดยสำนักพิมพ์ไทยมีการซื้อลิขสิทธิ์หนังสือจากต่างประเทศเยอะมากในแต่ละปี แต่บิสิเนสโมเดลเป็นการซื้อผ่านเอเจนซีทั้งหมด โดยร้านหนังสือหนึ่งแห่งของไทยเป็นส่วนแบ่งหนังสือแปล 80% หนังสือไทย 20%
และตั้งเป้าให้งานเกิดการรับรู้ระหว่างกันของสำนักพิมพ์ไทยและสำนักพิมพ์ต่างประเทศแบบ Business Matching โดยตรง หลังปัจจุบันตลาดยังไม่มีเอเจนซีไทยในการขายลิขสิทธิ์หนังสือไทยไปยังต่างประเทศ
หนังสือการ์ตูนชายรักชาย (BL), หนังสือเด็ก, หนังสือสอนภาษาไทย เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีศักยภาพในตลาดหนังสือต่างประเทศ งานนี้ก็จะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยสร้างโอกาสใหม่ ๆ
อย่าง สำนักพิมพ์จากอินโดนีเซีย มาเลเซีย เวียดนาม ซึ่งเป็นผู้ซื้อหลักใน 3 เซกเมนต์ข้างต้น ก็เป็นการซื้อขายผ่านเอเจนซี ทั้ง ๆ ที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงแบบประเทศบ้าน โดยงานจะช่วยสร้างการจับคู่ธุรกิจให้ตลาดไทยที่มีจุดแข็ง คือ การเปิดกว้างในเนื้อหาของหนังสือที่จัดพิมพ์ ให้ได้รับการต่อยอดสู่โอกาสต่าง ๆ มากขึ้น
Bangkok Rights Fair จะมีตัวแทนจาก 34 บริษัท/ตัวแทนต่างชาติ จาก 14 ประเทศ และ 53 สำนักพิมพ์/ตัวแทนจำหน่าย (เอเจนซี) ประเทศไทย เข้าร่วมเจรจาแบบ B2B ระหว่าง 28-30 มี.ค. 2567 ซึ่งคาดว่าจะมีมูลค่าการซื้อขายลิขสิทธิ์ไม่ต่ำกว่า 351 ล้านบาท
มาที่กิจกรรมต่าง ๆ ภายในงานสัปดาห์หนังสือฯ ปีนี้ ใช้คอนเซ็ปต์ Booklympics รับกระแส โอลิมปิก ปารีส 2024 ด้วยอีเวนต์หลักอย่างการเฟ้นหาสุดยอดฝีมือแห่งวงการหนังสือ 5 ด้าน
ได้แก่ สุดยอดนักออกแบบปก (Designer), สุดยอดนักคิดพลอต (Writer), สุดยอดนักพิสูจน์อักษร (Proofreader), สุดยอดนักขาย (Top seller), สุดยอดนักอ่าน (Best reader)
โดยทุกอีเวนต์สามารถต่อยอดไปสู่การจ้างงานได้ จากเครือข่ายสำนักพิมพ์ คนทำงานหนังสือที่จะมามีส่วนร่วมใน Booklympics ตลอดการจัดงาน
ส่วนกิจกรรมส่งเสริมการตลาด จะเป็นไปเพื่อรองรับแทรฟฟิกที่มีสัดส่วนของคนรุ่นใหม่มากขึ้นเรื่อย ๆ กลุ่มอายุ 12-25 ปี เป็นมาร์เก็ตแชร์ที่เยอะที่สุด
ไม่ว่าจะเป็น กิจกรรมโดยใช้สื่อโซเชียล, แฟนมีตศิลปินรุ่นใหม่ ตลอดจนการคอลแลบส์กับขายหัวเราะ นิตยสารการ์ตูนไทยในเครือบันลือกรุ๊ป กลุ่มบริษัทซึ่งแตกหน่วยธุรกิจสู่ผู้ผลิตคอนเทนต์สร้างสรรค์ในหลากหลายแขนงในปัจจุบัน
ตลอดจนกิจกรรมเพื่อสังคมและการเรียนรู้เพื่อขับเคลื่อนการอ่านหนังสือของคนไทย อาทิ นิทรรศการ, งานเสวนา, กิจกรรมรณรงค์หาทุนเพื่อส่งเสริมการอ่านให้หน่วยงานต่าง ๆ
ส่วนของงานสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 22 หรือ Bangkok International Book Fair ปีนี้มีสำนักพิมพ์ชั้นนำระดับโลก เข้าร่วมออกบูธจาก 9 ประเทศ 11 บริษัท รวม 18 บูธ อาทิ ไต้หวัน, ญี่ปุ่น, จีน, ยูเครน ที่จะมานำเสนอหนังสือและวัฒนธรรมของแต่ละชาติ ซึ่งครอบคลุมเทคโนโลยีการพิมพ์ คัลเจอร์ และการเรียนการสอนภาษาต่าง ๆ
ภาพรวมตลาดหนังสือในไทย คุณสุวิช เสริมว่า ยอดขายหนังสือในไทย เคยโตสูงสุด 25,900 ล้านบาทในปี 2557 แต่ตกมาเหลือ 13,000 ล้านบาท ช่วงวิกฤตโรคระบาด ก่อนกลับมาฟื้นตัวจนเติบโต 10% ต่อปี หลังการคลี่คลายของวิกฤตฯ
สาเหตุที่มูลค่าตลาดยังคงเติบโตแม้การเริ่มล้มหายไปของเซกเมนต์ใหญ่ ๆ อย่างหนังสือพิมพ์ นิตยสาร หลายหัวช่วงหลายปีที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งเป็นเพราะราคาหนังสือเล่มต่อปกที่เพิ่มสูงขึ้น
ร้านหนังสือทั้งเชนสโตร์ และร้านหนังสืออิสระ จากปี 2564 อยู่ที่ 700 ร้าน ปัจจุบันลดลงอยู่ที่ 300 ร้าน แต่ตลาดก็ถูกทดแทนกันด้วยร้านหนังสือออนไลน์ของสำนักพิมพ์ต่าง ๆ ที่เปิดช่องทางของตัวบนแพลตฟอร์มใหม่ ๆ รวมถึงผู้ประกอบการร้านหนังสือก็มีพื้นที่ทางออนไลน์ที่ปักหลักกันไว้อยู่เช่นกัน
ทั้งการเกิดขึ้นของแพลตฟอร์มอีบุ๊กยังทำให้ผู้ประกอบการสามารถประเมินสัดส่วนการพิมพ์หนังสือเล่มออกมาได้แบบเรียลดีมานด์ เสี่ยงขาดทุนน้อยลง
และนักเขียนสามารถขายผลงานให้แก่ผู้อ่านได้โดยตรงมากขึ้น ทำให้มาร์เก็ตไซซ์ของตลาดหนังสือไม่ได้ลดลง เพียงแต่ตัวกลาง อาทิ สำนักพิมพ์ ร้านหนังสือ ถูกลดความสำคัญลง และต้องเปลี่ยนบทบาทสู่ผู้ผลิตคอนเทนต์ และจัดอีเวนต์ต่อเนื่องจากหนังสือกันมากขึ้น
| ตลาดหนังสือ เปลี่ยนไป
สำนักพิมพ์ ร้านหนังสือ ต้องปรับตัวเป็นผู้ผลิตคอนเทนต์ อีเวนต์ |
|
| ยอดขายหนังสือในไทย ปี 2567 | 17,000 ล้านบาท
ส่วนแบ่งตลาดของอีบุ๊ก 15% |
| อัตราเติบโตเฉลี่ยต่อปี | 10% |
| ร้านหนังสือทั่วประเทศ
ทั้งเชนสโตร์ ร้านหนังสืออิสระ |
300 ร้าน |
| ที่มา: PUBAT, มี.ค. 2567 | |
–



