GWM ประเทศไทย มองสงครามราคาตลาดรถยนต์ไฟฟ้ายังรุนแรง ปรับกลยุทธ์เปิดตัว ‘New GWM Tank 500 Diesel’ เสริมทัพพอร์ตรถยนต์ดีเซล เจาะตลาดทางเลือก

ปาร์คเกอร์ ฉี ประธาน ตลาดต่างประเทศ เกรท วอลล์ มอเตอร์ (GWM – Great Wall Motor) กล่าวว่า ยอดขายรวมของ GWM ประเทศไทย ครึ่งปีแรก (ม.ค. – มิ.ย.) 2025 อยู่ที่ราว 7,100 คัน เติบโต 71% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา บริษัทวางเป้ายอดขายทั้งปีอยู่ที่ราว 14,000 – 15,000 คัน เติบโตขึ้นหนึ่งเท่าตัวเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

ล่าสุด บริษัทได้เปิดตัว ‘New GWM Tank 500 Diesel’ อย่างเป็นทางการในไทยเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2025 ที่ผ่านมา โดยเป็นรถยนต์ PPV (Pickup Passenger Vehicle) พรีเมียม 7 ที่นั่ง ที่มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซล วางราคาแนะนำช่วงเปิดตัว เริ่มต้นที่ 1.399 – 1.629 ล้านบาท สำหรับลูกค้าที่ออกรถ 500 คนแรก
บริษัทได้สร้างการรับรู้ New GWM Tank 500 Diesel ผ่านการเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ ‘คุณป้อง-ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์’ สร้างภาพลักษณ์ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การเดินทางทั้งการทำงาน ใช้ชีวิต ไลฟ์สไตล์ วางตำแหน่งเจาะกลุ่มคนทำงาน, ครอบครัว, ผู้บริหารรุ่นใหม่ ซึ่งในช่วงสื่อสารผลิตภัณฑ์ วางเป้ายอดขายอยู่ที่ราว 300-400 คันต่อเดือน
ปัจจุบัน GWM ประเทศไทย มีรถยนต์รุ่นหลักที่ทำตลาด ดังนี้ Tank, Haval, ORA Good Cat, Poer Sahar ซึ่งวางตำแหน่งอยู่ในตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเป็นหลัก
ซึ่งท่ามกลางการแข่งขันด้านสงครามราคาที่ยังรุนแรงในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า GWM ได้มีการปรับกลยุทธ์ โดยนำรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปเข้ามาทำตลาดเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็น GWM Tank 300 Diesel, GWM Tank 500 Diesel, Poer Sahar Diesel เพื่อสร้างทางเลือก และตอบโจทย์ลูกค้าที่ยังคงต้องการรถยนต์ดีเซล หรือมองหารถยนต์ที่มีราคาเข้าถึงง่ายขึ้น
ทั้งยืนยันว่าช่วงปลายปี 2025 บริษัทเตรียมเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ภายใต้แบรนด์ WEY โดยเป็นรถ MPV (Multi-Purpose Vehicle) พรีเมียม ประตูสไลด์ 6-7 ที่นั่ง ที่มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ปลั๊กอินไฮบริด เจาะกลุ่มครอบครัว
ด้านสถานการณ์การปรับโครงสร้างภาษีรถยนต์ไฟฟ้ากับค่ายยานยนต์ข้ามชาติที่เข้ามาทำตลาดในไทยของภาครัฐ GWM เตรียมพร้อมปรับตัวตามทิศทางที่จะเกิดขึ้น และไม่มองไปที่การทำสงครามราคา เนื่องจากส่งผลกระทบต่อการสร้างแบรนด์ และความเชื่อมั่นของผู้บริโภค
โดยจะเห็นว่าช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา บริษัทใช้กลยุทธ์ดึงบริษัทซัพพลายเชนในเครือเข้ามาตั้งฐานการผลิตในไทย อย่าง SVLOT บริษัทผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า เพื่อส่งเสริมการบริหารจัดการซัพพลายให้กับโรงงาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ แมนูแฟคเจอริ่ง จังหวัดระยอง ทำให้บริษัทสามารถควบคุมต้นทุน และใช้สิทธิประโยชน์จากนโยบายสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้าของภาครัฐได้เต็มประสิทธิภาพ
