Trend/ถือเป็นอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวที่ได้รับความสนใจ ทั้งด้านโปรโมตแบรนด์ งานอีเวนต์ และวงการแฟชั่น สำหรับแฟชั่นโชว์ Victoria’s Secret เมื่อ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา

ท่ามกลางการสะท้อนให้เห็นว่า แบรนด์กลับมาอยู่บนความเป็นจริง ผ่านการให้นางแบบที่หลากหลายในเรื่องรูปร่าง สีผิว และวัย ได้มีโอกาสเฉิดฉายบนรันเวย์
แต่ยังมีอีกประเด็นที่ไม่ควรมองข้ามไป เพราะนี่สามารถใช้เป็นกรณีศึกษา สำหรับการบริหารจัดการแบรนด์และงานอีเวนต์ นั่นคือ แฟชั่นโชว์ Victoria’s Secret ครั้งนี้ เป็นการกลับมาจัดแบบมีการถ่ายทอดสด หรือสตรีมบนแพลตฟอร์ม ออนไลน์ หลังหายไปถึง 6 ปี และปัญหามากมายที่ประดังเข้ามาในเวลาไล่เลี่ยกัน
Victoria’s Secret จัดแฟชั่นโชว์ขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 1995 จากไอเดียของ Edward Razek หัวเรือใหญ่ฝ่ายการตลาด ณ เวลานั้น เพราะเห็นว่ายังไม่มีแบรนด์ไหนกล้าทำมาก่อน และน่าจะเป็นแผนโปรโมตแบรนด์ที่ได้ผล

ไอเดียดังกล่าวของ ผอ. ฝ่ายการตลาดผู้นี้ ซึ่งเคยทำงานวงการโฆษณามาก่อนถูกต้อง โดยแฟชั่นโชว์ ของ Victoria’s Secret ได้รับความสนใจตั้งแต่ครั้งแรก และยังเป็นปัจจัยบวกหนุนให้หุ้นของ The Limited บริษัทแม่ ณ เวลาดังกล่าว ราคาพุ่งขึ้นในการไอพีโอ 2 เดือนให้หลังแฟชั่นโชว์ อีกด้วย

หลังประเดิมครั้งแรกได้สวย ทีมการตลาด Victoria’s Secret ที่ Edward Razek ก็เดินหน้าจัดแฟชั่นโชว์เป็นประจำทุกปี โดยขณะที่ตัวโชว์และชุดชั้นในที่นำมาโชว์ จะมีไอเดียแปลกใหม่ออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นปัจจัยบวกช่วยหนุนยอดขายอย่างมาก ยืนยันได้จากยอดขายที่เพิ่มขึ้น
โชว์ยังมีพัฒนาการ ด้วยการนำนักร้องและวงดนตรีดัง ๆ อย่าง Spice Girls, Maroon 5, Taylor Swift และ Katy Perry มาเปิดคอนเสิร์ตย่อม ๆ เพื่อเรียกเรตติ้ง ขณะเดียวกันแฟชั่นโชว์ของ Victoria’s Secret ยังสร้างนางแบบที่เน้นความเซ็กซี่ ในชื่อ Victoria’s Secret หรือนางฟ้าวิคตอเรียขึ้นมา

ช่วงขาขึ้นของเหล่านางฟ้าวิคตอเรียสุดเซ็กซี่ อย่าง Heidi Klum, Giselle Bundchen, Tyra Banks, Adriana Lima และ Miranda Ker ได้ใส่ชุดชั้นในของแบรนด์ขึ้นรันเวย์ และในแต่ละปีคนดัง ๆ ในวงการแสดงหรือวงสังคมชั้นสูงของสหรัฐฯ ก็ได้ “ติดปีก” มาเป็น นางฟ้าวิคตอเรีย ด้วย
ปี 2010 ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดนั้น แฟชั่นโชว์ Victoria’s Secret มีจำนวนผู้ชมผ่านการถ่ายทอดสดของสถานีโทรทัศน์ CBS ของสหรัฐฯ มากถึงกว่า 10.3 ล้านคน และถือเป็นต้นแบบแบรนด์ที่ใช้ความเซ็กซี่ทำการตลาดได้ประสบความสำเร็จอย่างมาก
ทว่าหลังจากนั้นยอดผู้ชมก็ทยอยลดลง ๆ พร้อมหลายปัญหาที่ประดังเข้ามา โดยเฉพาะข่าวเสียหายเรื่องการล่วงละเมิดทางเพศของผู้บริหาร ซึ่งหนักที่สุดคือ ซีอีโอมีความสนิทสนมใกล้ชิดกับ Jeffrey Epstein มหาเศรษฐีชาวอเมริกันที่ก่อเหตุอื้อฉาวทางเพศไว้มากมาย

สถานการณ์ของ Victoria’s Secret แย่ลงไปอีกจากกระแส #Metoo ที่ผู้หญิงทั่วโลกหันมารวมตัวต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศ การคุกคามทางเพศ รวมไปถึงการทำตัวเป็นใหญ่ของเพศชาย แถมยังมาถูกวิจารณ์อีกว่า ขายความเซ็กซี่มากจนเกินไป และไม่ยอมโอบรับความหลากหลายด้านรูปร่างผู้หญิง
ปัญหาเหล่านี้ฉุดให้ยอดผู้ชมแฟชั่นโชว์ของ Victoria’s Secret ลดลง ๆ โดย ณ จุดต่ำสุดในปี 2018 ยอดผู้ชมลงมาอยู่ที่เพียง 3 ล้านคนเท่านั้น บีบให้ต้องงดจัดแฟชั่นโชว์ไปโดยไม่มีกำหนด
ปัญหาเรื่องภาพลักษณ์ ข่าวฉาวของผู้บริหาร และการไม่ยึดโยงกับเทรนด์ความงาม ฉุดให้ยอดขายของ Victoria’s Secret บีบให้แบรนด์ต้องเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยมีข่าวออกมาเป็นระยะ ๆ ถึงความเปลี่ยนแปลง
เช่น หันมาออกผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ลดความเซ็กซี่ลง และเพิ่มจำนวนผู้หญิงเข้าไปในทีมผู้บริหาร รวมไปถึงติดต่อให้ขวัญใจผู้หญิงยุคใหม่ 7 คนในยุคแห่งความหลากหลาย

เช่น Paloma Elsseser นางแบบร่างอวบ Valentina Sampaio นางแบบหญิงข้ามเพศ และ Megan Rapainoe เลสเบี้ยนคนดัง กัปตันฟุตบอลหญิงทีมชาติสหรัฐฯ มาทำหน้าที่ Brand Ambassador ช่วงรีแบรนด์ในปี 2021
ทว่าสถานการณ์ของแบรนด์ก็ยังไม่ดีขึ้นมากนัก และสถานการณ์โควิดก็ยังทำให้ไม่สามารถจัดแฟชั่นโชว์ได้
ปี 2022 ต่อเนื่อง 2023 มีความเคลื่อนไหวสำคัญที่เกี่ยวข้องกับ Victoria’s Secret นั่นคือ ซีรีส์สารคดีทางแพลตฟอร์ม Hulu (ของ Disney) ในชื่อ Angel and Demon ในปี 2022 ที่ตีแผ่ขาขึ้น-ขาลงของแบรนด์ โดยมีประเด็นหลักคือเหตุอื้อฉาวทางเพศของซีอีโอ
และการเน้นเซ็กซี่จนเกินพอดี ซึ่งสะท้อนออกมาผ่านคำพูดของคนในซีรีส์สารคดีที่ว่านิยามของ Victoria’s Secret คือ Glitt and Tits หรือโชว์ที่หรูหราเต็มไปด้วยความวิบวับกับอกอึ๋ม ๆ
ปี 2023 มีทำแฟชั่นโชว์ในรูปซีรีส์สารคดี ในชื่อ The Tour ให้ชมกันทางแพลตฟอร์ม Amazon Prime อย่างไรก็ตาม Victoria’s Secret ก็ยังถูกจับตามองว่า สถานการณ์ยังไม่กลับมาดี จึงยังไม่กล้าจัดแฟชั่นโชว์
ปี 2024 ความหวังของแฟน ๆ Victoria’s Secret ที่จะได้เห็นแฟชั่นโชว์ กลับมาจัดเต็มรูปแบบอีกครั้ง มีแนวโน้มที่จะเป็นจริงขึ้นมา หลังได้ Hillary Super อดีตหัวเรือใหญ่ของ Savage X Fenty แบรนด์คู่แข่งมาเป็นซีอีโอ
Hillary Super ย้ายมาคุม Victoria’s Secret ช่วงสิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งเธอก็เริ่มเดินหน้าเตรียมจัดแฟชั่นโชว์ จนนำมาสู่แฟชั่น โชว์ ของ Victoria’s Secret แบบเต็มรูปแบบครั้งแรกในรอบ 6 ปี
แฟชั่นโชว์ ของ Victoria’s Secret 2024 เมื่อ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา ได้รับทั้งความสนใจและคำชม เริ่มจากการนำ 3 นักร้องดังต่างรุ่น สีผิว และวัย คือ Lisa นักร้องดังชาวไทยวัย 27 ปี จากแวดวง K-pop

Tyla นักร้อง-นักเต้นผิวสีวัย 22 ปี ชาวแอฟริกาใต้ และ Cher นักร้องรุ่นใหญ่มาเปิดคอนเสิร์ตแบบย่อม
ต่อเนื่องไปสู่การโอบรับเทรนด์ความงามที่หลากหลาย มีนางแบบทุกสีผิว รูปร่าง และช่วงวัย รวมไปถึงผู้หญิงข้ามเพศ มาเดินบนรันเวย์ ขณะเดียวกันยังมี นางฟ้าวิคตอเรีย ที่แฟน ๆ ของแบรนด์ยังจดจำได้ เช่น Tyra Banks และ Adriana Lima มาร่วมโชว์ด้วย
แฟชั่นโชว์ ปี 2024 ถือเป็นการยืนยันว่า Victoria’s Secret กลับมาแล้ว หลังฝ่ามรสุม และรีแบรนด์ พร้อมกันนี้ยังเป็นกรณีศึกษาและบทเรียนในเรื่องการบริหารจัดการแบรนด์ว่า ถ้าไม่ปรับตัวตามโลก ที่สุดโลกจะบีบให้ต้องปรับตัว และหากปรับตัวจนกลับมาอยู่กับความเป็นจริง แบรนด์ก็จะสามารถฟื้นกลับมาได้ในที่สุด/cnn, theguardian, forbes, wikipedia, dailymail, ap
–
