Marshall แบรนด์เครื่องเสียงสัญชาติอังกฤษ เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ได้รับความนิยม ประสบความสำเร็จ และมีชื่อเสียงโด่งดังมากที่สุดตลอดกาลของโลก สินค้าของ Marshall กลายเป็นโลโก้ทางวัฒนธรรมดนตรีที่การันตีโดยนักเล่นกีตาร์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในประวัติศาสตร์หลายคน และยังคงเป็นแบรนด์ขวัญใจของนักกีตาร์มืออาชีพและนักดนตรีรุ่นใหม่
จุดเริ่มต้นที่แสนเรียบง่ายจากร้านขายเครื่องดนตรีเล็ก ๆ ในลอนดอน Jim Marshall นักดนตรีที่มีชีวิตตระเวนเล่นดนตรี รวมถึงเปิดหมวกตามท้องถนนนานกว่าสองทศวรรษ ก่อนที่จะริเริ่มธุรกิจที่รักขึ้นมา
จุดเริ่มต้นมาจาก Painpoint ที่ศิลปินทุกคนต้องเผชิญ คือการที่จะหาลำโพงที่สามารถถ่ายทอดเสียงดนตรีของพวกเขาออกมาได้ตรงตามเสียงในหัวหาได้ยากมาก จิมจึงมองเห็นลู่ทางธุรกิจ ตัดสินใจสร้างร้านของตัวเองขึ้นมา ชื่อว่า JimMarshall and Son เพื่อขายเครื่องดนตรีในลอนดอน จิมและลูกชาย (TerryMarshall) ช่วยกันซ่อมแซมต่อวงจรและส่วนประกอบต่าง ๆ เพื่อสร้างสิ่งประดิษฐ์ที่เข้าใจคนดนตรีมากที่สุด แต่ที่น่าแปลกใจคือในกลุ่มพวกเขาไม่มีใครเป็นมือกีตาร์เลย จิมเคยเป็นมือกลอง ส่วนลูกชายเล่นแซกโซโฟน
ด้วยสินค้าดนตรีที่ตอบโจทย์ได้ตรงจุด และมีทุกอย่างที่นักดนตรีต้องการ ทำให้ร้านดึงดูดนักกีตาร์หลายคนให้มาอุดหนุน รวมถึงคนดัง อาทิ Hendrix, Eric Clapton, Jimmy Page แห่ง Led Zeppelin และ Oasis
จากนั้นก็ค่อย ๆ ประสบความสำเร็จขึ้นมา กลายเป็นสถานที่ฮิปสำหรับนักดนตรีรุ่นใหม่ที่อยากจะเข้าสู่แนวเพลงร็อก และในไม่ช้าก็กลายเป็นหนึ่งในร้านขายแอมป์กีตาร์ชั้นนำ
แอมป์Marshallรุ่นแรกวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการปี 1962 โดยมีคำสั่งซื้อเพียง 23 รายการ ชื่อรุ่นว่า JTM45 ตั้งแต่แรกเริ่มMarshallจะกำหนดให้คะแนนแอมป์ของตนโดยใช้ RMS (ซึ่งเป็นที่มาของ 45) เป็นค่าที่ผู้ผลิตรายอื่นใช้วัดการออกแบบในแง่ของกำลังสูงสุด
แต่เมื่อเกิดการบอกต่อกันปากต่อปาก ส่งผลให้มีคนแวะมาเยือนร้านเพิ่มมากขึ้น ร้านประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว ความต้องการแซงหน้าอุปทาน ทำให้ในช่วงกลางปี 1964 ต้องเปิดโรงงานแห่งแรก
ในปี 2010 บริษัทได้อนุญาตให้บริษัทเทคโนโลยีของสวีเดนอย่าง Zound Industries ผลิตหูฟังและลำโพงบลูทูธภายใต้ชื่อMarshall ซึ่งการร่วมทุนครั้งนี้ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม
และในปี 2023 บริษัท Zound ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ที่เมืองสตอกโฮล์มได้เข้าซื้อกิจการธุรกิจแอมป์ของMarshall และก่อตั้งMarshall Group ขึ้นใหม่
การได้รับการยอมรับจากนักกีตาร์ระดับโลกหลายคน ทำให้แบรนด์ต้องอัปเกรดโรงงานผลิต โดยคราวนี้ไปที่ Bletchley ในสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ในปัจจุบัน
ตัวอย่างรุ่นที่มีชื่อเสียงในแต่ละทศวรรษ
1960
Bluesbreaker ช่วยกำหนดเสียงบลูส์ร็อกในยุค 60 แอมป์ตัวนี้โด่งดังมาก มีนักสะสมต้องการมากในตลาดวินเทจ บางรุ่นมีราคาสูงถึง 10,000 ดอลลาร์
Marshallยังลอนช์แป้นเหยียบกีตาร์ที่ใช้เสียงของ Bluesbreaker อีกด้วย ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมาก
1970 และ 1980
เมื่อถึงเวลาที่ JMP ออกสู่ตลาด Marshallก็เปลี่ยนแปลงการผลิตไป รุ่นนี้มีมาสเตอร์วอลุ่ม และเปลี่ยนวิธีการไหลของสัญญาณภายในแอมป์ เพื่อรักษาเสียงแตกที่เป็นเอกลักษณ์และเป็นพื้นฐานของเสียงกีตาร์หลาย ๆ คน ซึ่งการเพิ่มมาสเตอร์วอลุ่มใหม่ทำให้เสียงดนตรีเต็มอิ่มขึ้น
JMP ได้รับความนิยมจากนักกีตาร์ชื่อดัง อาทิ Slash, Zakk Wylde และ Randy Rhoads
JCM800 ก็เป็นหนึ่งในรุ่นยอดนิยมของMarshallที่เปิดตัวในช่วงต้นทศวรรษ 1980 รุ่นนี้มีสไตล์แตกต่างไปจากรุ่นก่อนมาก ออกแบบมาเพื่อให้สร้างเสียงโอเวอร์ไดรฟ์ได้มากขึ้นในแนวดิสทอร์ชั่น บังเอิญว่าในช่วงเวลานั้น แนวเพลงร็อกหลายแนวเริ่มใช้เสียงที่หนักขึ้น และแอมป์รุ่นนี้จึงเป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้เล่นที่เล่นแบบเน้นเสียงหนักในยุคแฮร์แบนด์ของทศวรรษนั้น นอกจากนี้ยังมีราคาถูกกว่าแอมป์ Marshall รุ่นก่อน ๆ
แอมป์รุ่นยอดนิยมของบริษัทใช้เทคโนโลยีวาล์ว แต่ในปัจจุบัน Marshall มีตัวเลือกที่ทันสมัยมากมาย เช่น แอมป์โซลิดสเตต แอมป์ไฮบริด และแอมป์จำลอง
รายได้ของ Marshall group
รายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่า ตั้งแต่ปี 2020 ถึงปี 2024 อยู่ที่ประมาณ 400 ล้านยูโร ซึ่งบ่งชี้ถึงแนวโน้มการเติบโตที่ทำกำไรได้
ผลประกอบการ เก้าเดือนแรกของปี 2024 ยอดขายสุทธิเพิ่มขึ้น 15% เป็น 3,194.0 ล้านโครเนอร์สวีเดน ส่วนกำไรจากการดำเนินงานที่ปรับแล้วเพิ่มขึ้นเป็น 754.7 ล้านโครเนอร์สวีเดน คิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้น 23.6%
จีนเข้าถือหุ้นใหญ่ ด้วยมูลค่า 1.1 พันล้านยูโร
ล่าสุด กองทุนที่บริหารจัดการโดย HSG (HongShan Capital Group ชื่อเดิมคือ Sequoia China) บรรลุข้อตกลงในการซื้อหุ้นใหญ่ใน Marshall Group ถือเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ที่สุดในยุโรปของ HSG และถือเป็นก้าวใหม่ที่สำคัญของ Marshall ด้วย
MarshallGroup เป็นบริษัทด้านเสียง เทคโนโลยี นวัตกรรม มีMarshallเป็นแบรนด์เรือธงของบริษัทและที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก ดำเนินธุรกิจมานานกว่า 60 ปี
การเข้าเทกโอเวอร์ครั้งนี้ มาจากการที่ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ขายหุ้นออก ได้แก่ Altor, Telia Company, Time for Growth และ Zenith VC และ Marshall Group จะเหลือหุ้นในมืออยู่เพียง 20%
HSG คือใคร
สำหรับ HSG เป็นบริษัทร่วมทุนและบริษัทหุ้นส่วนเอกชนที่ลงทุนทั่วโลกในด้านเทคโนโลยีการดูแลสุขภาพและผู้บริโภค โดยมีสำนักงานในฮ่องกง จีนแผ่นดินใหญ่ ลอนดอน โตเกียว และสิงคโปร์ โดยบริหารสินทรัพย์มูลค่ากว่า 55 พันล้านดอลลาร์
โดยก่อตั้งขึ้นในปี 2005 เดิมรู้จักกันในชื่อ Sequoia China ได้แยกตัวออกจากบริษัทแม่แห่งนี้ในปี 2023 ปัจจุบันให้การสนับสนุนบริษัทต่าง ๆ มากกว่า 1,500 บริษัท โดยมีบริษัทในพอร์ตโฟลิโอมากกว่า 160 บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และมีบริษัทมากกว่า 140 บริษัทที่ได้รับสถานะยูนิคอร์น
ในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา HSG ได้พัฒนาให้เป็นแพลตฟอร์มการลงทุนแบบบูรณาการที่ครอบคลุมการลงทุนตั้งแต่ขั้นเริ่มต้น การร่วมทุน การเติบโต การซื้อกิจการ โครงสร้างพื้นฐาน และการลงทุนในหุ้นสาธารณะ การลงทุนที่โดดเด่นที่สุด ได้แก่ บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านดิจิทัลของจีนอย่าง Alibaba,บริษัทผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้า BYD และ ByteDance ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ TikTok ตามรายงาน ของ Bloomberg
–
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /
