ช่วงไม่กี่ปีมานี้ เอไอ ได้เข้ามามี บทบาท ต่อชีวิตของเราในแทบจะทุกมิติ ไล่ตั้งแต่ เรื่องใกล้ตัวอย่างระบบหลังบ้านของแอปต่างๆ ที่ใช้กันเป็นประจำ การจัดการข้อมูล ไปจนถึงกลายมาเป็นเสมือนหนึ่งในผู้ช่วยในโลกการทำงานที่ดูจะจำเป็นขึ้นเรื่อยๆ 

แน่นอนว่าองค์กรต่างๆ ทั่วโลก ทั้งที่เป็นบริษัทหรือหน่วยงานราชการ ต่างก็ปรับตัวและรับเอา เอไอ มาใช้ในกระบวนการทำงาน โดยในไทยตามรายงาน Work Trend Annual 2025 ของ Microsoft ระบุว่า 68% จากกลุ่มตัวอย่างองค์กรในประเทศได้นำ AI เข้ามาเปลี่ยนระบบงานบางส่วนให้กลายเป็นระบบอัตโนมัติแล้ว ทำให้ในระยะยาวเราอาจได้เห็นโครงสร้าง องค์กร และเส้นทางในอาชีพการงานเปลี่ยนแปลงไป 

ขณะที่ 90% ของผู้บริหารขององค์กรกลุ่มตัวอย่าง เห็นว่า เอไอ ที่ทำหน้าที่เสมือนพนักงานคนหนึ่ง (Agentic AI) จะช่วยให้ ประสิทธิภาพ งานดีขึ้น และยิ่งกว่านั้น 93% ของผู้บริหารขององค์กรกลุ่มตัวอย่าง ยังเห็นว่า ควรให้ เอไอ มีหน้าที่และบทบาทในงานขององค์กรมากขึ้น

จากการที่ตัวเลขเหล่านี้ล้วนสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลก ซึ่งอยู่ที่ 46% 78% และ 82% ตามลำดับ จึงสะท้อนว่าองค์กรไทยส่วนใหญ่เป็น Frontier Firm ที่พร้อม รับการเปลี่ยนแปลง และมุ่งก้าวสู่พรมแดนใหม่ๆ ของโลกการทำงาน 

บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน), บริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCGC และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สามองค์กรไทยชั้นนำที่เป็น Frontier Firm ล้วนให้ข้อมูลตรงกันว่าการผนึกกำลังกันระหว่างพนักงานทั้งที่เป็นคนกับ Agentic AI ช่วยทำให้งานมีประสิทธิภาพดีขึ้น 

คุณ ลลินทิพย์ เยี่ยมพลพัฒน์ Head of Financial Planning and Data Intelligence บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) เผยว่า “เราส่งเสริมการใช้ เอไอ ให้พนักงานมีเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ในขณะเดียวกันยังสนับสนุนให้เกิดการต่อยอดและขยายขีดความสามารถของฟังก์ชันงานที่เรามีอยู่เดิม ให้มีประสิทธิภาพ ละเอียด และครอบคลุมมากยิ่งขึ้นด้วย เอไอ ซึ่งออกแบบและพัฒนาโดยบุคลากรภายในองค์กรของเราเอง แสดงให้เห็นว่าพนักงานทุกคนและทุกฝ่ายสามารถมีส่วน พัฒนาการใช้ เอไอ ในองค์กรโดยไม่จำเป็นต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านไอที ตัวอย่างเช่น ระบบวิเคราะห์และปรับปรุงวิธีการสื่อสารกับลูกค้าของพนักงานสาขาในกลุ่มธุรกิจสินเชื่อทะเบียนรถ เพื่อยกระดับมาตรฐานการบริการและความถูกต้องของข้อมูล” 

คุณ สัญญา จินดาประเสริฐ Enterprise Digital Director บริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCGC เผยว่า “SCGC เลือกใช้เทคโนโลยี Azure OpenAI Service, Power Platform และ AI Hub เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนา เอไอ ในองค์กร โดยเฉพาะกับการประมวลผลข้อมูลด้าน Market Intelligence และได้ต่อยอดนำ Microsoft Azure OpenAI Service มาพัฒนาโครงการ “AILY” เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้และการใช้งาน เอไอ ในองค์กรอย่างทั่วถึง ช่วยลดภาระงานและเพิ่มความคล่องตัวในการทำงาน โดยพนักงานทุกคนสามารถใช้งาน เอไอ กับข้อมูลภายในได้อย่างปลอดภัย นับเป็นการเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานทั่วทั้งองค์กรอย่างมีนัยสำคัญ และนำไปสู่การตัดสินใจทางธุรกิจที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น”

ดร.ณรัณ โพธิ์พัฒนชัย ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ผลกระทบและประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย กองพัฒนากฎหมาย สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เผยว่า “เอไอ มีส่วนช่วยให้เราก้าวข้ามความท้าทายในด้านข้อมูลในหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของภาษากฎหมายที่ซับซ้อน การเปรียบเทียบและตีความกฎหมายระหว่างภาษาไทยและภาษาอังกฤษให้อยู่ในมาตรฐานและความเข้าใจที่ถูกต้องและตรงกัน เปิดโอกาสให้เราวิเคราะห์ความสอดคล้องระหว่างกฎหมาย นโยบาย และแนวปฏิบัติของประเทศไทยให้กับตราสารทางกฎหมาย คำแนะนำ และมาตรฐานที่องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) กำหนดไว้ และในขณะเดียวกัน เอไอ ยังช่วยให้นักกฎหมายของเราทำงานได้เร็วขึ้นในการค้นหาข้อมูลกฎหมายจากฐานข้อมูล การสรุปและกำหนดแนวทางการทำงาน รวมทั้งการพัฒนานโยบายและหลักกฎหมายให้เข้ากับบริบทปัจจุบันของสังคม” 

“แม้เป็นหน่วยงานราชการที่เพิ่งอนุมัติให้ใช้อีเมลในการสื่อสารเมื่อ 5 ปีมานี้ เพื่อลดการใช้กระดาษ แต่ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาก็เป็นหน่วยงานราชการแห่งแรกที่ใช้ Microsoft Teams ในการประชุมออนไลน์ และยังใช้ เอไอ Copilot ช่วยเรียบเรียงข้อมูลในการประชุมอีกด้วย ส่วนกลุ่มผู้อาวุโสในองค์กร ซึ่งก็มีอยู่พอสมควร (อายุมากสุด 92 ปี) ต่างยินดีใช้ เอไอ ในการทำงาน หากชี้ให้เห็นถึงประโยชน์และแนะนำวิธีการใช้” ดร.ณรัณ กล่าวทิ้งท้ายในที่สุด 

สำหรับองค์กรที่ต้องการปรับทิศทางเพื่อมุ่งสู่สถานะ Frontier Firm ทางทีมวิจัยของ Microsoft ไว้ดังนี้ 

1. ใช้กฎ 80/20 แบ่งงานให้ AI : ปรับใช้กฎ 80/20 โดยมอบหมายงาน 80% ที่ใช้เวลามากแต่ให้ผลลัพธ์เพียง 20% ให้ AI และระบบอัตโนมัติจัดการแทน ทำให้พนักงานมีเวลาไปโฟกัสกับงาน 20% ที่สร้างผลลัพธ์ 80% ได้อย่างเต็มที่

2. ปรับมุมมองสู่ผังเนื้องาน ไม่ใช่แผนก : เมื่อ AI ทำงานข้ามแผนกได้โดยไม่ติดข้อจำกัดด้านความรู้ การติดต่อประสานงานในองค์กรจะเปลี่ยนไปในรูปแบบที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยลดรอยต่อระหว่างแผนก และเสริมความคล่องตัวให้องค์กรในอีกระดับ

3. บริหาร AI ให้เหมือนบริหารพนักงาน : มอง AI เสมือนพนักงานคนหนึ่งที่สามารถเรียนรู้ พัฒนา และรับการประเมินผลงานได้ การทำงานร่วมกันในอนาคตจะเป็นรูปแบบที่มนุษย์และ AI Agent ทำงานร่วมกันเป็นทีม โดยสามารถเริ่มต้นจากการปรับคำสั่งพื้นฐาน เพิ่มชุดข้อมูล และแลกเปลี่ยนความเห็นกับ AI ได้โดยตรง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

FYI 

  • Microsoft ได้ทำการสำรวจเทรนด์ในการ ทำงาน ทั่วโลก (Work Trend Annual) มาตั้งแต่ปี 2021 ภายใต้หัวข้อที่แตกต่างกันไป ซึ่งแต่ละปีก็ฉายให้เห็นถึงภาพรวมในการทำงานของปีนั้นๆ เช่น Hybrid work as the next disruption ในปี 2021 ที่ฉายให้เห็นถึง การทำงาน แบบผสมผสานระหว่างอยู่ที่บ้านกับกลับเข้าบริษัทเพราะยังไม่พ้นช่วงล็อกดาวน์ จนแพลตฟอร์มการประชุมออนไลน์ต่างๆ จำเป็นขึ้นมา ทั้งที่ก่อนหน้านี้ 
  • รายงาน Work Trend Annual ของ Microsoft ในปี 2025 ได้สำรวจผ่านกลุ่มตัวอย่างคนวัยทำงาน 31,000 คนใน 31 ประเทศทั่วโลก รวมถึงไทย ไล่ตั้งแต่ พนักงานระดับล่างขึ้นไปจนถึงผู้บริหารองค์กร ภายใต้หัวข้อ Breaking down the Infinite workdays สะท้อนว่า ปัจจุบันคนวัยทำงานต้องมีเรื่องให้จัดการมากมายจนเหมือนวันทำงานยาวนานไม่จบไม่สิ้น
  • ปัญหาใหญ่ของพนักงานองค์กรต่างๆ ในปัจจุบัน คือ การต้องเสียเวลาไปกับการตอบอีเมลและประชุมออนไลน์ โดยตามข้อมูลจากรายงานของ Microsoft ระบุว่ากิจกรรมเหล่านี้เป็นต้นเหตุที่ทำให้ 88% ของ กลุ่มตัวอย่างพนักงานในไทยไม่มีแรงและเวลาเพียงพอที่จะรับมือกับงานในมือ
  • ขณะที่คนทำงานทั่วโลกจะได้รับข้อความแจ้งเตือนเรื่องต่างๆ ทุก 2 นาทีโดยเฉลี่ย หรือคิดเป็น 275 ครั้งในแต่ละวัน ซึ่งการแจ้งเตือนดังกล่าว อาจมาจากทั้งอีเมล ข้อความแช็ต หรือตารางนัดประชุม นอกจากนี้ ราวครึ่งหนึ่งของการประชุมในแต่ละวันจะเกิดขึ้นในช่วงเวลา 09.00-11.00 น. และ 13.00-15.00 น. ซึ่งมักเป็นช่วงเวลาที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการทำงานแต่ละวัน
  • จากจุดนี้ทำให้เทคโนโลยีโดยเฉพาะ เอไอ ทวีความจำเป็นต่อทั้งระดับพนักงานและองค์กร เพราะช่วยให้พนักงานทำงานได้เร็วขึ้น ตั้งแต่การคัดกรองหรือตอบอีเมล เรียบเรียงข้อมูลในการประชุม ไปจนถึงทำงานร่วมกันในลักษณะ Agentic AI ที่ เอไอ ทำหน้าที่เสมือนพนักงานคนหนึ่งขององค์กร ดังนั้นเมื่อพนักงานทุกระดับใช้ เอไอ คล่อง ประสิทธิภาพการทำงาน ภาพลักษณ์องค์กร ต่อเนื่องไปถึง ผลประกอบการขององค์กรจึงย่อมดีขึ้น

ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer