ถ้าเกาหลีใต้มี K-Series เป็นทูตวัฒนธรรม  ประเทศไทยเราก็มี Boys Love&Girls Love เป็นพลังขับเคลื่อน T-Culture ที่สำคัญเช่นกัน

ไม่ได้มีเพียงซีรีส์วายที่โด่งดังโกอินเตอร์ แต่ซีรีส์หญิงรักหญิงก็กำลังกลายเป็นคลื่นลูกใหม่ที่กระแสจุดติดในเวลานี้ สะท้อนจากพลัง “หลิงหลิง-ออม” กลายเป็นปรากฏการณ์ที่ทั่วโลกกำลังจับตา  เพราะการปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชนครั้งหนึ่งสร้างมูลค่าสื่อระดับมหาศาล และมีกลุ่มแฟนคลับไปรอต้อนรับที่หน้างานหรือสนามบินชนิดห้างแตก

กระแสของคอนเทนต์ยูริ (Yuri) หรือแนวหญิงรักหญิง (Girls’ Love) กระแสแรงไม่หยุด โดยเฉพาะในปีที่ผ่านมาที่มีการผลิตไปกว่า 70 เรื่อง การที่ช่องโทรทัศน์หลักก็หันมาเริ่มผลิตคอนเทนต์แนวนี้ ยิ่งทำให้เข้าถึงกลุ่มผู้ชมได้ในวงกว้าง

มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เผยโอกาสวงการสื่อบันเทิงไทยกับเนื้อหาคอนเทนต์ Girls’ Love โดยชี้ว่า ในช่วงปีที่ผ่านมาซีรีส์หญิงรักหญิงได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในประเทศไทย นอกจากนั้น ยังติดอันดับ Top10 ประเด็นออนไลน์ที่ได้รับความสนใจมากที่สุดในช่วงกลางปี 2567 ​

ดร.เกียรติญา สายสนั่น อาจารย์ประจำคณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน ม. ธรรมศาสตร์ กล่าวเสริมว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซีรีส์ Girl’s Love ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในกลุ่มผู้ชมที่สนใจเรื่องราวความรักระหว่างผู้หญิง ​

มีการผลิตหลายเรื่อง เช่น ‘Club Friday The Series: Love Bully รักให้ร้าย’ และ ‘ใจซ่อนรัก’ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่สร้างความเข้าใจเกี่ยวกับสิทธิของทุกคนว่าควรได้รับการเคารพและยอมรับ ในรูปแบบที่ไม่ล้อเลียนทางเพศสภาพ

ยุคทองของ Girl’s Love

เดิมประเทศไทยมีคอนเทนต์หญิงรักหญิงมานานแล้ว นับแต่ที่ภาพยนตร์ ‘Yes or No อยากรักก็รักเลย’ ได้ออกฉายปี 2553 ก็เกิดเป็นปรากฏการณ์ความนิยมไปทั่วเอเชียโดยเฉพาะในจีน ส่งผลให้นักแสดงนำในเรื่องไปโด่งดังในแดนมังกรด้วย นับเป็นยุคบุกเบิกตลาดหญิงหญิงของไทย

แต่หลายคนมองว่ากระแสของคอนเทนต์แนวนี้เป็นเพียงกระแสชั่วคราวที่บูมขึ้นมาแล้วเดี๋ยวก็หายไป  แต่ผิดคาด Girls’ Love กลับเติบโตต่อเนื่องจนได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง

ในปีถัดมาก็เริ่มงอกเงยในอุตสาหกรรมบันเทิง อย่างในซีรีส์ฮอร์โมน วนไปยังวงการนางงาม ไปจนถึงละครจอแก้ว

จากเมื่อสามปีก่อนแทบไม่มีซีรีส์เพศที่สามในสตรีมมิ่งหลัก แต่ไม่นานมานี้ทุกแพลตฟอร์มกลับเพิ่มคอนเทนต์แนวนี้แข่งกันเพื่อดึงดูดผู้ชม ความนิยมเริ่มแผ่ขยายไปในวงกว้าง และปี 2568 นี้ นับว่าจะเริ่มเข้าสู่ยุค Golden Time ของ Girl’s Love

บริบทหญิงรักหญิงในตลาดต่างประเทศ 

เทรนด์ของซีรีส์ GL ในตลาดไทยและทั่วโลกกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง มีฐานแฟนคลับมากมายทั่วเอเชีย โดยเฉพาะในจีน ฮ่องกง เวียดนาม ฟิลิปปินส์  ซึ่งกำลังซื้อแฟนชาวจีนสูงมาก เนื่องจากจำนวนประชากรล้นหลาม

คอนเทนต์จากไทยถือว่าเปิดกว้างมากกว่าประเทศอื่น ๆ ตัวอย่างจีน การจะทำคอนเทนต์แนวนี้ออกมามีข้อจำกัดอยู่มาก ต้องเลี่ยงไปใช้คำว่าซีรีส์แนวมิตรภาพ และต้องไม่มีการสื่อเรื่องเพศ  อีกทั้งเวลาที่นักแสดงคู่จิ้นวายหรือยูริไทยไปจัด Fan Meeting ในแผ่นดินใหญ่ ก็ต้องห้ามขึ้นเวทีพร้อมกัน แต่ในไทยเรื่องเหล่านี้เปิดกว้างมาก ไร้ซึ่งข้อจำกัด ทำให้กระแสจุดติดไวกว่า

คุณธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์ ผู้กำกับซีรีส์ และ อดีต ส.ส. พรรคก้าวไกล กล่าวเสริมว่า ไทยมีศักยภาพสูงในการสร้างและส่งออกซีรีส์ GL แม้ประเทศอื่นจะเริ่มผลิตคอนเทนต์ แต่อุตสาหกรรมบันเทิงไทยเอาชนะได้ด้วยจุดแข็งที่แตกต่าง และขึ้นมาเป็น Top Tier แนวยูริได้อย่างรวดเร็ว แม้จะยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น และมีทุนสร้างไม่สูงก็ตาม

เนื่องจากไทยจะสร้างเนื้อหาที่มีเอกลักษณ์ชัดเจน พลอตที่สร้างสรรค์ ความสัมพันธ์ของตัวละครที่ซับซ้อน การค้นหาความหมายของความรักที่ไม่จำกัดเพศ โปรดักชันคุณภาพ ล้วนเป็น Key Success ของคอนเทนต์ไทย

คุณนรมน กัลยาณมิตร นักเขียนหนังสือนิยาย Girls’ Love / Yuri นามปากกา Ma-Bung เล่าว่า ซีรีส์หลายเรื่องที่ได้รับความนิยมส่วนมากจะสร้างมาจากนวนิยายขายดีที่ดัดแปลงพลอตมา ซึ่งนิยายจะมีฐานแฟนผู้อ่านมาอยู่แล้ว ผู้ผลิตจึงมักเลือกนิยายที่ติดตลาดอยู่แล้วมาสร้าง เพราะมีโอกาสประสบความสำเร็จสูงกว่า

ยูริ ก็เป็น Soft Power ไม้เด็ดของไทยได้

ความโด่งดังของซีรีส์ยังส่งผลต่อชื่อเสียงของนักแสดงไทย  ที่สามารถต่อยอดสร้างมูลค่าได้มาก  ยกตัวอย่างละคร ‘ใจซ่อนรัก’ นักแสดงนำของเรื่องก็กลายเป็นคู่จิ้นฮอตที่กวาดแบรนด์พรีเซนเตอร์ไปมากมาย ทำรายได้มหาศาลให้แก่ต้นสังกัด

รวมถึงซีรีส์เรื่องหนึ่งสามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกไปถึงอาหาร สินค้าพื้นเมือง แหล่งท่องเที่ยว ควบคู่กับการเสริมสร้างภาพลักษณ์ให้ประเทศ ว่าเป็นประเทศที่เปิดกว้าง และยอมรับในความหลากหลายทางเพศ เป็น Soft Power อย่างหนึ่งที่สร้างให้เป็นจุดแข็งของไทยได้

คอนเทนต์ยูริมีศักยภาพในการส่งเสริมอุตสาหกรรมบันเทิงและเศรษฐกิจของประเทศ คาดการณ์ว่าจะสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้สูงถึง 2,000 ล้านบาท และในอีก 3-5 ปีข้างหน้า มีแนวโน้มที่จะเติบโตและได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว

หากไทยสามารถยกระดับมาตรฐานการผลิตและขยายตลาดไปยังแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งระดับโลกได้  ซีรีส์แนว Girls’ Love จะกลายเป็นหนึ่งสินค้าทางวัฒนธรรมที่ช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจ และสร้างอิทธิพลในระดับนานาชาติอย่างแน่นอน  ยิ่งถ้าได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐอย่างเต็มที่ จะเป็นปัจจัยสำคัญในการยกระดับคุณภาพ และส่งเสริมให้มีการสร้างสรรค์งานที่มาตรฐานสูงขึ้นได้

ทิศทางในอนาคต จะยังคงรักษากระแสไว้ได้ต่อเนื่องหรือไม่

ในช่วง 3 ปีข้างหน้า กราฟความนิยมจะพุ่งสูงอย่างต่อเนื่อง เพราะผู้ชมเริ่มยอมรับในเนื้อหาที่หลากหลายทางเพศมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ในอีก 5 ปีข้างหน้า ซีรีส์แนวนี้อาจลดลง เพราะเนื้อหาที่ไม่จำกัดอยู่แค่การสร้างความรักระหว่างคู่รักเพศเดียวกัน แต่ยังรวมไปถึงการสะท้อนภาพความหลากหลายทางเพศในแง่มุมอื่น ๆ ที่ไม่เคยถูกสำรวจมาก่อน

ศ. ดร.ศุภสวัสดิ์ กล่าวสรุปในตอนท้ายว่า มหาวิทยาลัยให้ความสำคัญกับ SDGs เป้าหมายที่ 5 ตามวิสัยทัศน์ มหาวิทยาลัย สู่องค์กรส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ โดยมุ่งมั่นขับเคลื่อนสังคมแห่งความเสมอภาค ควบคู่ไปกับการสร้างสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรและไม่แบ่งแยกในทุกด้าน ตลอดจนส่งเสริมสิทธิของผู้หญิงและกลุ่มเพศสภาพที่หลากหลาย ให้เข้าถึงโอกาสและทรัพยากรได้อย่างเท่าเทียม ซึ่งถือเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างสังคมที่ยั่งยืนและเสมอภาคให้เกิดขึ้นในอนาคต


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer