ปี 2025 เป็นอีกปีที่ท้าทายในวงการธุรกิจหลากหลายธุรกิจจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจที่มาพร้อมกับการแข่งขันที่รุนแรงของคู่แข่งไทยและเทศ บนพฤติกรรมการเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคในประเทศไทย
ในปี 2025 KResearch คาดการณ์ว่าการบริโภคภาคเอกชนมีแนวโน้มเติบโต 2.4% ชะลอลงจากปี 2567 ที่เติบโต 4.6%
พร้อมมองโอกาสและความท้าทายของ 5 ธุรกิจที่เป็นดวงรุ่ง และดาวร่วง ไว้ดังนี้
ธุรกิจดาวรุ่ง
อาหารและเครื่องดื่มสุขภาพ
จากมูลค่าตลาดที่เติบโต 5-7% บนเทรนด์รักสุขภาพและสังคมสูงวัย และในปี 2028 ประเทศไทยจะเข้าสู่ Super Aged Society จากผู้สูงอายุ 14 ล้านคน คิดเป็น 20% ของประชากรทั้งหมด
การแพทย์ความงาม
แม้กำลังซื้อของผู้บริโภคจะยังคงไม่ฟื้นตัวเต็มที่ แต่เทรนด์ผู้บริโภคใส่ใจสุขภาพและรักความงาม ทำให้ตลาดด้านสุขภาพเพิ่มขึ้น 4-6% ต่อปี
ท่องเที่ยว, ฮีลใจ เช่นเลี้ยงสัตว์ คอนเสิร์ต มูเตลู หมูเด้ง หมีเนยและอื่นๆ
เป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโคตามกระแส Self Healing เช่นมูลค่าอาหารสัตว์เลี้ยงเติบโต 10-15% บนจำนวนสัตว์เลี้ยงที่เพิ่มขึ้น
สินค้าและบริการเกี่ยวกับเด็ก
แม้เด็กเกิดน้อยลงแต่เป็นธุรกิจที่มีมูลค่าการเติบโต 4% จากพ่อแม่ที่ต้องการสินค้าที่มีคุณภาพ และปลอดภัยต่อเด็ก ไม่ว่าจะเป็นของใช้ส่วนตัวเด็ก อาหารเด็ก ของเล่นและสิ่งอำนวยความสะดวก เช่นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ผ้าอ้อม รถเข็น เป็นต้น
ธุรกิจกรีน, คาร์บอนต่ำ
ผลสำรวจพบว่า 58% ของผู้บริโภค เติมใจที่จะจ่ายสินค้า, บริการ ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และ 37% เติมใจจ่ายเพิ่มขึ้นไม่เกิน 10% เมื่อเทียบกับราคาสินค้าปกติ
สำหรับธุรกิจที่เป็นดาวร่วงได้แก่
สินค้าแฟชั่น, เฟอร์นิเจอร์
เป็นธุรกิจที่สร้างผลกระทบให้กับผู้ประกอบการที่ปรับตัวไม่ทันจากการแข่งขับกับสินค้านำเข้าจากสินค้านำเข้าจากจีน เกาหลี ญี่ปุ่น บนการใช้จ่ายอย่างระมัดระวังของผู้บริโภค
ดีลเลอร์รถยนต์สันดาป
นอกจากผลกระทบด้านกำลังซื้อ การเข้ามาแข่งขัน และเปลี่ยนถ่ายสู่รถยนต์ EV ที่กดดันให้ยอดรถยนต์สันดาปมีการหดตัวลง
อสังหาริมทรัพย์
มีแนวโน้มการหดตัวจากความต้องการที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคที่ยังคงไม่กลับมา บนจำนวนยูนิตสะสมรอการขายที่สูง
ซื้อมาขายไป (Trader)
ผู้ผลิตหันมาใช้ช่องทางจำหน่ายที่หลากหลาย ในรูปแบบ Omni Channel เพื่อเข้าถึงลูกค้าโดยตรง
ธุรกิจปล่อยคาร์บอนสูง
ถูกกดดันจากมาตรการสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดขึ้นของประเทศคู่ค้า นอกเหนือจากการแข่งขันนำเข้า เช่นเหล็ก อะลูมิเนียม ทำให้ธุรกิจมีต้นทุนที่สูงขึ้น

อย่างไรก็ดี KResearch ได้แนะนำ 3S เทรนด์ผู้บริโภคที่ธุรกิจสามารถนำไปปรับใช้ สร้างการเติบโตบนการแข่งขันที่รุนแรงดังนี้
1.Smart Spending ใช้จ่ายอย่างคุ้มค่า จากผู้บริโภควางแผนการใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง และเลือกใช้จ่ายเฉพาะสินค้าที่จำเป็น หรือซื้อสินค้าที่คุ้มค่าคุ้มราคา
จากผลสำรวจของ KResearch ที่ผ่านมาพบว่าแม้ ผู้บริโภค 32% มีค่าใช้จ่ายไม่ต่างเดิมมากนัก แต่เลือกปรับพฤติกรรมด้วยการลดปริมาณการซื้อสินค้า หรือใช้บริการน้อย เช่นลดสินค้าฟุ่มเฟือย ลดทานอาหารนอกบ้าน
2.Self Healing ฮีลใจ ทันกระแส มี Story ตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคที่มีความเครียดสะสมจากสภาวะเศรษฐกิจและสังคม
3.Sustainability กระแสรักษ์โลก จากผู้บริโภคไทยและต่างประเทศ ที่ตระหนักถึงความเปลี่ยนแปลงที่รุนแรงของสภาพอากาศ และปัญหาสิ่งแวดล้อม เช่นผลสำรวจของ KResearch พบว่า คนไทย 90% ได้รับผลกระทบจากปัญหาสิ่งแวดล้อม เช่น ค่าไฟที่เพิ่มขึ้นจากอากาศร้อนจัด ปัญหาสุขภาพจาก PM2.5
ทำให้ธุรกิจที่ปรับตัวเข้ากับเทรนด์ Sustainability เข้ามาตอบโจทย์ตลาด สร้างยอดขายได้ทั้งไทยและเทศ
