มิชลิน ประกาศเดินหน้าขับเคลื่อนนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและทั่วโลก ภายในปี 2030 จะใช้วัสดุหมุนเวียน 40% ในการผลิตยางล้อและเพิ่มเป็น 100% ภายในปี 2050
ในงาน ‘Michelin Asia Pacific Media Day 2024’ ภายใต้ธีม Innovating for a Sustainable Future มิชลินเปิด Talent Campus ซึ่งตั้งอยู่ภายในบริเวณโรงงานของมิชลินที่แหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี เพื่อต้อนรับสื่อมวลชนไทยและต่างชาติ
คุณมานูเอล ฟาเฟียง ประธานกลุ่มมิชลินประจำภาคพื้นเอเชียตะวันออกและโอเชียเนีย กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 135 ปีที่ผ่านมา มิชลินได้สั่งสมความชำนาญในการผสมวัสดุต่าง ๆ เข้าด้วยกัน จนก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านการออกแบบ การผลิต และการจัดจำหน่ายโซลูชันวัสดุคอมโพสิตที่ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลาย
มิชลิน มุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำด้านโซลูชันวัสดุคอมโพสิต โดยเฉพาะคอมโพสิตที่มีความยืดหยุ่น เช่น ผ้าเคลือบ ฟิล์ม ซีล สายพานลำเลียง สายพาน สายยาง และโครงสร้างแบบลมเป่า เพื่อตอบสนองความต้องการในภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ ทั้งอุตสาหกรรมทั่วไป โครงสร้างพื้นฐาน การบินและอวกาศ การขนส่ง พลังงาน เกษตรกรรมและอาหาร ตลอดจนการดูแลสุขภาพ
โดยกิจกรรมวันสื่อมวลชนครั้งนี้ มิชลินประกาศเดินหน้าขับเคลื่อนนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและทั่วโลก ผ่านวิสัยทัศน์ ‘Innovating for a Sustainable Future’ ได้อย่างเป็นรูปธรรม
มิชลินตั้งเป้าว่าภายในปี 2030 จะใช้วัสดุหมุนเวียน 40% ในการผลิตยางล้อและเพิ่มเป็น 100% ภายในปี 2050 ในเดือนมิถุนายน 2024 มิชลินได้นำเสนอยางล้อที่ใช้วัสดุยั่งยืน 71% ในการแข่งขัน 24H Le Mans ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญที่สะท้อนบทบาทของมิชลินในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนด้านการเดินทาง
ทั้งได้จัดแสดงยางล้อต้นแบบที่ใช้วัสดุชีวภาพและวัสดุรีไซเคิล 45% (สำหรับยางล้อทั่วไป) และ 71% (สำหรับยางล้อรถแข่ง) ซึ่งยังคงสมรรถนะที่ดีเยี่ยมเหมือนกับยางล้อรุ่นปกติ
กลยุทธ์การพัฒนาอย่างยั่งยืนของมิชลินยังตั้งอยู่บนเสาหลัก 3 ประการ โดยทุกการตัดสินใจทางธุรกิจต้องสร้างความสมดุลระหว่างความรับผิดชอบต่อสังคม ความสำเร็จทางธุรกิจ และการดูแลสิ่งแวดล้อม
งานได้มีเซกชั่นพาสื่อมวลชนเยี่ยมชมโรงงานที่เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย สะท้อนความก้าวหน้าด้านกระบวนการผลิตของมิชลิน นอกจากนี้ ทุกคนยังได้เรียนรู้การนำวัสดุรีไซเคิลและวัสดุหมุนเวียนจากภายในทวีปเอเชีย เช่น ยางธรรมชาติ และซิลิกาจากแกลบข้าว มาใช้ในกระบวนการผลิตยางล้ออีกด้วย
ด้านความมุ่งมั่นของมิชลินในการผลิตยางล้อที่ยั่งยืน เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้า 100% มีความต้องการด้านสมรรถนะยางล้อที่สูงกว่ารถประเภทอื่นด้วยน้ำหนักและแรงบิด มิชลินจึงพัฒนายางล้อที่มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้นและผสมผสานวัสดุหมุนเวียนและรีไซเคิล
นอกจากนั้น สื่อมวลชน แขกผู้มีเกียรติ และคณะผู้บริหารมิชลิน ยังได้ร่วมรับประทานอาหารค่ำจากร้าน Haoma (ฮาโอมา) เจ้าของรางวัลดาวมิชลินหนึ่งดวง และดาวมิชลินรักษ์โลก โดยอาหารมื้อนี้ช่วยสะท้อนความสำคัญของการดำเนินกิจการด้านอาหารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
