บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) ประกาศแต่งตั้ง ชนินทธ์ โทณวณิก ให้ดำรงตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม (Group CEO) อีกครั้ง หลังจาก ศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประกาศลาออกจากตำแหน่ง เพื่อเข้ารับตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 12 กันยายน 2568 เป็นต้นไป
ชนินทธ์ได้เปิดเผยในงานแถลงข่าวว่า การรับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มในครั้งนี้ ถือเป็นการเปลี่ยนผ่านชั่วคราวเพื่อการกลับมาอีกครั้งของศุภจี
“คุณศุภจีมาถามผมว่าควรไปไหม ผมบอกว่าถ้าทำอะไรเพื่อสังคมได้ก็ควรจะทำ และผมขอศุภจีว่า หลังจากรับใช้ประเทศเสร็จ ขอให้กลับมาที่ดุสิต ซึ่งศุภจีก็ให้สัญญา” ชนินทธ์ โทณวณิก กล่าว
ตลอดกว่า 9 ปีที่ผ่านมา ศุภจีได้วางรากฐานให้กับดุสิตธานี ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ที่พาดุสิตธานีเดินหน้าผ่านแนวทางที่วางไว้ สู่การเติบโตในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นการขยายธุรกิจจากเดิม 2 กลุ่ม สู่ 5 กลุ่มหลัก
รวมถึงการลงทุนในโครงการ Dusit Central Park มูลค่ากว่า 46,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ ครอบคลุมโรงแรม ศูนย์การค้า ออฟฟิศ และเรสซิเดนซ์ แม้จะเผชิญความท้าทายจากโควิด-19 และความล่าช้าเกือบ 2 ปี แต่โครงการก็เดินหน้าได้ตามวิสัยทัศน์ระยะยาว เพื่อการปลดล็อกคุณค่าและการเติบโตในอนาคต
โดยเฉพาะโครงการเรสซิเดนซ์ใน Dusit Central Park ซึ่งเป็นโครงการที่ถือเป็นจุดเปลี่ยนด้านรายได้ที่สำคัญให้กับบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) เนื่องจากโครงการนี้สามารถสร้างยอดขายไปแล้วทั้งสิ้น 94% หรือคิดเป็นมูลค่ายอดขายกว่า 16,000 ล้านบาท โดยจะทยอยส่งมอบในปลายปี 2568 และรับรู้รายได้อย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ปี 2569 ที่สามารถล้างขาดทุนสะสมทันที

ชนินทธ์ย้ำว่า ดุสิตธานีทำงานกันแบบทีมเวิร์กและเป็นเหมือนครอบครัว พนักงานกว่า 20,000 คนยังคงทำหน้าที่อย่างแข็งขัน เพื่อสานต่อวิสัยทัศน์ที่วางไว้
แม้จะเป็นการเปลี่ยนผ่านชั่วคราว แต่การแต่งตั้งชนินทธ์กลับมานั่งเก้าอี้ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม คือการสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนและบุคลากรในองค์กรว่า “ดุสิตธานียังเดินหน้าต่อได้อย่างมั่นคง” เพื่อรอวันที่ศุภจีกลับมา
เพราะถึงแม้ว่า “ศึกสายเลือดดุสิตธานี” ยังคงอยู่ในกระบวนการเสนอถอดถอนชนินทธ์จากตำแหน่งกรรมการในวันที่ 26 กันยายน 2568 แต่ชนินทธ์เชื่อมั่นว่า ด้วยหลักฐานที่มีอยู่ จะสามารถจบลงด้วยดีโดยไม่ต้องเป็นห่วง
