ลัคกี้สุกี้ ถูกยกเป็นตัวอย่างแบรนด์ Challenger ที่สามารถ เจาะตลาดและสร้างตัวตนชัดเจน แม้ต้องแข่งขันกับผู้เล่นรายใหญ่ ในงาน Marketeer Talk Ep. The Challenger วิรัตน์ โรจยารุณ และ รสรินทร์ ติยะวราพรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มิราเคิล แพลนเนท จำกัด ได้บอกเล่าเรื่องราวของความสำเร็จในฐานะผู้ท้าชิงในตลาดบุฟเฟต์ ดังนี้

 

1.จุดเริ่มต้นจากการช่วยเพื่อนในช่วงโควิด

ลัคกี้ สุกี้ เกิดขึ้นจากเรื่องราวที่น่าสนใจในช่วงโควิด-19 เมื่อรสรินทร์ และวิรัตน์ 2 ใน 4 ผู้ก่อตั้งรู้จักกันจากร้านกาแฟแถวบ้าน โดยวิรัตน์เป็นลูกค้าประจำที่มานั่งดื่มกาแฟ ความสนิทสนมเกิดขึ้นจากการคุยกันเรื่องต่างๆ และได้รู้ว่าแต่ละคนมีพื้นฐานอะไร

ประกอบกับรสรินทร์มีเพื่อนทำร้านสุกี้เล็กๆ แถวบ้าน และได้เข้าไปช่วยเหลือด้วยความรู้ที่จบมาทางสาย Marketing และ Operation จากการลงมือวิเคราะห์ข้อมูลและดึง “ดาต้า” มาช่วยในธุรกิจสุกี้ของเพื่อน ทำให้เห็นโอกาสว่าตลาดสุกี้มีศักยภาพที่จะก้าวต่อไปได้อีกมาก และในตลาดสุกี้ยังมีผู้เล่นรายใหญ่ไม่มากนัก

 

2.การแบ่งบทบาทและความเชี่ยวชาญของหุ้นส่วน

หนึ่งในปัจจัยความสำเร็จของลัคกี้สุกี้คือการมีหุ้นส่วนที่มีความเชี่ยวชาญแตกต่างกัน และแบ่งหน้าที่บทบาทอย่างชัดเจน ทำให้สามารถจัดการบริหารธุรกิจสุกี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดความขัดแย้งภายในองค์กร

3.กลยุทธ์การสร้างแบรนด์ด้วย “โชคดี” เป็นคอนเซปต์หลัก

ลัคกี้สุกี้เลือกใช้แนวคิด “โชคดี” เป็นการสร้างความแตกต่างในการตั้งชื่อ พร้อมสื่อสารแบรนด์ดิ้งผ่านการออกแบบร้านและโปรโมชั่นต่างๆ ที่สื่อถึงความโชคดีและการได้รับสิ่งดีๆ เพื่อสร้างความประทับใจและการจดจำในใจลูกค้า

แนวทางนี้ช่วยเพิ่มความผูกพันระหว่างแบรนด์และกลุ่มเป้าหมาย นอกจากนี้ยังช่วยทำให้ลูกค้ามองว่าการใช้บริการที่ร้านเป็นสิ่งคุ้มค่าและนำโชคดีมาสู่

 

4.เป้าหมาย 40 สาขา มุ่งสู่เป้าหมาย 2,000 ล้านบาทในปี 2568

จากสาขาแรกที่ People Park ในปี 2565 ภายในเวลาเพียง 3 ปี ลัคกี้สุกี้สามารถขยายสาขาได้ถึง 25 แห่ง พร้อมแตกไลน์ธุรกิจเป็น ลัคกี้บาร์บีคิว อีก 9 สาขา เป้าหมายต่อไปคือการขยายสาขารวมเป็น 40 แห่งภายในสิ้นปีนี้ ควบคู่กับการตั้งเป้ารายได้แตะระดับ 2,000 ล้านบาท

สำหรับเกณฑ์การเลือกทำเลของลัคกี้สุกี้ กำหนดพื้นที่เฉลี่ยไว้ราว 550 ตารางเมตร ต้องมีที่จอดรถ สิ่งอำนวยความสะดวก และมาตรการความปลอดภัยครบถ้วน เนื่องจากการปิดสาขาที่ดึกถึงตีสอง เพื่อรองรับดีมานด์ของลูกค้าที่ต้องการทานหลังห้างสรรพสินค้าปิด

 

5.ไปต่างจังหวัด ผ่านแนวทาง Drop to Drop
การขยายสาขาไปต่างจังหวัดของลัคกี้ สุกี้ เน้นเดิมเกมในรูปแบบ Drop to Drop ด้วยการเริ่มจากสาขาในจังหวัดต่างๆ ที่มีรัศมีห่างจากรุงเทพฯ ไม่เกิน 300 กิโลเมตร เพื่อควบคุมการดูแลวัตถุดิบให้มีคุณภาพจากการขนส่ง จนมั่นใจว่าทำได้ดี ก่อนจะขยายไปทั่วประเทศ จากการมองมองว่าถ้าขยายสาขาไปจังหวัดที่ไกลจากกรุงเทพฯ แต่ไม่สามารถควบคุณคุณภาพได้ จะเกิดปัญหาให้กับธุรกิจในอนาคต

6.โต้เกมสงครามราคาด้วยความคุ้มค่า สร้างความรู้สึกชนะให้กับลูกค้า

ปัจจัยสำคัญที่ผลักดันความสำเร็จของลัคกี้สุกี้ คือการเข้าใจความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง ด้วยการมุ่งสร้างประสบการณ์ที่ทำให้ผู้บริโภครู้สึก คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป มากกว่าการเล่นเกมลดราคาแบบที่คู่แข่งในตลาดบุฟเฟต์

แทนที่จะลดราคา ลัคกี้สุกี้เลือกจัดโปรโมชั่นในลักษณะที่ทำให้ลูกค้าได้รับสิ่งที่มากขึ้นในเม็ดเงินเท่าเดิม ลูกค้าจึงไม่รู้สึกว่ากำลังจ่ายเงินเพื่อของถูกแต่กลับรับรู้ถึงความคุ้มค่า และพร้อมยอมจ่ายเท่าเดิมเพื่อประสบการณ์ที่ดีกว่า

นอกจากนี้และความรู้สึกคุ้มค่ายังเป็นหนึ่งในมิติที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกชนะ ว่าร้านขาดทุนแน่นอน เพราะความคิดนี้จะทำให้ลูกค้ากลับมาใหม่

 

7.การบริหารต้นทุนและวัตถุดิบที่เน้นคุณภาพและความคุ้มค่า

ลัคกี้สุกี้ ไม่ได้เน้นแค่การลดต้นทุนต่ำที่สุดเท่านั้น แต่ให้ความสำคัญกับการบริหารต้นทุนที่เหมาะสมและให้คุณค่าแก่ลูกค้า การเลือกวัตถุดิบจึงมีเกณฑ์ที่เข้มงวดมากกว่าการมองแค่ราคาถูก

กลยุทธ์นี้ช่วยให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่คุ้มค่ากับเงินที่จ่าย แม้ว่าจะต้องใช้ต้นทุนสูงขึ้นบ้างแต่สร้างความพึงพอใจ ทำให้ลูกค้ายินดีจ่ายเพิ่มหากรู้สึกว่าคุณภาพดี

 

8.ตลาดสุกี้บุฟเฟต์คือการผลัดกันช่วงชิงจังหวะ

ในอีก 1-2 ปีต่อจากนี้ ผู้ก่อตั้งลัคกี้สุกี้มองว่า ตลาดสุกี้ทุกรายแข็งแรง แต่เป็นการผลักกันชิงจังหวะ เพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า โดยระยะสั้นสงครามราคาอาจเพื่อสร้างอิมแพคระยะสั้น แต่ไม่สามารถทำได้อย่างต่อเนื่อง เพราะลูกค้าอาจชิน หรืออาจะไม่พึงพอใจ เพราะสุดท้ายลูกค้าจะเลือกในสิ่งที่เขาต้องการ

 

9.การรักษาวัฒนธรรมองค์กรและการพัฒนาทีมงานในช่วงขยายธุรกิจ

เมื่อลัคกี้สุกี้ขยายสาขาไปสู่พื้นที่ใหม่ จำเป็นต้องดูแลและรักษาวัฒนธรรมองค์กรอย่างต่อเนื่อง โดยการใช้ทีมงานเดิมที่มีประสบการณ์และความเข้าใจในแบรนด์เพื่อขยายไปยังสาขาใหม่

การส่งต่อวัฒนธรรมนี้ช่วยให้ทีมงานในพื้นที่ใหม่ยังคงรักษามาตรฐานและลักษณะการทำงานที่สอดคล้องกับแบรนด์ อีกทั้งยังรองรับการเติบโตของธุรกิจอย่างเป็นระบบ

 

10.คำแนะนำสำหรับผู้ประกอบการรายเล็ก

สำหรับผู้ประกอบการตัวเล็กที่ต้องเจอคู่แข่งใหญ่ คำแนะนำหลักคือ “ทำตัวเราให้แข็งแรง” ไม่ว่าคู่แข่งจะแข็งแรงหรือไม่ หากเราไม่แข็งแรงก็อยู่ยาก

ความแข็งแรงที่สำคัญที่สุดคือ ความมุ่งมั่นและแพสชัน การโฟกัสที่ลูกค้าแทนที่จะมัวแต่โฟกัสคู่แข่ง และการมี “ทุกเรื่อง” ในการบริหารธุรกิจอาหารมากกว่าร้อยรายการที่ต้องสัมผัสและควบคุม

อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ 
Website : Marketeeronline.co / Facebook : www.facebook.com/marketeeronline


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer