โกยรายได้ทะลุ 700 ล้านบาทไปแล้ว สำหรับภาพยนตร์เรื่อง ธี่หยด 2

และยังคงยืนโรงฉายต่อไปทั้งในเมืองไทยและอีกหลายประเทศในเอเชีย

กลายเป็นรายได้ใหม่ ๆ ที่เข้ามาช่วยช่อง 3 อย่างถูกที่ถูกเวลา หลังจากเสียศูนย์จากรายได้หลักที่เป็นเม็ดเงินโฆษณาจากงานละครมาหลายปี

ธี่หยด 2 ยังเป็นภาพยนตร์ไทยที่สร้างสถิติใหม่ ๆ ในหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องยอดซื้อตั๋วล่วงหน้าสูงสุด ทำรายได้ 100 ล้านบาทเร็วที่สุด

และเป็นภาพยนตร์ไทยที่มีรายได้สูงสุด ที่เข้าฉายในประเทศเวียดนาม ธี่หยด 2 (ยังไม่จบโปรแกรม) มีรายได้ 89,456,473,225 VND หลานม่า รายได้ 89,032,971,098 VND บุพเพฯ 2 รายได้ 84,705,300,690 VND

เมื่อภาพยนตร์ไทยเริ่มกลับมาได้รับความนิยมมากขึ้น และสร้างปรากฏการณ์หนังไทยทำเงินถล่มทลาย 3 เรื่องรวดในช่วงปลายปีที่ผ่านมา คือ สัปเหร่อ, ธี่หยด และ 4 King 2 ต่อด้วยเรื่องหลานม่าในปีนี้   จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ช่อง 3 จะกลับมาโฟกัสกับธุรกิจภาพยนตร์อีกครั้ง

ทั้ง ๆ ที่หยุดสร้างภาพยนตร์ไปนานเกือบ 20 ปี นับตั้งแต่ยุคบริษัทในเครืออย่าง ฟิล์มบางกอก ผลิตภาพยนตร์ชื่อดังไว้หลายเรื่อง เช่น ฟ้าทลายโจร, บางระจัน ได้ปิดตัวไป

จนกระทั่ง ในปี 2565 ได้ร่วมทุนกับบริษัท M Pictures สร้างเรื่อง “บัวผันฟันยับ”  ต่อด้วยเรื่อง “ธี่หยด1” ซึ่งสามารถทำรายได้ประมาณ 130 ล้านบาท และ 500 ล้านบาทตามลำดับ

ส่วนปีนี้ได้ร่วมลงทุนกับ M STUDIO  ผลิตภาพยนตร์ 2 เรื่อง คือ ธี่หยด 2 และ มานะแมน

Key Success สำคัญของความสำเร็จนอกจากเรื่องเนื้อหาภาพยนตร์ที่โดนใจคนดูแล้ว  ช่อง 3 ยังมีจุดแข็งที่สำคัญคือ มีศิลปินระดับแม่เหล็กมาเป็นตัวดึงดูด มีกระแสแฟนคลับที่ช่วยโปรโมต ได้มีเดียของช่อง 3 มาช่วยโปรโมตทั้งวันในเกือบทุกรายการ สามารถขายบนแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง การเอาไปฉายในตลาดต่างประเทศ และอาจต่อยอดไปได้อีก เช่น สปินออฟของตัวละครในหนังมาสร้างเป็นภาคใหม่ ๆ

รวมทั้งการได้พาร์ตเนอร์ที่เป็นบริษัทผู้ผลิตหนังคุณภาพอย่าง M STUDIO มาร่วมทีม

ในปี 2556 ก่อนเกิดทีวีดิจิทัล ช่อง 3 ทำสถิติสูงสุดของเงินกำไรที่ 5,589 ล้านบาท รายได้ 16,697 ล้านบาท

ปี 2566 ช่อง 3 ทำกำไรอยู่ที่ 210 ล้านบาท จากรายได้ 4,653 ล้านบาท

ส่วน 6 เดือนแรกปีนี้มีกำไรสุทธิ 85.62 ล้านบาท จากรายได้ที่ 2,136 ล้านบาท

มาดูกันว่าปีนี้รายได้จากภาพยนตร์จะมีส่วนช่วยตัวเลขผลกำไรครึ่งปีหลังของช่อง 3 ได้ดีแค่ไหน

เมื่อต้นปีผู้บริหารก็ออกมาบอกแล้วว่ายังมีภาพยนตร์อยู่ในระหว่างกำลังดำเนินการเตรียมผลิตอีกมากกว่า 4-5 เรื่อง และมั่นใจกับตลาดภาพยนตร์ไทยว่าจะมีผู้ชมให้การตอบรับเป็นอย่างดี พร้อมขยายสู่ตลาดโลกต่อไป

ส่วนอนาคตของละครช่อง 3  จะมีนโยบายอะไรใหม่ ๆ ออกมาหรือไม่ เป็นเรื่องต้องรอดูกันต่อไป


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer