acer เทคโนโลยีทำให้โดดเด่นในตลาด แต่บริการคือสิ่งที่ทำให้ชนะใจลูกค้า และนี่คือเบื้องหลังที่ทำให้ยังคงเป็น No.1 Brand โน้ตบุ๊ก 14 ปีซ้อน
หากย้อนกลับไปในปี 2012 ตลาดโน้ตบุ๊กรวมถึงคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลในประเทศไทยเคยทะยานถึงจุดสูงสุด ยอดขายรวมกว่า 3.5 ล้านเครื่อง แต่หลังจากนั้นก็เข้าสู่ช่วงปรับตัวจนกระทั่งตลาดอยู่ตัว ยอดขายคงที่ประมาณ 2.4 ล้านเครื่องต่อปี
ก่อนจะเกิดดีมานด์เทียมช่วงโควิด-19 ที่ทำให้ทุกบ้านต้องมีคอมพิวเตอร์เพื่อเรียนและทำงานที่บ้าน แต่เมื่อวิกฤตผ่านไปตลาดกลับเข้าสู่ “สมดุลใหม่” โดยตัวเลขยอดขายราวๆ 2.4 ล้านเครื่องต่อปีอีกครั้ง
หลายคนอาจมองว่า ตลาดคอมพิวเตอร์และโน้ตบุ๊กกำลังถูกดิสรัปหนัก …. แต่ต้องบอกว่าไม่ถึงตาย
เพียงแต่โน้ตบุ๊กกลายเป็นสินค้าที่ผู้บริโภคเข้าใจวัตถุประสงค์การใช้งานอย่างแท้จริง และเลือกซื้อเมื่อถึงรอบเปลี่ยนเครื่องมากกว่า
ที่หยิบยกเรื่องนี้มาพูดเนื่องจากในปีนี้เป็นอีกหนึ่งปีที่ผลสำรวจรางวัล Marketeer No.1 Brand Thailand ได้ทำการสำรวจแบรนด์ยอดนิยมอันดับหนึ่งของคนไทยทั่วประเทศประจำปี 2568
โดยแบรนด์ที่ความอันดับ 1 ในใจผู้บริโภคในหมวดสินค้า ‘โน้ตบุ๊ก’ ยังคงเป็น Acer (เอเซอร์) แบรนด์คอมพิวเตอร์แบรนด์เดียวที่ครองใจผู้บริโภคจนคว้ารางวัลนี้ได้ถึง 14 ปีซ้อน…

Marketeer ได้มีโอกาสได้พูดคุยกับ คุณนิธิพัทธ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เอเซอร์คอมพิวเตอร์ จำกัด ถึงมุมมองและเทรนด์ที่เกิดในตลาดโน้ตบุ๊กและคอมพิวเตอร์ในปัจจุบัน รวมถึงเจาะกลยุทธ์สำคัญที่ทำให้ Acer ยังคงครองเบอร์ 1 ในใจผู้บริโภคมาอย่างยาวนาน…
ตลาดอยู่ในจุดสมดุล = โอกาส เพราะผู้บริโภคเข้าใจว่าต้องการอะไร
“ปัจจุบันตลาดโน้ตบุ๊กไม่ได้ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมใหม่ที่หวือหวาเพียงอย่างเดียวเหมือนกับยุคก่อนๆ อีกแล้ว หากแต่ขับเคลื่อนด้วยการเข้าใจเรื่องการใช้งานจริงของผู้บริโภคมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นการเรียนออนไลน์ที่กลายเป็นเรื่องปกติ การใช้งานด้านงานออฟฟิศ การเล่นเกม หรือแม้แต่ความจำเป็นในการมีเครื่องสำรองที่บ้านสำหรับสมาชิกแต่ละคน
ในขณะที่กลุ่มอุปกรณ์อย่างแท็บเล็ตก็เข้ามาแชร์การใช้งานบางส่วน แต่ก็ยังไม่สามารถทดแทนการใช้งานเฉพาะทางได้ เช่น การตัดต่อวิดีโอ โค้ดดิ้ง การพัฒนาเกม การทำงานเอกสารในองค์กร หรือการเล่นเกมระดับสูง ซึ่งล้วนแล้วแต่ยังต้องพึ่งพาโน้ตบุ๊กหรือคอมพิวเตอร์ที่มีสเปคแรง และเสถียรกว่า”
รวมถึงการมาของ AI ที่เริ่มกลายเป็นฟีเจอร์พื้นฐาน โดยเฉพาะในงานออฟฟิศที่ Microsoft พัฒนา Copilot ให้ทำงานร่วมกับ Word, PowerPoint และ Windows 11 ได้อย่างลื่นไหลมากขึ้น เก่งมากขึ้น กลายเป็นผู้ช่วยเสริมประสิทธิภาพแบบ Built-in ที่ช่วยย่นเวลาและเพิ่มความแม่นยำ ซึ่งตรงนี้ก็นับเป็นอีกหนึ่งโอกาสของโน้ตบุ๊กในฝั่งของคนทำงานเช่น
เทคโนโลยีทำให้โดดเด่นในตลาด แต่บริการคือสิ่งที่ทำให้ชนะใจ

สำหรับหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Acer ยังครองตำแหน่ง No.1 Brand Thailand ต่อเนื่องถึง 14 ปี คือ “กลยุทธ์ด้านบริการ” ที่วางหมากไว้นานกว่าใคร”
ทาง Acer เลือกลงทุนตั้งแต่แรกเริ่มด้วยการสร้างศูนย์บริการซ่อมเป็นของตัวเอง แทนการใช้ Third-Party เหมือนหลายแบรนด์ในตลาด พร้อมสต๊อกอะไหล่ในระดับภูมิภาคเพื่อรองรับลูกค้าทั้งในไทยและประเทศเพื่อนบ้านอย่างพม่า ลาว กัมพูชา
การที่เปิดเซอร์วิสเซ็นเตอร์เองซ่อมเอง สต๊อกอะไหล่เอง ทำให้มี Data ในมือ…
ง่ายๆ เลยถ้ารู้ว่าเครื่องไหนหรือจุดไหนมี Failure Rate สูงเราก็เตรียมการสั่ง Spare Part มารอไว้เลย
“Acer เราจริงจังและทำเรื่องนี้ไปพร้อมๆ กับการสร้างแบรนด์และขายสินค้า และเชื่อว่าถ้าไม่เริ่มทำตั้งแต่วันนั้นแล้วมาทำวันนี้
Business Model เราก็จะเหมือนกับคนอื่นๆ ไม่ได้มีแต้มต่อที่เหนือกว่าแบบทุกวันนี้ เพราะแน่นอนว่าเรายกให้คนอื่นทำ เอาง่าย เอาเร็ว ก็ใช่แต่เราเลือกที่จะไม่รับความเสี่ยงตรงนี้และลงมือทำอย่างตั้งใจแทน จนตอนนี้บริษัท Service ของเราสามารถแยกไปอีกเป็นบริษัทหนึ่งได้เลย สบายๆ เลย”
ผลลัพธ์คือเมื่อเครื่องลูกค้ามีปัญหาในการใช้งานไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแบตเตอรี่หรือซ่อมอุปกรณ์ สามารถทำนัดเลือกว่าจะส่งเข้าเซอร์วิสที่ศูนย์ หรือบางเคสก็มี Onsite Service พร้อมอะไหล่ครบชุดได้ในไม่กี่ชั่วโมง ไม่ต้องรอส่งซ่อม รอสั่งอะไหล่นานหลายวัน
“โมเดลนี้ไม่ได้แค่สร้างความพึงพอใจ แต่ยังทำให้ผู้บริโภครู้สึกถึงความรับผิดชอบ และความเชื่อมั่นที่แบรนด์มอบให้ ซึ่งเป็นสิ่งที่แบรนด์อื่นยากจะเลียนแบบได้ หากไม่เลือกที่จะวางราฐานเรื่องนี้แบบจริงจัง รวมถึงต้องใช้เวลา”
‘เกมมิ่ง’ ยังคงเป็น Segment ที่จะพาให้ตลาดโน้ตบุ๊กเติบโต

หาก Zoom Out เพื่อดูภาพรวมและส่วนแบ่งของตลาดโน้ตบุ๊กในปัจจุบันสามารถแบ่งออกเป็น 3 หมวดหลักๆ ได้คือ
60% ยังเป็นในส่วนของโน้ตบุ๊กทั่วไป รวมถึงกลุ่มราคาเริ่มต้น
25% คือ โน้ตบุ๊ก Thin & Light เบาบางพกพาสายทำงานประสิทธิภาพสูง
ส่วน 15% สุดท้ายคือโน้ตบุ๊กเกมมิ่งที่มีสเปคจัดเต็ม
และแม้ตลาดรวมจะดูนิ่งๆ รวมถึงโน้ตบุ๊กเกมมิ่งก็ยังเป็นแชร์ส่วนแบ่งที่เล็กที่สุดก็ตาม…
แต่Acerกลับพบโอกาสใน Segment นี้ เพราผู้ใช้งานกลุ่มนี้ถือเป็นผู้บริโภคยอมจ่ายสูงสุด เพื่อให้ได้อุปกรณ์ที่ตอบโจทย์สเปคเกมที่อัปเดตเร็วขึ้นเรื่อย ๆ จากฝั่งผู้พัฒนาเกม เป็นตลาดที่พร้อมเล่นและพร้อมจ่าย
เราจึงได้เห็นทางAcerวางหมากด้วยการสร้าง Tournament การแข่งขัยเกมของตัวเองในชื่อ “Predator League” ครอบคลุม 12 ประเทศในเอเชียแปซิฟิก พร้อมจัด Regional Grand Final หมุนเวียนเจ้าภาพทุกปี จุดนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่กิจกรรมส่งเสริมการขาย แต่เป็นการสร้าง “อีโคซิสเต็ม” ที่ทำให้แบรนด์เข้าไปอยู่ในชีวิตของกลุ่มเกมเมอร์รุ่นใหม่อย่างลึกซึ้ง

และที่มากไปกว่านั้นคือ Acerยังร่วมมือกับมหาวิทยาลัยต่าง ๆ เช่น ม.ศรีปทุม ม.กรุงเทพ และม.หอการค้าไทย เปิดโอกาสให้นักศึกษาเข้ามาฝึกงานจริงกับ Tournament นี้ในทุกมิติ ตั้งแต่การพากย์เสียง การจัดเวที ไปจนถึงงานเบื้องหลังที่เกี่ยวข้องกับ e-Sport ทั้งหมด เป็นทั้งการสร้างอาชีพรวมถึงสร้าง Brand Awareness ผ่านแคมเปญที่กลุ่มลูกค้าเจนฯ นี้สนใจจริงๆ
นอกจากนี้ ปี 2025 Acerยังเตรียมต่อยอดด้วยการดึง “สมาคมคนพิการ” เข้ามาในโครงการฝึกงานด้วย เปิดโอกาสให้ผู้พิการได้มีอาชีพใหม่ผ่านสายงานเกม พากย์ ตัดต่อ และสตรีม โดยไม่มีข้อจำกัดทางร่างกายอีกด้วย
Diversify อย่างมีกลยุทธ์ขยายจาก IT สู่ Consumer Electronics

และอีกหนึ่งมูฟเมนต์สำคัญในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่ามา… ทางAcerขยับตัว คือการไม่หยุดแค่ตลาด IT แต่เริ่มขยายธุรกิจสู่สาย Consumer Electronics ภายใต้แบรนด์ “Acerpure” ซึ่งมีทั้งพัดลมฟอกอากาศ เครื่องกรองน้ำ หม้ออบลมร้อน และไดร์เป่าผม
แม้หลายคนจะสงสัยว่าแบรนด์โน๊ตบุ๊คจะมาขายเครื่องใช้ไฟฟ้าได้อย่างไร แต่ด้วยภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่มีศูนย์บริการพร้อม, อะไหล่ครบ และมาตรฐานความปลอดภัยสูง ทำให้ Acer ใช้ความเชื่อมั่นเดิมต่อยอดได้อย่างแข็งแกร่ง
Acerpure ไม่ได้จำกัดตัวเองแค่ช่องทางเดิมของ IT แต่ปรับให้เข้ากับพฤติกรรมผู้บริโภค เช่น ขายใน HomePro หรือเข้าร่วมงานบ้านและสวน แทนที่จะไปลงเฉพาะคอมพิวเตอร์อย่างเดียวซึ่งลูกค้ามาเพื่อซื้ออุปกรณ์ไอทีเป็นหลัก
และทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ทำให้Acerยังเป็นแบรนด์อันดับ 1 ไม่ใช่แค่ยอดขายหรือสเปคเครื่องที่ดีที่สุด แต่คือความเข้าใจลึกซึ้งใน “พฤติกรรมผู้บริโภค” และความมุ่งมั่นในการสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มคนทำงาน ครีเอเตอร์ เกมเมอร์ นักเรียน นักศึกษามหาวิทยาลัย หรือคนทั่วไป นี่คือสิ่งที่ทำให้Acerกลายเป็นมากกว่าแค่แบรนด์คอมพิวเตอร์ แต่เป็นแพลตฟอร์มที่เชื่อมโยงคนกับเทคโนโลยีได้อย่างลงตัว
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /
