Life/กลายเป็นกิจกรรมที่คนเกือบทั่วโลกทำกันจนเป็นกิจวัตรไปแล้ว สำหรับการจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ตลอดวันทำงาน และข้างตัวก็ยังมีจอเล็กของสมาร์ตโฟนอีก

แม้ทำไปเพื่อความสะดวกและเพราะจำเป็น แต่มันก็ส่งผลเสีย เนื่องจากทำให้เกิดอาการตาล้า โดยสำนักข่าว cnbc รายงานว่า คนวัยทำงานในสหรัฐฯ กว่า 100 ล้านคนที่จ้องมองจอมากเกินไปจนตาล้า

ซึ่งอาจต่อเนื่องไปปัญหาอื่น ๆ ทางสายตา ตาแห้ง เปลือกตาหนัก ไปจนถึงภาพเบลอ แบบเดียวกับคนวัยทำงานทั่วโลกต่างเป็นกัน อย่างไรก็ตาม ยังมีวิธีง่าย ๆ ที่ช่วยลดอาการตาล้าในยุคชีวิตติดจอ      

Set default มุมทำงานใหม่: ผลงาน (Output) จะออกมาดี ต้องเริ่มการใส่ (Input) พลังงาน ความคิดสร้างสรรค์ และองค์ประกอบต่าง ๆ ดีเสียก่อน ทว่ายังมีอีกหนึ่งปัจจัยที่จำเป็น

นั่นคือ การจัดวาง เรียบเรียง และเตรียมความพร้อมต่าง ๆ แบบเดียวกับการกำหนดค่าตั้งต้น (Set default) ของคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ

นำมาสู่วิธีแรกในการลดอาการตาล้า นั่นคือปรับมุมทำงาน และวางตำแหน่งจอคอมพิวเตอร์ให้เหมาะสม โดยไม่ควรสูงเกินไปจนต้องแหงนมอง และควรวางให้ห่างจากตาประมาณเหยียดสุดแขนของคุณ

ขณะเดียวกันควรปรับระดับแสงหน้าจอให้สว่างเหมาะสมกับแสงในห้อง และหากเป็นไปได้ ควรหาแผ่นกระจกมาลดแสงสีฟ้าจากจอด้วย

ใช้สูตร 20-20-20: วิธีต่อมาเรียกผ่านสูตร 20-20-20 โดยนายแพทย์ Steven Reed ประธานสมาคมจักษุแพทย์สหรัฐฯ แนะนำว่า

เมื่อมองจอคอมพ์ ได้ 20 นาที ให้หันออกไปมองวัตถุที่อยู่ไกลออกไปสัก 20 ฟุต เป็นเวลา 20 วินาที เพื่อให้ตาได้พักเป็นระยะ ๆ และไม่ล้าจนเกินไป ตลอดวันทำงาน

ลดเวลาจอเพิ่มเวลาพัก: วิธีสุดท้ายที่ช่วยลดอาการตาล้าได้ คือ การเตือนตัวเองให้พักสายตาและลดการก้มมองสมาร์ตโฟนหลังเลิกงาน รวมไปถึงการจมอยู่หน้าจออุปกรณ์ดังกล่าวก่อนนอนด้วย

อย่างหลังเป็นเรื่องที่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะนอกจากลดอาการตาล้าแล้ว ยังทำให้คุณหลับได้ง่ายและเต็มตื่นกว่าเดิม เนื่องจากไม่ต้องเห็นแสงสีฟ้าที่ไปกระตุ้นให้ร่างกายตื่นตัวจนไปรบกวนการนอน/cnbc   


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer