บริษัท มิลลิเซเคินด์ จำกัด (Millisecond) ล่าสุดเผยโปรเจ็กต์ใหม่ที่จะพาซีรีส์ไทยเฉิดฉายในระดับอินเตอร์ กับซีรีส์โปรเจ็กต์ความร่วมมือระหว่างไทย-เกาหลี โดยได้ “Kim Sung Ho” ผู้กำกับมือ ดีที่เคยฝากฝีไม้ลายมือไว้กับเรื่อง “Move to Heaven” อันโด่งดังกินใจผู้ชมทั่วเอเชีย ร่วมกับ “วรรธนพงศ์ วงศ์วรรณ” ผู้กำกับเรื่องสาธุ ซีรีส์ของไทย
มาร่วมกันถ่ายทอดแนวคิดของซีรีส์ที่ต้องดึงซอฟต์พาวเวอร์ของอีสานออกมา ภายใต้กรอบแนวคิด “Where the heart is?” สื่อสารเรื่องราวของซีรีส์ที่จะลงลึกไปยังสังคมยุคปัจจุบันที่ผู้คนวิ่งตามหาความสำเร็จ ชื่อเสียง เงินตรา และการค้นหาตัวตน แต่ก็ยังไม่พบความสุข เพราะเอาใจไปวางไว้ผิดที่ หากเรารู้จักวางใจให้ถูกที่ ที่นั่นจะกลายเป็นบ้านของเราเสมอ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ ผู้คน ความฝัน หรือสิ่งที่เรารัก
ซึ่งจุดเริ่มต้นของโปรเจ็กต์นี้ คุณอลงกรณ์ ทาอุบล ในฐานะ Executive Producer จากทีม Culster บริษัทในเครือ Millisecond กล่าวว่า โปรเจ็กต์ความร่วมมือระหว่างไทย-เกาหลีครั้งนี้ เริ่มมาจากโครงการพัฒนานักเขียนบท หรือ Script Lab ที่ทีม Culster จัดขึ้นเมื่อมิถุนายนปีที่ผ่านมา ซึ่งได้เชิญคุณคิมซองโฮ มาร่วมเป็นวิทยากรในคลาสเขียนบท จึงมีนักเรียนเขียนบทรุ่นแรกที่ได้มีโอกาสร่วมพัฒนาบทซีรีส์ครั้งนี้ด้วย
ทำไมต้อง “ความเป็นอีสาน”
คุณอลงกรณ์ ตอบว่า เนื่องจากบริษัทมีความสนใจในความเฉพาะตัวของถิ่นอีสานเป็นทุนเดิม มี culture ที่น่าสนใจหลากหลาย แต่ไม่รู้จะเล่าเรื่องออกมาอย่างไรให้เก็บได้ทุกมิติ ซึ่งเกาหลีมีความโดดเด่นเรื่องการลำดับเรื่องที่ดี เก่งเรื่องทำจังหวะให้กลมกล่อม จึงได้เชิญคุณคิมซองโฮมาร่วมกำกับในซีรีส์นี้ด้วย เพื่อให้ได้การเล่าเรื่องผ่านทั้งเลนส์คนไทยและคนเกาหลี
การ Mix อีสานใส่กับ K-pop
คุณแจ็ค วรรธนพงศ์ วงศ์วรรณ ผู้รับผิดชอบการเล่าคอนเซ็ปต์ความเป็น “Home” หรือการเป็นที่พักใจ โดยพื้นเพเป็นคนที่มีความเกี่ยวโยงกับอีสาน เพราะเกิดในจังหวัดอุบลราชธานี เข้าใจถึงคัลเจอร์ เนื่องจากได้ซึมซับขนบธรรมเนียมประเพณีมาบ้างแล้ว แต่ก่อนหน้านั้นไม่เห็นช่องที่จะสารถมาเล่าเรื่องได้ แต่การทำงานร่วมกันในครั้งนี้ทำให้เขาตื่นเต้นเป็นอย่างมาก ด้วยความที่คอนเซ็ปต์น่าสนใจในตัวของมันเอง และได้เรียนรู้โนฮาวบางสิ่งจากทางเกาหลีด้วย
ขณะที่คุณคิมซองโฮ จะพูดถึงแก่นของ “Heart” หรือหัวใจที่วางอยู่ไม่ถูกที่ ซึ่งคุณคิมเองก็รู้สึกตื่นเต้นไม่แพ้กัน เพราะเป็นการกำกับซีรีส์ให้กับไทยครั้งแรกเช่นกัน แต่บุคลากรไทยมีศักยภาพมาก ทุ่มเททำงานเต็มที่ และมีแพชชันที่แรงกล้า ทำให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่น โดยเฉพาะคนเขียนบทไทยที่มีความน่ารัก สนุกสนาน ผ่อนคลาย ทำให้บรรยากาศโดยภาพรวมเป็นไปอย่างสบายๆ
คอนเซ็ปต์ซีรีส์
ซีรีส์จะออกแนวอบอุ่นหัวใจ นำเสน่ห์ของความเป็นอีสาน มาถ่ายทอดผ่านวิถีชีวิต วัฒนธรรมประเพณี ไปจนถึงหมอลำอันเป็นจิตวิญญาณอีสาน จะเป็นอย่างไรหากถูกผสมผสานเข้ากับกลิ่นอาย K-Pop น่าติดตามเป็นอย่างมาก
ในปี 2567 นี้ จะยังเป็นช่วงเวลาของการพัฒนาบท วางแผนถ่ายทำปลายปีหน้า และกำหนดเผยแพร่ 2569-2570
แล้วมาร่วมพาใจไปวางให้ถูกที่กับซีรีส์กลิ่นอายอีสาน-เกาหลี 2569 เจอกัน
