เป็นที่น่าจับตายิ่งนักสำหรับปรากฎการณ์ “รีเทลไทย” ที่เวลานี้เมกะโปรเจกต์ชอปปิงมอลล์ในย่านการค้าสำคัญหลายแห่งสร้างชื่อฉายแสงเจิดจ้าบนเวทีโลก ปักหมุดเป็น “โกลบอลแลนด์มาร์ก” ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลกมาเยือนจุดหมายปลายทางระดับโลกในประเทศไทย ไม่เพียงเท่านั้น ยังเป็นยุคต่อยอดขยายอาณาจักรของทุนค้าปลีกสัญชาติไทยมุ่งหน้า “เปิดตลาดนอกบ้าน” ในหลากหลายรูปแบบทั้งกิจการค้าปลีกขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และร้านค้าปลีกขนาดเล็ก ปูพรมทั้งภูมิภาคอาเซียน เอเชีย และทั่วโลก
ท่ามกลางกระแสโกอินเตอร์! หนึ่งในโชว์เคสที่น่าสนใจไม่น้อยจากค่ายยักษ์ใหญ่ “เดอะมอลล์ กรุ๊ป” ทุนค้าปลีกสัญชาติไทยแห่งตระกูล “อัมพุช” ภายใต้การขับเคลื่อนของ “ศุภลักษณ์ อัมพุช” ครอบครองอาณาจักรศูนย์การค้าขนาดใหญ่ครบวงจรครอบคลุมทำเลยุทธศาสตร์ทางการค้าทั่วกรุงเทพฯ และเมืองเศรษฐกิจใหญ่“โคราช”ประตูการค้าสู่ภาคอีสาน เป็นฐานที่มั่นของอาณาจักรแห่งความสุข (A Happy Place to Live Life) สร้างประสบการณ์ความสุขให้กับลูกค้าทุกมิติ ทั้งชอปปิง ความบันเทิง และการใช้ชีวิต

แม้จะไม่ปรากฎภาพการขยายธุรกิจไปต่างประเทศอย่างเต็มตัว แต่ก็ไม่ตกขบวนในโลกไร้พรมแดน! ด้วยโมเดลบุกตลาดโลกด้วยการมุ่งเจาะลูกค้าต่างชาติภายใต้ยุทธศาสตร์ “Cross-Border” ที่เน้นผนึกพลังของเครือข่ายพันธมิตรทั้งในไทยและระดับโกลบอล ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่โดดเด่นและสร้างความแข็งแกร่งให้กับเดอะมอลล์ กรุ๊ป ในตลาดเมืองไทย เดินเกมต่อจิ๊กซอว์ขยาย Ecosystem เชื่อมธุรกิจเดอะมอลล์ กรุ๊ป และลูกค้าทั่วโลกอย่างไร้รอยต่อผ่านสิทธิประโยชน์ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศทั่วโลก
กลยุทธ์ “Cross-Border” ของเดอะมอลล์ กรุ๊ป เปิดเกมรุกครั้งใหญ่ เรียกว่าเจาะตรงกลุ่มเป้าหมายหลัก “ลูกค้าระดับพรีเมียม” ผ่านผู้ถือบัตร M Card และ Bangkok Bank M VISA อภิสิทธิ์พิเศษเฉพาะลูกค้า Scarlet M Card และ Platinum M Card ด้วยการส่งมอบประสบการณ์เหนือระดับที่มีเงินก็หาซื้อไม่ได้ (Money Can’t buy Experience) ตอกย้ำภาพลักษณ์บัตรพรีเมียมที่ดีที่สุด ตอบโจทย์ทุกความต้องการของการใช้ชีวิตที่ไร้ขีดจำกัดของลูกค้าพรีเมียม และทุกไลฟ์สไตล์ระดับเวิลด์คลาส ด้วยสิทธิประโยชน์ต่างๆ อาทิ สุดยอดอาหาร โรงแรมสุดหรูทั้งใน และต่างประเทศ โรงพยาบาล ที่ครบครันทุกหมวดหมู่ ทุกไลฟ์สไตล์
ล่าสุด กลุ่มเดอะมอลล์ ขยายความร่วมมือกับบรรดาห้างสรรพสินค้าระดับโลกในโครงการ “Global Privilege” ไปยังเมืองท่องเที่ยวทั่วโลก

ปัจจุบัน เดอะมอลล์ มีพาร์ทเนอร์ห้างสรรพสินค้าต่างประเทศทั้งเอเชียและยุโรป มากกว่า 11 ประเทศ ได้แก่ แพรงตองค์ (Printemps) ประเทศฝรั่งเศส, เอล คอร์เต้ อิงเลส เอสเอ (El Corte Ingles) ประเทศสเปน, Village Outlet ในเครือ เดอะบิสเตอร์ คอลเลคชั่น (The Bicester Collection) กว่า 9 สาขาในยุโรป, ดองกิโฮเต้ (Don Quijote) หรือ ดองกี้, ทาเคยะ (Takeya), มัทสึยะ กินซ่า (Matsuya Ginza) ประเทศญี่ปุ่น, เดอะ มิกซ์ซี (The MixC) ประเทศจีน, K11 MUSEA ที่ฮ่องกง และ Harrods ประเทศอังกฤษ
สิทธิประโยชน์ระดับพรีเมียมที่ลูกค้าจะได้รับเมื่อไปใช้บริการ อาทิ Lounge, Welcome Gift, Personal Shopping, Afternoon Tea, Room Upgrade และกิจกรรมแบบเอ็กซ์คลูซีฟ
“โรงแรม-ร้านอาหาร” เวิลด์คลาส

โดยพันธมิตรโรงแรมทั้งในและต่างประเทศ และร้านอาหารชื่อดัง มอบสิทธิประโยชน์ที่เงินหาซื้อไม่ได้ ให้กับสมาชิก Scarlet M Card และ Platinum M Card สำหรับโรงแรมต่างประเทศกว่า 30 โรงแรม ระดับ Top 5 Luxury Highlights ได้แก่ Soneva Jani (Maldives), Bvlgari Resort Bali (Indonesia), Four Seasons Hotel Hong Kong, The Capitol Kempinski Hotel Singapore, The Farm at San Benito (Philippines)
โรงแรมในประเทศไทย กว่า 40โรงแรม ระดับ Top 5 Luxury Hotel & Resort Highlightsได้แก่ Soneva Kiri, Koh Kood (Thailand), Rosewood Phuket, The Siam, Bangkok (Thailand), Siam Kempinski Hotel Bangkok, InterContinental Chiang Mai The Mae Ping
ขณะที่ร้านอาหารชั้นนำกว่า 40 ร้าน มีตั้งแต่ 2 ดาวมิชลิน ได้แก่ R-Haan/GAA 1 ดาวมิชลิน+ Green star ได้แก่ Haoma 1 ดาวมิชลิน ได้แก่ Potong/Saneh jaan/Inddee/Elements, Inspired by Ciel Bleu/Mia Michelin Guide & Bib ได้แก่ แก่นกรุง/ณ์ธ Royd/Nawa/Paste/Terrior/Khaan/บ้านนอกเข้ากรุง เป็นต้น Bar อาทิ BKK Social Club/GOT Bangkok/APT101/Diplomat Bar เป็นต้น
สิทธิพิเศษที่ลูกค้า Scarlet M Card และ Platinum M Card จะได้รับ อาทิ ส่วนลดในการซื้อสินค้าในห้างสรรพสินค้าเครือเดอะมอลล์ กรุ๊ป 10% ส่วนลดในการช้อปสินค้าในศูนย์การค้า และสินค้าแบรนด์เนมสูงสุด 10% ร้านอาหารจานฟรี สิทธิพิเศษในการจองสินค้าคอลเลกชั่นใหม่ล่าสุดก่อนใครจากแบรนด์ดังมากมาย อาทิ iPhone 17 คอลเลกชั่นแบรนด์บิวตี้ชั้นนำ คอลเลกชั่นแบรนด์เสื้อผ้าแฟชั่นระดับโลก ฯลฯ อีกทั้ง M Card ยังได้ขยายฐานสิทธิประโยชน์ให้กับลูกค้าคนพิเศษเพื่อตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ของลูกค้า
ผนึกพันธมิตรท่องเที่ยวมอบสิทธิพิเศษเหนือใคร

กลุ่มเดอะมอลล์ จับมือพันธมิตรด้านการท่องเที่ยวหลากหลายธุรกิจ อาทิ โรงแรม, สายการบิน, International Payment Platform, รถเช่า ฯลฯ สร้าง Tourism Ecosystem และขยายเครือข่ายการท่องเที่ยว (Tourism Network)เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยมอบประสบการณ์ และPrivilegesสิทธิพิเศษเหนือใครให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติ
สายการบินชั้นนำในประเทศได้แก่ Bangkok Airways, Nok Air, Thai Airways, Thai Lion Air
สายการบินชั้นนำต่างประเทศได้แก่ Air China, Air Macau, Cathay Pacific, China Airlines, China Eastern, China Southern Airlines, Emirates, Eva Air, Japan Airlines, Shandong Airlines, Shenzhen Airlines, Spring Airlines, Starlux, Vietjet Air
โรงแรมได้แก่ Centre point group, The Erawan Group, The Ascott Limited, Dusit Hotels & Resorts, Kingston Hotels Group, Rembrandt Group, Marriott Marquis Bangkok Queen’s park, Emporium suites by Chatrium, Hilton Sukhumvit Bangkok, Double tree by hilton Sukhumvit Bangkok, Hyatt Regency Bangkok Sukhumvit, Marriott Bangkok Sukhumvit, Novotel Bangkok Sukhumvit 20, Sheraton Grande Sukhumvit hotel, Skyview Hotel Bangkok
International Payment Platform ได้แก่ VISA, Union Pay, Alipay หรือ WeChat Pay
รถเช่าได้แก่ Sixt car, avis car rental สิทธิประโยชน์ระดับพรีเมียมที่ลูกค้าจะได้รับเมื่อไปใช้บริการ อาทิ Welcome Package, Cash Coupon, ส่วนลดสูงสุด 50%, รับฟรีสินค้าพรีเมี่ยม ฯลฯ

คิดแบบ Global ตอบโจทย์แบบ Local

วรลักษณ์ ตุลาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด ขยายความว่า ลอยัลตี้โปรแกรม ผ่าน M Card ของกลุ่มเดอะมอลล์ จากระบบสะสมแต้มถูกยกระดับสู่โปรแกรมความภักดี (Loyalty) สู่ “แพลตฟอร์มประสบการณ์ไร้พรมแดน” ภายใต้แนวคิด “Loyalty Without Limits” ที่เปรียบเสมือน “พาสปอร์ตไลฟ์สไตล์” เชื่อมโยงลูกค้ากับสิทธิประโยชน์ระดับโลก ทั้งด้านการชอปปิง ท่องเที่ยว และไลฟ์สไตล์ ครอบคลุมทุกพื้นที่ ทุกวัฒนธรรม และทุกแพลตฟอร์ม ด้วยการจับมือพันธมิตรระดับโลก เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภค ยุคใหม่ที่ใช้ชีวิตแบบ Global Citizen
“วันนี้ Loyalty Program ไม่ได้จบแค่แต้มสะสมอีกต่อไป แต่กลายเป็น ‘พาสปอร์ต’ ที่พาลูกค้าเชื่อมต่อกับโลกทั้งใบ เดอะมอลล์ กรุ๊ป จึงสร้างระบบที่ยืดหยุ่น คล่องตัว และมีชีวิต ตอบรับพฤติกรรมของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ใช้ชีวิตแบบไร้พรมแดนด้วย 3 หัวใจหลักของ Loyalty Without Limits”
ประกอบด้วย 1.Globalization กล่าวคือ การจับมือพันธมิตรระดับโลก เช่น Harrods (อังกฤษ), K11 (ฮ่องกง), The MixC (จีน) และโรงแรมหรูในกว่า 10 ประเทศ มอบสิทธิประโยชน์ระดับพรีเมียม อาทิ Lounge, Welcome Gift, Personal Shopping, Afternoon Tea, Room Upgrade และกิจกรรมแบบเอ็กซ์คลูซีฟ
2.Digitization พัฒนา M Card ให้กลายเป็นแพลตฟอร์มอัจฉริยะด้วย AI และ Data Intelligence ที่สามารถวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าแบบเรียลไทม์ พร้อมมอบสิทธิประโยชน์เฉพาะบุคคล ไม่ว่าลูกค้าจะอยู่ที่ใดในโลก สร้างประสบการณ์ที่เชื่อมโยงได้อย่าง ไร้พรมแดน (Borderless) ซึ่งช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วม (Engagement) ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
3.Data Insight ใช้พลังข้อมูลเชิงลึกออกแบบแคมเปญที่ตรงใจในแต่ละประเทศ ไม่จำกัดเฉพาะช่วงเวลา หรือสถานที่ แต่เชื่อมต่อได้แบบ Omni-Channel ครบทุกจุดสัมผัส

ล่าสุดเปิดตัว “M AI Agent” ผู้ช่วยอัจฉริยะสำหรับประสบการณ์ไร้รอยต่อซึ่งเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมสำคัญ คือ M AI Agent ผู้ช่วยอัจฉริยะรูปแบบ Virtual Concierge ที่ผสาน AI และระบบ Multilingual Voice Recognition ลูกค้าสามารถสอบถามสิทธิประโยชน์ M Card โปรโมชั่น สิทธิพิเศษทั่วโลก และบริการในศูนย์การค้าได้สะดวก รวดเร็ว และแม่นยำ

โดย M AI Agent ออกแบบให้สื่อสารได้หลากหลายภาษา เช่น ไทย อังกฤษ และจีน พร้อมหน้าจออินเตอร์แอคทีฟและระบบตอบโต้แบบ Real-Time ช่วยยกระดับประสบการณ์ลูกค้าแบบไร้รอยต่อ รองรับทั้งนักช้อปชาวไทยและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
M Card เครื่องมือเชื่อมโลกไร้พรมแดน

เกมรุกขยาย Ecosystem ของเดอะมอลล์กรุ๊ปเชื่อมลูกค้าศักยภาพทั่วโลก สอดรับฐานข้อมูลล่าสุด พบว่า สมาชิก M Card ของกลุ่มเดอะมอลล์มีการใช้จ่ายในต่างประเทศเพิ่มขึ้น 38% เทียบกับปีก่อน ขณะที่นักท่องเที่ยวไทยเดินทางไปต่างประเทศกว่า 10 ล้านคน ในปี 2567 สะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตแบบ “Global Lifestyle” ที่ต้องการสิทธิประโยชน์ระดับพรีเมียมไม่ว่าจะอยู่ที่ใดในโลก
นอกจากนี้ยังพบว่า 76% ของ Gen Z ให้ความสำคัญกับ “ประสบการณ์” มากกว่าการสะสมแต้ม 79% ของผู้บริโภคในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เลือกภักดีกับแบรนด์ที่ “สอดคล้องกับคุณค่าและตัวตน” ของลูกค้า ผ่านการสร้างพลังผ่าน Global Icons ที่ช่วยสร้าง Emotional Loyalty ด้วยการเลือก พรีเซ็นเตอร์ระดับประเทศ เช่น กลัฟ คณาวุฒิ ไตรพิพัฒนพงษ์ (พรีเซ็นเตอร์ M Card) หลิงหลิง ศิริลักษณ์ คอง (พรีเซ็นเตอร์ Bangkok Bank M Visa) โดยทั้งสองเป็นตัวแทนที่เชื่อมแบรนด์กับแฟนคลับทั่วโลก และสื่อสารคุณค่าผ่านอิทธิพลทางวัฒนธรรมได้อย่างทรงพลัง
“Loyalty is no longer a program. It’s a promise.” Loyalty ยุคใหม่ไม่ใช่แค่โปรแกรมสะสมแต้ม แต่คือ “คำมั่นสัญญา” ที่แบรนด์มีต่อผู้บริโภคผ่านคุณค่าที่จับต้องได้ ทั้งด้านอารมณ์และประสบการณ์
เดอะมอลล์ กรุ๊ป จึงมุ่งมั่นสร้าง Ecosystem ที่มีชีวิต เชื่อมโยงและตอบโจทย์ลูกค้าทั่วโลกอย่างไร้รอยต่อ

