ํTrends / ความฝันที่อินเดียจะได้เห็นค่ายรถอีวีอันดับต้นๆ ของโลกมาตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ในประเทศ มีอันต้องสลายหรืออย่างน้อยก็อาจต้องรอต่อไป
เอช.ดี. กุมารสวามี รัฐมนตรีอุตสาหกรรมอินเดียเผยว่า Tesla ยังไม่มีความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนสร้างโรงงานในอินเดีย แม้จะพยายามอย่างเต็มที่ด้วยมาตรการส่งเสริมการลงทุนต่างๆ อยู่แล้วก็ตาม และ Tesla ตกลงที่จะมาเปิดโชว์รูมเพียง 2 แห่งเท่านั้น

แหล่งข่าวของสื่อดังอินเดียเผยว่า แม้ Tesla ได้เคยมาเจรจากับรัฐบาลอินเดียถึงแผนการสร้างโรงงานในรอบแรก แต่กลับไม่ได้ส่งตัวแทนมาในรอบ 2 และ 3 ท่ามกลางการวิเคราะห์ว่า ฝั่ง Tesla คงยังไม่มั่นใจในการมาสร้างโรงงาน อยากนำเข้ารถยนต์เพื่อทดสอบตลาดก่อน ประกอบกับต้องทำตามนโยบายของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่เห็นว่า การที่ Tesla ไปสร้างโรงงานในอินเดียจะไม่ส่งผลดีต่ออุตสาหกรรม ยานยนต์ สหรัฐฯ
การเปิดเผยดังกล่าวมีขึ้นท่ามกลางความพยายามที่รัฐบาลอินเดียกำลังเดินหน้าจูงใจค่ายรถให้มาสร้างโรงงานผลิตรถอีวี แต่ก็ยังหวังว่าจะสามารถโน้มน้าวให้ค่ายอื่นๆ อย่าง Mercedes-Benz, Skoda-Volkswagen, Hyundai และ Kia ได้
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา Tesla และรัฐบาลอินเดียมีการเจรจากันหลายครั้ง แต่แผนเดิมที่จะตั้งฐานการผลิตถูกระงับไปในปี 2022 เนื่องจากรัฐบาลอินเดียยืนกรานให้ Tesla ผลิตรถยนต์ในประเทศ ซึ่งขัดแย้งกับความต้องการของ Tesla ที่อยากจะนำเข้ารถยนต์เพื่อทดสอบตลาดก่อน
แม้ในปี 2024 อินเดียจะพยายามลดภาษีนำเข้ารถอีวีสำหรับค่ายรถที่ตกลงมาลงทุน 500 ล้านดอลลาร์ (ราว 16,200 ล้านบาท) เพื่อสร้างโรงงานและเริ่มสายพานการผลิตได้ภายใน 3 ปี ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ อีลอน มัสก์ ซีอีโอ Tesla เคยแสดงความกังวลเรื่องภาษีที่สูง แต่ก็ดูเหมือนว่ายังไม่เพียงพอที่จะจูงใจให้เข้ามาลงทุนผลิตในอินเดีย

บรรดา นักวิเคราะห์ในวงการยานยนต์ให้ทัศนะไปทางเดียวกันว่า ตลาดรถอีวีของอินเดียยังไม่โตพอที่จะให้ Tesla มาลงทุนสร้างโรงงาน โดยปัจจุบันยอดขายรถอีวีคิดเป็นสัดส่วนเพียงไม่ถึง 3% ของยอดขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลทั้งหมดในประเทศ
และที่สำคัญคือรถอีวีที่ผลิตในอินเดียมีราคาถูกกว่ารถยนต์ Tesla รุ่นเริ่มต้นถึงเกือบครึ่งหนึ่ง ผู้บริโภคอินเดียส่วนใหญ่จึงเห็นว่าราคาเกินเอื้อมและหันไปซื้อรุ่นที่ราคาเข้าถึงได้จากค่ายรถค่ายอื่นๆ แทน
นอกจากนี้โครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นต่อรถอีวีโดยเฉพาะจุดชาร์จไฟยังมีอยู่น้อยมาก และสภาพถนนขรุขระกับอากาศที่ร้อนมากก็จะไปฉุดประสิทธิภาพของตัวรถอีวีเมื่อซื้อไปใช้
อีกปัจจัยที่ทำให้ Tesla พับ แผนสร้างโรงงานในอินเดียคือ คงสู้กับ Tata ค่ายรถเจ้าถิ่นและ MG ของจีนที่ครองส่วนแบ่ง 60% และ 22% ของตลาดรถอีวีอินเดียได้ยาก ประกอบกับในตลาดโลกก็ตกเป็นฝ่ายตามหลัง BYD คู่แข่งสัญชาติจีน และยังอยู่ระหว่างปรับแผนเพื่อเพิ่มยอดขายเพราะไตรมาสแรก ปี 2025 ยอดขายต่ำสุดในรอบ 3 ปี อีกด้วย
การตัดสินใจของ Tesla ที่จะไม่ไปสร้างโรงงานผลิตในอินเดีย ตอกย้ำให้เห็นว่าตลาด EV ของอินเดียยังคงมีความท้าทาย หลายด้าน ทั้งในเรื่องของโครงสร้างพื้นฐาน กำลังซื้อของผู้บริโภค และการแข่งขันจากค่ายรถเจ้าถิ่น ผู้ผลิตท้องถิ่น ที่ราคาเข้าถึงได้ง่ายกว่า แม้รัฐบาลอินเดียจะพยายามเต็มที่ในการดึงดูดการลงทุน ซึ่งจึงทำให้ Tesla ทำได้แค่เพียงเดินหน้าแผนเปิดโชว์รูมและส่งรถไปขายเพื่อจับตลาดบนของกลุ่มผู้มีกำลังซื้อค่อนข้างสูงเท่านั้น / bbc
