Neta ทำความรู้จักแบรนด์รถอีวีจีนที่เคยมาแรง แต่ต้องล้มละลายเพราะสงครามราคาที่ยืดเยื้อ
หลังจากพัฒนาแบบก้าวกระโดดจนขึ้นมาเป็นประเทศชั้นนำของวงการรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ได้หลายปี แต่ในปี 2025 นี้ บรรดาแบรนด์รถอีวี จีนกำลังเผชิญมรสุม ทั้งจากยอดขายที่ลดลง ภาวะขาดทุน การแข่งขันที่รุนแรง รวมถึงความเสี่ยงที่จะล้มละลาย
หนึ่งในแบรนด์รถอีวี จีนที่ตกเป็นข่าวล้มละลาย คือ Neta

Netaเป็นแบรนด์รถอีวี ภายใต้บริษัท Hozon Auto ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 2014 โดย ฟาง หยุนโจว อดีตหัวหน้าฝ่ายพัฒนารถอีวีของ Chery หลังจากการพัฒนาและระดมทุนอยู่พักใหญ่ ในปี 2018 Netaก็ได้เปิดตัวรถอีวี รุ่นแรก Neta N01 อย่างเป็นทางการ โดยมีจุดเด่นอยู่ที่ราคาประหยัด

ต่อมาในปี 2020 แบรนด์Netaเริ่มเป็นที่รู้จักในตลาดรถอีวี จีน หลังเปิดตัวNeta V ซึ่งด้วยราคาเพียงคันละ 60,000 หยวน (ประมาณ 307,000 บาท) จึงขายดีเกินคาด
พอปี 2021 Hozon Auto ก็ได้รับการสนับสนุนจาก โจว หงยี่ มหาเศรษฐีเทคโนโลยี ช่วยให้สามารถระดมทุนรอบใหม่ได้ 4,000 ล้านหยวน (ประมาณ 20,500 ล้านบาท) ทำให้ทั้งสภาพคล่องและงบประมาณในการพัฒนารถรุ่นใหม่มีมากขึ้น
Netaยังคงอยู่ในช่วงขาขึ้น และได้มาถึงหมุดหมายสำคัญของแบรนด์ โดยปี 2022 ทำยอดขายได้มากถึง 152,000 คัน แซงหน้าแบรนด์รถอีวีจีน ที่ดังกว่าอย่าง NIO, Xpeng และ Li Auto จนกลายเป็นแบรนด์ม้ามืดของวงการรถอีวี จีนที่ไม่อาจมองข้ามได้อีกต่อไป

ทว่าNetaก็เริ่มเจอมรสุมไม่ต่างจากรถยนต์ที่เครื่องสะดุด ผลจากสงครามราคาและการแข่งขันที่ดุเดือดในตลาดรถอีวี จีน ได้ฉุดยอดขายของNetaให้ลดลง
โดยปี 2023 ยอดขายลดลงมาอยู่ที่ 127,500 คัน และปี 2024 ก็ลดลงอีกเหลือเพียง 64,579 คัน ท่ามกลางข่าวการ ปลดพนักงาน การ ปิดโชว์รูมในจีน และการ ร้องเรียนจากซัพพลายเออร์ว่ายังไม่ได้รับชำระค่าอะไหล่
สถานการณ์ดังกล่าวทำให้สื่อในวงการยานยนต์จีนเริ่มคาดการณ์ว่าNetaอาจเป็นแบรนด์รถ EV แบรนด์ต่อไปที่จะล้มละลาย ถัดจาก Yuanhang และปีกธุรกิจรถอีวีของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ Evergrande ที่ใกล้จะไปต่อไม่ไหว เนื่องจากขาดเงินทุน

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าNetaจะไม่ยอมแพ้ โดยได้มีการแก้สถานการณ์ด้วยการ รุกตลาดต่างประเทศ เช่น ในกลุ่มประเทศอาเซียนที่ตลาดรถอีวี กำลังเติบโต และตั้งเป้าฟื้นตัวในปี 2026
ทว่าข่าวที่ว่าNetaอาจล้มละลาย ก็ยังไม่หมดไป โดยในปี 2025 มีข่าวออกมาอย่างต่อเนื่องว่า การแข่งขันในตลาดรถอีวีจีนดุเดือดมาก และทุกแบรนด์ต่างก็ใช้ราคาเป็นจุดขายเพื่อจูงใจให้เกิดการซื้อ
ขณะที่ เว่ย เจี้ยนจวิน ประธาน Great Wall Motor เครือยานยนต์ใหญ่ของจีน ได้ออกมาแสดงความกังวลต่อสถานการณ์นี้ โดยเปรียบเทียบสถานการณ์ในอุตสาหกรรมยานยนต์กับวิกฤตภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีน ซึ่งนำไปสู่การล้มละลายของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่อย่าง Evergrande
กลับมาที่Neta โดยช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ก็มีข่าวว่า ใกล้ล้มละลายเต็มที เพราะมีหนี้ค้างจ่ายก้อนใหญ่จากทั้งซัพพลายเออร์และบริษัทโฆษณา เริ่มค้างจ่ายเงินเดือนและโบนัสพนักงาน และมีภาพการถอดโลโก้ออกจากอาคารสำนักงานใหญ่ในเมืองเซี่ยงไฮ้ รวมถึงภาพการรวมตัวทวงเงินเดือนของกลุ่มพนักงานปรากฏตามสื่อ
ล่าสุดเมื่อกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา สื่อจีนรายงานว่า Neta กำลังเข้าสู่ กระบวนการล้มละลาย เพื่อปรับโครงสร้าง แก้ไขสภาพคล่อง และอาจต่อเนื่องไปสู่การขายกิจการก็เป็นได้
เรื่องราวของNetaสะท้อนให้เห็นการเดินทางของแบรนด์จากม้ามืดที่เติบโตอย่างรวดเร็วจนเผชิญวิกฤต และต้องทำทุกวิถีทางเพื่อกอบกู้สถานการณ์ ทว่าปัญหาก็ไม่หมดไป ซ้ำร้ายยังมาเจอสงครามราคาที่ดุเดือดและยืดเยื้อจากแบรนด์ร่วมชาติและคู่แข่งต่างชาติเมื่อบุกตลาดต่างประเทศอีกด้วย

จากนี้จึงต้องติดตามกันต่อไปว่าNetaจะต้องล้มละลายจนปิดตัวไป ถูกบริษัทอื่นซื้อกิจการไป หรือสามารถฟื้นกลับขึ้นมาและเดินหน้าต่อไปได้สำเร็จ / carnewschina, insidechinaauto, wikipedidia, pandaily
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /
