สำหรับนักสะสมโมเดลรถ หรือผู้ที่หลงใหลในงานอดิเรกการประกอบและตกแต่งโมเดล ชื่อ ทามิย่า (Tamiya) คงเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่เติมเต็มประสบการณ์ให้กับใครหลายคนมาอย่างยาวนาน
โดยธุรกิจแรกของทามิย่าไม่ได้เกิดจากงานโมเดลหรือของเล่น แต่เป็นเพียงโรงเลื่อยไม้ โรงงานแปรรูปไม้ที่อยู่ในเมืองชิซูโอกะ ประเทศญี่ปุ่น ในนาม Tamiya Shoji & Co. ของโยชิโอะ ทามิย่า ที่ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2489
เพราะความต้องการขยายธุรกิจตัวเองไปยังโอกาสใหม่ ๆ ในปี พ.ศ. 2491 โยชิโอะ ทามิย่า ได้นำไม้ที่มีอยู่ในโรงเลื่อยมาดัดแปลงเป็นรูปแบบใหม่ ๆ จนกลายเป็นโมเดลไม้ต่าง ๆ ออกวางจำหน่ายในชื่อแบรนด์ทามิย่า สร้างรายได้ควบคู่ไปกับธุรกิจเดิม และการเปิดธุรกิจโมเดลไม้ของทามิย่าถือเป็นธุรกิจที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ทำให้โยชิโอะ ทามิย่าตัดสินใจปิดตัวโรงเลื่อยลง และโฟกัสไปที่ธุรกิจโมเดลไม้โดยเฉพาะในเวลาต่อมา
จนกระทั่งปี พ.ศ. 2503 โยชิโอะ ทามิย่าตัดสินใจเปลี่ยนผ่านธุรกิจด้วยการยกเลิกการผลิตโมเดลไม้ทั้งหมด สู่การเป็นผู้ผลิตโมเดลพลาสติกเป็นครั้งแรก ด้วยการเปิดตัว Yamato battleship model ชุดโมเดลจำลองที่เป็นชุดประกอบทำจากพลาสติกทั้งหมดเข้าสู่ตลาด และพัฒนาไปยังโมเดลจำลองที่เป็นชุดประกอบต่าง ๆ รวมถึงพาหนะ เช่น รถถัง รถแข่ง และอื่น ๆ ที่ขับเคลื่อนได้ ป้อนตลาดอย่างต่อเนื่อง
รวมถึงการนำกลยุทธ์สื่อสิ่งพิมพ์เข้ามาสื่อสารสร้างแรงบันดาลใจด้วยการเปิดตัว Tamiya News นิตยสารรายสองเดือน ออกวางจำหน่ายใน พ.ศ. 2510 เพื่อนำเสนอโมเดลใหม่ ๆ เทคนิคการดัดแปลงโมเดล และอื่น ๆ ก่อนที่จะต่อยอดตามยุคสมัยที่เปลี่ยนไป
การเดินทางของทามิย่าได้เข้าสู่จุดเปลี่ยนที่สำคัญอีกครั้งในปี พ.ศ. 2525 หลังการเปิดตัวโมเดลรถรุ่น Mini 4WD ที่มีจุดเด่นคือขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ขนาดเล็กเข้ามาทำตลาด ซึ่งสามารถสร้างความนิยมอย่างต่อเนื่องยาวนาน จนต่อยอดและพัฒนาไปยังรถ Mini 4WD อื่น ๆ รวมถึงอุปกรณ์เสริม มอเตอร์ ที่สามารถปรับเปลี่ยน DIY ตามสไตล์ของตัวเอง
เพราะ Mini 4WD คือโมเดลที่ผูกพันกับแบรนด์มาอย่างยาวนาน ทามิย่าจึงเลือกใช้กลยุทธ์การตลาดแนวใหม่ เพื่อสร้างกระแสและขยายฐานความนิยม ด้วยการจับมือกับบริษัทผู้ผลิตมังงะ นำการแข่งขันรถ Mini 4WD มาเป็นพล็อตหลักของมังงะเรื่อง Bakusō Kyōdai Let’s & Go!! (爆走兄弟レッツ&ゴー!!)

มังงะเรื่องนี้เปิดตัวครั้งแรกในปี พ.ศ. 2537 และกลายเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยผลักดันความนิยมของรถ Mini 4WD ให้ขยายวงกว้างทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศ รวมถึงประเทศไทย โดยภายในสิ้นปี พ.ศ. 2538 ทามิย่าสามารถทำยอดจำหน่ายสะสมของโมเดล Mini 4WD ได้ทะลุ 100 ล้านคัน นับตั้งแต่การเปิดตัวครั้งแรก
ที่มาพร้อมกับกระแสการแข่งขันรถ Mini 4WD ในสนามแข่งที่จัดขึ้นเฉพาะ และการโมดิฟายรถ Mini 4WD ในหมู่แฟนคลับอย่างแพร่หลาย
สำหรับประเทศไทย แม้ในวันนี้ทามิย่าจะเป็นตลาดที่ได้รับความนิยมเฉพาะกลุ่ม แต่ถือเป็นตลาดที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ผ่านการทำตลาดและจัดการแข่งขันรถทามิย่าในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อสร้างคอมมูนิตี้ให้กับผู้ที่สนใจเข้ามาแข่งขัน พูดคุย เพื่อสร้างแรงบันดาลใจใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง
อ้างอิงจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าพบว่า บริษัท สยามทามิยะ จำกัด ผู้นำเข้าและทำตลาดทามิย่าในประเทศไทย มีผลประกอบการดังนี้
ปี 2563 รายได้รวม 94.10 ล้านบาท กำไร 4.87 ล้านบาท
ปี 2564 รายได้รวม 93.48 ล้านบาท กำไร 4.61 ล้านบาท
ปี 2565 รายได้รวม 102.16 ล้านบาท กำไร 4.62 ล้านบาท
ปี 2566 รายได้รวม 120.56 ล้านบาท กำไร 4.84 ล้านบาท
ปี 2567 รายได้รวม 140.20 ล้านบาท กำไร 5.88 ล้านบาท
Marketeer FYI
อาลัย ชุนซากุ ทามิย่า
ประธานกรรมการบริษัทและกรรมการผู้แทนของทามิย่า ถึงแก่กรรมอย่างสงบเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 รวมอายุ 90 ปี
ชุนซากุ ทามิย่า เป็นบุตรชายของโยชิโอะ ทามิย่า ผู้ก่อตั้งแบรนด์ทามิย่า หลังสำเร็จการศึกษา เขาได้เข้าร่วมงานกับบิดาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2501 และมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนแบรนด์ทามิย่าให้เติบโตกลายเป็นหนึ่งในผู้นำในอุตสาหกรรมโมเดลและของเล่นที่มีชื่อเสียงมาจนถึงปัจจุบัน
