Trends / Nissan กำลังเผชิญวิกฤตครั้งใหญ่ในรอบหลายปี จึงต้องใช้ทุกวิถีทางเพื่อกอบกู้สถานการณ์ โดยแม้จะได้ใช้หลายมาตรการเพื่อประหยัดงบ แต่ก็ดูเหมือนว่ายังไม่พอ จนมีการเสนออีกหนึ่งแนวทางเพื่อแลกกับเงินก้อนใหญ่

Nikkei Asia และ Kyodo สองสื่อใหญ่ของญี่ปุ่นรายงานไปในทิศทางเดียวกันว่า อีวาน เอสปิโนซ่า ซีอีโอ Nissan ที่เพิ่งขึ้นสู่ตำแหน่งได้ไม่นาน ได้เสนอให้ขายสินทรัพย์ต่าง ๆ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ขององค์กร ซึ่งหนึ่งในนั้นมีการขายอาคารสำนักงานใหญ่ในญี่ปุ่น แล้วเช่าบางส่วนจากเจ้าของใหม่รวมอยู่ด้วย

ตามรายงานดังกล่าวระบุว่า บอร์ดบริหาร Nissan จะยังต้องพิจารณาแผนนี้อย่างรอบคอบ ส่วนในกรณีที่ได้ไฟเขียวจะพยายามขายให้ได้ภายในสิ้นปี 2026

อาคารสำนักงานใหญ่แห่งนี้ตั้งอยู่ย่านมินาโตะ มิไร ของเมืองโยโกฮามา ซึ่งในปี 2009 Nissan ได้ย้ายและนำพนักงานเข้าจากอาคารสำนักงานใหญ่เดิมในกรุงโตเกียว ท่ามกลางรายงานอ้างอิงจากวงการอสังหาริมทรัพย์ในโยโกฮามาว่า ราคาประเมินของตัวอาคารอยู่ที่ 100,000 ล้านเยน (ราว 25,000 ล้านบาท)

รายงานถึงความเป็นไปได้ในการขายอาคารสำนักงานใหญ่ของ Nissan มีขึ้นท่ามกลางตัวเลขขาดทุน ณ ปีงบประมาณล่าสุดสิ้นสุดเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งสูงถึง 650,000 ล้านเยน (ราว 147,000 ล้านบาท) ทำให้ในปี 2 จากนี้ต้องใช้หลายวิธีเพื่อกู้สถานการณ์ ไล่ตั้งแต่ประกาศปลดพนักงาน 20,000 คน และปิดโรงงาน 7 จาก 17 แห่ง รวมถึง 2 แห่งในญี่ปุ่น ส่วนโรงงานบางแห่งที่ยังได้เปิดต่อ เช่นที่อังกฤษก็ต้องหันไปรับจ้างผลิตรถให้ Dongfeng ของจีน เพื่อความอยู่รอด

นอกจากนี้ แผนควบรวมกิจการกับ Honda ที่เคยเป็นข่าวฮือฮา เพราะถ้าปิดดีลได้จะขึ้นมาเป็นบริษัทยานยนต์แห่งใหม่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก ก็ต้องล้มเลิกไป ส่วนทีมงานฝ่ายวิจัยและพัฒนา (R&D) ก็ต้องทำงานแบบเน้นประหยัดงบไว้ก่อน และฝ่ายผลิตก็ต้องใช้ชิ้นส่วนร่วมกันให้ได้สูงสุด 70% ตามแผนลดความซับซ้อนและต้นทุนอีกด้วย

ขณะที่แผนการผลิตรถในอนาคตอันใกล้ก็เปลี่ยนจากผลิตรถใช้พลังงานไฟฟ้า 100% หรืออีวี มาเป็นเครื่องยนต์ลูกผสมระหว่างไฟฟ้ากับน้ำมันหรือไฮบริด แบบเดียวกับที่ Honda ประกาศไปแล้วก่อนหน้านี้

ทั้งนี้ ในกรณีที่ Nissan ขายอาคารสำนักงานใหญ่แล้วเช่ากลับมาเฉพาะส่วนที่จำเป็นจากเจ้าของใหม่ Nissan ก็จะไม่ใช่บริษัทยานยนต์แห่งแรกที่ใช้วิธีการนี้ในกู้วิกฤต โดยบริษัทที่เคยใช้แนวทางนี้แล้วคือ McLaren ซึ่งจำเป็นต้องทำเมื่อปี 2021 เพื่อลดปัญหาขาดทุนที่มีอยู่เดิมและการที่รถ F1 แทบไม่สามารถแข่งได้ในสถานการณ์โควิด

McLaren ขายอาคารสำนักงานใหญ่ไปได้เป็นเงิน 237 ล้านดอลลาร์ (ราว 7,740 ล้านบาท) โดยแม้น้อยกว่าที่ตั้งไว้ แต่ก็ยังถือเป็นเงินก้อนใหญ่ และช่วยให้สภาพคล่องทางการเงินดีขึ้นพอสมควร/motor1, japantoday, telegrafi 


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer