Trend/หนึ่งในเกณฑ์ที่ชี้ว่าความเคลื่อนไหวใดที่ควรจับตามอง คือเมื่อบรรดาเบอร์ต้น ๆ พร้อมใจทำอย่างเดียวกัน เพราะอาจเป็นหมุดหมายสะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะมาถึง เหมือนความเคลื่อนไหวล่าสุดบนรันเวย์ 4 งานแฟชั่นวีคใหญ่ปี 2024 ที่เพิ่งจบลงไป
The Guardian หนึ่งในสื่อดังของอังกฤษ รายงานอิงจาก Vogue Fashion ว่า ชุด 94.9% ใน 4 งาน แฟชั่นวีคใหญ่ของโลก อันได้แก่ ลอนดอน ที่อังกฤษ มิลาน ที่อิตาลี ปารีส ที่ฝรั่งเศส และนิวยอร์ก ที่สหรัฐฯ ประจำคอลเลกชั่น ฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน สวมใส่โดยนางแบบรูปร่างผอมเพรียว
ทำให้มีนางแบบหุ่นอวบ หรือรูปร่างค่อนข้างใหญ่ ซึ่งเรียกแบบทับศัพท์ตามภาษาอังกฤษว่า Plus Size ที่ได้ขึ้นไปเดินบนรันเวย์ของทั้ง 4 งาน เพียงไม่กี่คนเท่านั้นได้ขึ้นเดินแบบ
สถานการณ์ดังกล่าวทำให้บริษัทจัดหาและตัวแทนนางแบบต่างออกมาแสดงความกังวล ท่ามกลางกระแสวิจารณ์ว่า นี่คือความถดถอย เหมือนเดินหน้าได้เพียงไม่กี่ก้าวก็เดินถอยหลังกลับไป 10 ก้าว
เพราะเป็นการสื่อว่า บรรดาแบรนด์แฟชั่นใหญ่ ๆ เริ่มเมินเทรนด์ Real Size Beauty ที่ไม่ว่าคนรูปร่างแบบไหนก็สวยได้ ในยุคโอบรับความหลากหลายเสียแล้ว
ทั้งที่เทรนด์นี้กำลังเติบโต จนช่วง 2-3 ปีมานี้ นางแบบกลุ่ม Plus Size ต่อเนื่องไปจนถึง สาวผิวดำ ชาวเอเชีย หรือแม้กระทั่งผู้หญิงวัยเกษียณ และสาวดาวน์ซินโดรม ก็สามารถเดินบนรันเวย์เดียวกับ นางแบบหุ่นเพรียว ผมทอง โครงหน้าชัด อันเป็นพิมพ์นิยมวงการนางแบบได้แล้ว
The Guardian รายงานต่อโดยอิงจากทัศนะของบริษัทจัดหาและตัวแทนนางแบบว่า การที่ทัพนางแบบหุ่นผอมเพรียว ได้กลับมาเดินแบบให้แบรนด์ใหญ่ ๆ จนเกือบเต็มรันเวย์นี้ สะท้อนว่าแบรนด์แฟชั่นไม่มองความเป็นจริง
และบีบให้แบรนด์แฟชั่นเล็ก ๆ ต้องใช้นางแบบรูปร่างผอมบางตามไปด้วย จนเป็นการกดดันให้นางแบบที่ผอมอยู่แล้วต้องทำทุกทางเพื่อลดน้ำหนักให้ผอมลงไปอีก ถ้ายังอยากมีงานและที่ทางในวงการเดินแบบต่อไป
การที่แบรนด์แฟชั่นใหญ่ ๆ กลับมาใช้นางแบบรูปร่างผอมบางมาก ๆ นี้ มีที่มา โดยเกิดจากรัฐบาลประเทศแถบตะวันตก ทั้งสหรัฐฯ อังกฤษ และกลุ่มสหภาพยุโรป อนุมัติยาแก้เบาหวานที่สามารถใช้ลดความอ้วนได้ เช่น แบรนด์ Wegovy และ Ozembic สามารถซื้อได้ตามกฎหมาย
ขณะที่บุคคลชั้นนำที่สามารถชี้นำความคิด ทั้งในวงการบันเทิง วงการธุรกิจ เทคโนโลยี ไปจนถึงมหาเศรษฐี อย่าง Elon Musk ก็เผยว่าใช้ยาลดความอ้วนแบรนด์ดัง ๆ เหล่านี้ จนคนทั่วไปใช้ตาม และคนส่วนใหญ่มองว่า ผอมคือสุขภาพดี
สิ่งที่ตามมาคือ คนต้นแบบคนกลุ่ม Plus Size แต่สุขภาพดี หรือภูมิใจในรูปร่างของตนลดลง ซึ่งกระทบต่อเนื่องให้แบรนด์แฟชั่นกลับมาออกคอลเลกชั่นสำหรับคนรูปร่างผอมบาง จนนางแบบที่ต้องดูแลรูปร่างมากอยู่แล้ว ยิ่งต้องลดน้ำหนักให้ผอมลง ๆ ไปอีกเพื่อยังมีงานเดินแบบนั่นเอง
ประเด็นที่ต้องติดตามต่อจากนี้คือ แบรนด์แฟชั่นจะหันกลับมามองความเป็นจริงว่า ในสังคมมีคนรูปร่างต่างกัน คนไม่ผอมบางก็สามารถภูมิใจในรูปร่างของตน และมีสิทธิ์ที่จะสวมใส่ชุดสวยได้อย่างมั่นใจ ในยุคของความเท่าเทียม
ถ้าเป็นไปทิศทางนี้ จะเป็นปัจจัยบวกช่วยให้ตลาดแฟชั่นเติบโตอย่างครอบคลุมกับคนทุกรูปร่างทุกแบบสอดคล้องกับยุคสมัย และยังถือเป็นการช่วยป้องกันไม่ให้ผู้คนเป็นโรคคลั่งผอม ซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพอีกด้วย
สำหรับเรื่องยาลดความอ้วนกับวงการแฟชั่น มีอีกประเด็นน่าสนใจแตกออกมา โดยราว 6 ปีมานี้ หลังรัฐบาลสหรัฐฯ และประเทศยุโรปไฟเขียวให้ซื้อยาลดความอ้วนได้ ตลาดยาลดความอ้วนก็โตขึ้นอย่างมาก
พอเมื่อกันยายน 2023 เกิดความเคลื่อนไหวสำคัญขึ้น นั่นคือ ยาลดความอ้วนแบรนด์ Wegovy และ Ozempic ขายดีมากจนมูลค่าบริษัท Novo Nosdisk บริษัทเดนมาร์กที่ผลิตยาทั้ง 2 แบรนด์นี้ เพิ่มเป็น 428,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 14.9 ล้านล้านบาท ตามอัตราแลกเปลี่ยน ณ ขณะนั้น) แซง LVMH บริษัทแม่ Louis Vuitton ขึ้นเป็นบริษัทมูลค่าสูงสุดของยุโรป/theguardian
–