หน้าร้อนถือเป็นช่วงเวลาการขายที่สำคัญในธุรกิจน้ำอัดลม ที่แบรนด์ต่าง ๆ ลงเล่นสงครามการตลาดช่วงชิงรายได้จากการขายให้มากที่สุด

เพราะในช่วงหน้าร้อนเป็นช่วงเวลาที่สร้างยอดขายเติบโตกว่าช่วงเวลาปกติ 15-20%

และในปีนี้การแข่งขันในตลาดน้ำอัดลม โดยเฉพาะกลุ่มน้ำดำ ตลาดที่มีสัดส่วนมากกว่า 70% ในตลาดน้ำอัดลมรวม เกิดการแข่งขันของแบรนด์น้ำอัดลมอย่างโค้ก และเอส โคล่า ที่ใช้กระป๋องเป็นเครื่องมือการสื่อสารถึงกลุ่ม Gen Z ด้วยกันทั้งคู่

ซึ่งกลุ่ม Gen Z เป็นกลุ่มที่มีอัตราการดื่มน้ำอัดลมสูง และมีโอกาสที่จะเป็นฐานลูกค้าต่อเนื่องกับแบรนด์ในระยะยาว พร้อมกับสร้างภาพลักษณ์ให้แบรนด์เป็นแบรนด์ของคนรุ่นใหม่อยู่เสมอ

การเข้ามาทำตลาดเข้าถึงกลุ่ม Gen Z ผ่านกระป๋องน้ำอัดลมในหน้าร้อน 2568 ของแบรนด์ โค้ก และเอส โคล่า ได้สร้างปรากฏการณ์ผ่านกระป๋องดังนี้

ส่งโค้กให้กลับมาข้างกระป๋องอีกครั้งในรอบ 5 ปี

ในปีนี้ โค้ก ได้นำแคมเปญส่งโค้กให้กลับมาสร้างสีสันให้กับแบรนด์อีกครั้ง หลังจากที่ห่างหายไป 5 ปี โดยแคมเปญส่งโค้กให้เป็นแคมเปญที่เกิดครั้งแรกในปี 2554 ที่ใส่ความเป็น Personal ให้กับสินค้าระดับแมส ดึงให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมกับแบรนด์

การกลับมาในครั้งนี้ แคมเปญส่งโค้กให้ เน้นสื่อสารการตลาดเจาะกลุ่มเป้าหมาย Gen Z บนแนวคิดต้องการให้คนรุ่นใหม่ส่งต่อความรู้สึกดี ๆ ให้แก่กัน เพื่อสร้างมิตรภาพที่แน่นแฟ้นมากขึ้น

ซึ่งภายใต้แคมเปญในปีนี้ได้รวมชื่อต่าง ๆ มากถึง 180 ชื่อ มาจัดพิมพ์ลงข้างกระป๋อง และขวดของโค้กออริจินัล และโค้กซีโร่ แทนโลโก้ของแบรนด์ในรูปแบบที่เคยประสบความสำเร็จมาในอดีต

และการนำแพลตฟอร์มส่ง Coke ให้ Personalization Hubs ให้ผู้สนใจสร้างชื่อบนกระป๋องโค้กได้ด้วยตัวเอง

พร้อมกับสร้างแนวทางเข้าถึงกลุ่ม Gen Z ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ที่อยู่ภายใต้แคมเปญ เช่น การจัดทำบอลลูน รูปกระป๋องโค้ก จัดวางในทำเลศูนย์กลางไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ และเป็นจุดเช็กอินยอดนิยมของเหล่า Gen Z ได้แก่ สยามเซ็นเตอร์ (บริเวณลานพาร์คพารากอน) และอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และ 3 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่, นครราชสีมา และภูเก็ต เชิญชวนให้ถ่ายภาพและแชร์โมเมนต์ประทับใจ

และการจัด Exclusive Event ให้แฟน ๆ ได้มาร่วมแชร์โค้ก กับไอดอลคนโปรด และกิจกรรมต่าง ๆ ในอนาคต เพื่อคาดหวังสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับแบรนด์ไปยังกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่

 

Est Cola เงยหน้า ไปด้วยกันข้างข้อความข้างกระป๋องกลับหัว

สำหรับ Est Cola ที่สร้างตลาดเจาะกลุ่ม Gen Z มาอย่างต่อเนื่องยาวนาน ในช่วงหน้าร้อนปีนี้ได้นำกลยุทธ์ข้อความข้างกระป๋องเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการสื่อสารผ่านแคมเปญ เอสโคล่า เงยหน้าไปด้วยกัน เพื่อเปิดมุมมองใหม่ ชวนวัยรุ่น Gen Z ค้นหาประสบการณ์และแรงบันดาลใจใหม่ ๆ และตอกย้ำคอนเซ็ปต์หลักของแบรนด์ “Born to be Awesome เกิดมาซ่ากล้าเป็นตัวเอง สร้างภาพความเป็นแบรนด์ของกลุ่ม Gen Z ให้ดียิ่งขึ้น

โดยการสื่อสารผ่านกระป๋องของ Est Cola เป็นการนำข้อความ 37 ข้อความที่มีความกวนซ่อน พิมพ์ลงบนกระป๋องแบบกลับหัว เพื่อสร้างการพูดถึงในกลุ่ม Gen Z และสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง

และนำ AI เข้ามาเป็นเครื่องมือเสริมช่วยแต่งเพลงในสไตลของข้อความที่ Gen Z แต่ละคนที่สแกนผ่าน QR Code ข้างกระป๋อง

ซึ่งการใช้ AI เป็นกิมมิกหนึ่งในแนวทางการตลาดที่ Est ได้ทำต่อเนื่องมากกว่า 2 ปี ที่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคน Gen Z ในรูปแบบที่แตกต่างกันแต่ละแคมเปญ

นอกเหนือจากข้อความกลับหัวข้างกระป๋อง Est Cola ในแคมเปญนี้ได้จัดกิจกรรมการตลาดผ่าน Event ที่ดึงดูดกลุ่ม Gen Z เช่นที่ผ่านมาได้จัดกิจกรรม Rise up (F)est ที่สยามสแควร์ เพื่อรวม Culture ของคน Gen Z ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น Basketball shooting challenge, แฟชั่นโชว์สตรีทสไตล์, มินิคอนเสิร์ตของ 4 หนุ่มจากซีรีส์ GELBOYS, Random Dance, บูธทำเล็บเจลลาย Limited ที่สะท้อน Culture ของ Est Cola และ Gen Z ไปด้วยกัน

รวมถึงนำ 3 พรีเซนเตอร์​ เจฟ ซาเตอร์, มีน นิชคุณ และ สไปร์ท SPD เข้ามาเป็นพรีเซนเตอร์ และทำ Music Marketing ผ่านเพลง “Rise Up Together” ที่เจฟ ซาเตอร์ แต่งและ Produce เองอีกด้วย

อย่างไรก็ดี สำหรับการสื่อสารข้างกระป๋องถึงกลุ่ม Gen Z เป็นเพียงหนึ่งในสีสันการตลาดเท่านั้น เพราะการตลาดสร้างยอดขายในช่วงหน้าร้อนให้เติบโตยังต้องประกอบด้วยกลยุทธ์อีกหลากหลายประการ

ส่วนแบรนด์ไหนจะได้ใจ Gen Z มากที่สุด Gen Z เท่านั้นที่ตอบได้


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer