Real Estate Real Marketing/ศ. วิทวัส รุ่งเรืองผล

เมื่อเดือนที่ผ่านมาผมได้เขียนอธิบายเกี่ยวกับมาตรฐานโรงแรมสีเขียว (Green Hotel) หรือโรงแรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม ทั้งมาตรฐานสากลและมาตรฐานในประเทศไทย ที่มีทั้งการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม หน่วยงานภาครัฐและหน่วยงานรับรองมาตรฐานหลายแห่งทำการรับรองไปทั้งหมด 11 หน่วยงาน พร้อมยกตัวอย่างให้เห็นว่ามีโรงแรมใดในประเทศไทยที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจากหน่วยงานใดไปบ้าง

บทความชิ้นนี้เลยขออธิบายต่อจากบทความเมื่อเดือนก่อน โดยจะอธิบายถึงเกณฑ์ที่หน่วยงานต่าง ๆ ใช้ในการประเมินเพื่อรับรองมาตรฐานโรงแรมสีเขียว ก่อนอื่นต้องแบบว่าสถาบันแต่ละแห่งก็มีหลักเกณฑ์ที่แตกต่างกันออกไป และในหน่วยงานเดียวกันบางแห่งยังมีการแบ่งระดับมาตรฐานความเป็นโรงแรมสีเขียว ที่แตกต่างกันด้วย ผมลองนำเกณฑ์ที่ใช้ประเมินโรงแรมสีเขียวของทั้ง 11 หน่วยงาน ลองมาสกัดหาปัจจัยที่ใช้ในการประเมินออกมาได้ทั้งหมด 11 ปัจจัย ดังต่อไปนี้

1. อาคารและตัวอาคาร โดยโรงแรมสีเขียวจะถูกพิจารณาจากการออกแบบที่มีความกลมกลืนเข้ากับธรรมชาติแวดล้อม ของบริเวณโดยรอบที่โรงแรมนั้นตั้งอยู่ การเลือกวัสดุ และการออกแบบอาคาร รวมถึงพิจารณาจากการออกแบบที่ดูทิศทางแดดและลม เพื่อลดการใช้พลังงาน โดยการใช้แสงธรรมชาติ

2. การใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การใช้น้ำอย่างประหยัดและมีประสิทธิภาพ มีการนำน้ำทิ้งเข้ามาหมุนเวียนเพื่อใช้ประโยชน์ รวมถึงการมีระบบกักเก็บน้ำจากธรรมชาติ เช่น น้ำฝนเพื่อให้นำเข้ามาใช้

การใช้ทรัพยากรในท้องถิ่นให้มากที่สุด เช่น การใช้วัตถุดิบอย่างผักหรือเนื้อสัตว์ ผ้า ที่มีการเพาะปลูกหรือผลิตในชุมชนท้องถิ่น เพื่อเป็นการสนับสนุนเศรษฐกิจของชุมชนและเป็นการลดการใช้คาร์บอนจากกระบวนการขนส่ง วัตถุดิบ โดยทรัพยากรท้องถิ่นยังรวมไปถึงการใช้วัสดุที่สามารถผลิตได้ในท้องถิ่น อย่างอิฐ ดินเผา ไม้ ด้วย

3. การใช้พลังงาน พิจารณาจากประสิทธิภาพในการใช้ไฟฟ้า เช่น การใช้หลอดประหยัดไฟ มีระบบเซนเซอร์ในการปิดไฟหรือปิดแอร์ในพื้นที่ที่ไม่มีผู้ใช้งาน รวมถึงการใช้พลังงานหมุนเวียน เช่น Solar หรือพลังงานลม มาใช้ในโรงแรม

4. การจัดการขยะ โดยพิจารณาจากการลดการใช้ขยะ และบริหารจัดการขยะ จัดการดำเนินกิจการของโรงแรม เช่นมีการคัดแยกขยะ ขยะอินทรีย์เช่นเศษอาหารนำมาใช้ทำเป็นปุ๋ยหมัก การใช้ขวดแก้วใส่น้ำที่สามารถนำมาหมุนเวียนใช้ซ้ำ หรือผลิตซ้ำได้ การใช้ใบตองหรือกระทงจากธรรมชาติแทนภาชนะพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง รวมถึงการจัดการกับอาหารที่เหลือในแต่ละมื้อของการให้บริการลูกค้าให้เกิดประสิทธิภาพและมีของเสียให้น้อยที่สุด

5. การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและการปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพ โดยพิจารณาจากการสร้างความหลากหลายทางชีวภาพ ของโรงแรม ทั้งจากต้นไม้ แมลง และสัตว์ในท้องถิ่น บางโรงแรมมีการเลี้ยงผึ้ง เพื่อให้ผึ้งนำมาสู่การผสมเกสรดอกไม้ และได้น้ำผึ้งมาใช้ในการปรุงอาหาร

การลดหรือไม่ใช้สารเคมี และยากำจัดศัตรูพืช หรือแมลง แต่ใช้สารสกัดจากธรรมชาติ เพื่อความยั่งยืนด้านคุณภาพของดิน น้ำ อากาศ รวมถึงการอนุรักษ์ต้นไม้ขนาดใหญ่ที่เป็นต้นไม้เดิม มีพื้นที่ไว้ให้ได้มากที่สุด ใช้การเคลื่อนย้ายด้วยการขุดล้อมต้นไม้ออกจากบริเวณที่ต้องการใช้ก่อสร้างแทนการตัดทิ้ง

6. การมีส่วนร่วมพัฒนาสังคม วัฒนธรรมและชุมชนท้องถิ่น เช่น การจ้างคนในชุมชนให้เข้ามาเป็นพนักงาน หรือเป็น outsource ในการช่วยในการผลิตวัตถุดิบหรือสินค้า ที่โรงแรมต้องจัดซื้อหรือจัดหาจากภายนอก การจัดกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้กับคนในชุมชนนำผลิตภัณฑ์หรือหัตถกรรมนำมาจำหน่าย หรือ สอนนักท่องเที่ยวให้เข้าใจถึงกระบวนการการผลิต

การออกแบบสถาปัตยกรรม การตกแต่งภายใน และการแต่งกายของพนักงานโรงแรมที่สะท้อนให้เห็นวัฒนธรรมท้องถิ่น เป็นต้น

7. การสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับการรักษาสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืนให้กับทั้งพนักงานและแขกของโรงแรม โดยการจัดอบรมให้ความรู้ การใช้ป้าย หรือสื่อต่าง ๆ เพื่ออธิบายและกระตุ้นให้เกิดจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมและการอนุรักษ์พลังงาน หรือการสร้างแรงจูงใจ เช่น ให้ส่วนลด หรือมีของขวัญพิเศษให้สำหรับลูกค้าที่ให้ความร่วมมือในการรักษาสิ่งแวดล้อมและลดการใช้พลังงาน

หลายโรงแรมมีจักรยานให้บริการฟรีกับแขก เพื่อลดการใช้พลังงานในการเดินทาง ภายในพื้นที่ของโรงแรมและออกไปยังพื้นที่ชุมชนโดยรอบ รวมถึงการจัดกิจกรรมเช่นการปลูกป่าชุมชน การให้ความรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมและอาหารในท้องถิ่น รวมถึงการมีข้อเสนอในการจัดรายการท่องเที่ยวที่เชื่อมโยงกับแหล่งท่องเที่ยวภายในท้องถิ่น และกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์

8. การบริหารจัดการเพื่อให้เกิดความยั่งยืน เกณฑ์ในด้านนี้จะพิจารณาจากการจัดทำแผนและวิธีการดำเนินการตามแผนของโรงแรม เพื่อให้แน่ใจว่าผู้บริหารและพนักงานจะสามารถบริหารจัดการให้เกิดความยั่งยืนด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้

9. การป้องกันการแพร่ระบาดของโรค เกณฑ์ข้อนี้จะมีอยู่ในเกณฑ์ Green Health Hotel ของกระทรวงสาธารณสุข ที่ใช้ในประเทศไทย โดยเกณฑ์ดังกล่าวถูกนำมาใช้ในช่วงสถานการณ์โควิดเพื่อสร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยว ซึ่งประกอบไปด้วยการกำหนดให้มีการใช้หน้ากากอนามัยสำหรับผู้ให้บริการ การทำความสะอาดและฆ่าเชื้อกับอุปกรณ์ในห้องพักของแขก และในพื้นที่สาธารณะรวมถึงห้องอาหาร การรักษาระยะห่าง และความหนาแน่นที่เหมาะสมในแต่ละพื้นที่ รวมถึงการจัดการเกี่ยวกับขยะติดเชื้อ เช่น ดังกล่าวถึงแม้จะไม่ค่อยถูกใช้การกำหนดมาตรฐาน Green Hotel ในระดับสากล แต่ความเสี่ยงจากการเกิดโรคระบาด ที่มีการติดเชื้อจากคนสู่คนรวมถึงการ ใช้โรงแรมเป็นพื้นที่กักกันโรค หรือการลดผลกระทบจากการระบาดของโรค ที่มาจากนักท่องเที่ยว ต้องถือได้ว่าเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญในธุรกิจโรงแรม จึงเป็นอีกเกณฑ์หนึ่งที่มีความน่าสนใจและถูกนำมาใช้ในธุรกิจโรงแรมในประเทศไทย

10. สุขภาวะที่ดี หรือ Wellness เป็นอีกเกมหนึ่งที่มีความน่าสนใจโดยครอบคลุมเกี่ยวกับเรื่องการจัดให้บริการอาหารและโภชนาการ ที่ดีต่อสุขภาพ การมีอาหารที่เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ระมัดระวังเป็นพิเศษเรื่องอาหารจากโรคประจำตัวอย่างเบาหวาน กิจกรรมส่งเสริมสุขภาพทางด้านร่างกายและการลดความเครียด รวมถึงแนวทางการป้องกันอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นภายในโรงแรม จากการออกแบบเพื่อลดความเสี่ยงจากการเกิดอุบัติเหตุ ประเทศไทยถือว่ามีจุดเด่นในเรื่อง Wellness และกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เป็นผู้สูงอายุ รวมถึงกลุ่มที่เดินทางเข้ามาเพื่อการรักษาพยาบาล และกลุ่มที่เดินทางเข้ามาเพื่อการรักษาพยาบาลและใช้บริการโรงแรม และการใช้บริการโรงแรมเพื่อการพักฟื้นหลังการรักษาพยาบาล การกำหนดเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาวะ จึงเป็นอีกเกณฑ์หนึ่งที่เหมาะสมกับโรงแรมในประเทศไทย

จากเกณฑ์ทั้ง 10 ด้านที่อธิบายมา ผู้อ่านคงพอเห็นภาพแล้วนะครับ ว่าจากการพัฒนาโรงแรมให้ได้มาตรฐาน Green Hotel  มีเกณฑ์อะไรที่ต้องพิจารณาบ้าง การจะเลือกมาตรฐานแบบใดของหน่วยงาน ซึ่งมีความยากง่ายและมีค่าใช้จ่ายในการ ดำเนินการให้ได้มาตรฐาน และค่าใช้จ่ายในการตรวจพิจารณามาตรฐานแตกต่างกัน แน่นอนว่า ปกติแล้วมาตรฐานของไทยมีค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่า อาจเหมาะกับโรงแรมที่ต้องการเริ่มต้นเข้าสู่มาตรฐาน Green Hotel แต่หากโรงแรมที่เน้นลูกค้าต่างประเทศเป็นหลัก ก็ต้องดูครับว่าลูกค้าหลักของโรงแรมของท่าน มาจากกลุ่มประเทศใด จะได้เลือกหาสถาบันรับรองมาตรฐานให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า โดยบางโรงแรมอาจได้รับมาตรฐาน Green Hotel มากกว่า 1 สถาบัน เพื่อประโยชน์ในการทำการตลาด และจูงใจให้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายที่มีความรู้จักและคุ้นเคยกับมาตรฐาน Green Hotel  ที่แตกต่างกันเข้ามาเลือกใช้บริการ กระแสความยั่งยืนการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและลดการใช้พลังงาน ถือเป็นกระแสหลักของโลก ธุรกิจโรงแรมไทยจึงจำเป็นต้องเข้าใจและปรับตัวเข้าสู่มาตรฐาน Green Hotel ครับ

อ้างอิงจาก:  ศศินา ทักษาดิพงศ์, การศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาโรงแรม Eco Hotel ระดับ 5 ดาว, 2567, โครงการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ หลักสูตร  Master in Real Estate  คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

 


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer