แบรนด์เสื้อผ้าเอาต์ดอร์ชื่อดัง Arc’teryx กำลังถูกเจ้าหน้าที่จีนสอบสวน หลังจากจัดแสดงพลุขนาดใหญ่บนเทือกเขาหิมาลัยในเขตทิเบต เมื่อวันที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา เหตุการณ์นี้กลายเป็นประเด็นร้อน เพราะสร้างคำถามด้านสิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม และภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่เคยยึดมั่นเรื่องการอนุรักษ์ธรรมชาติ
.
การแสดงดังกล่าวใช้ชื่อว่า “Rising Dragon” ออกแบบโดยศิลปินชื่อดังชาวจีน ไช่ กั๋ว เฉียง พลุหลากสีถูกจุดขึ้นกลางวันบนพื้นที่สูงกว่า 5,000 เมตร บริเวณเมืองชิกาเซ่ ทิเบต ซึ่งเป็นเส้นทางสู่ยอดเอเวอเรสต์ พลุถูกจัดเรียงให้คล้ายมังกรพ่นไฟ สร้างภาพที่อลังการ แต่กลับจุดชนวนเสียงวิจารณ์อย่างกว้างขวาง
ผู้คนจำนวนมากมองว่าการจุดพลุบนภูเขาที่มีระบบนิเวศเปราะบางเช่นนี้ เสี่ยงทำลายสิ่งแวดล้อม รวมถึงรบกวนสัตว์ป่าในพื้นที่ อีกทั้งเทือกเขาแห่งนี้ยังถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวทิเบตที่นับถือพุทธศาสนา จึงเกิดคำถามว่าทำไมโครงการเช่นนี้ถึงได้รับการอนุมัติ
.
Arc’teryx เป็นแบรนด์ที่สร้างชื่อจากเสื้อผ้าและอุปกรณ์ปีนเขาคุณภาพสูง ก่อตั้งในปี 1989 ปัจจุบันมีร้านค้ากว่า 150 แห่งทั่วโลก และอยู่ในเครือ Anta Sports ยักษ์ใหญ่ด้านกีฬาในฮ่องกง ด้วยภาพลักษณ์ที่เน้น “เคารพธรรมชาติ” แคมเปญพลุครั้งนี้จึงถูกมองว่าขัดแย้งอย่างรุนแรงกับตัวตนของแบรนด์ หลายคนถึงขั้นประกาศแบนสินค้า
.
Arc’teryx ออกแถลงการณ์ขอโทษ ยอมรับว่า “การแสดงนี้ไม่สอดคล้องกับค่านิยมหลักของบริษัท” พร้อมชี้แจงว่าใช้วัสดุที่ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ และตั้งใจจะสื่อสารเรื่องวัฒนธรรมภูเขา แต่ก็ยอมรับว่าจำเป็นต้องเรียนรู้ที่จะเคารพธรรมชาติและประเมินผลกระทบให้รอบคอบกว่านี้
อย่างไรก็ตาม คำขอโทษไม่สามารถดับความโกรธของสาธารณชนได้ ความคิดเห็นยอดนิยมในโซเชียลระบุว่า “นี่ไม่ใช่เรื่องที่จบได้ด้วยคำขอโทษเพียงครั้งเดียว” และเรียกร้องให้แบรนด์รับผิดชอบต่อผลกระทบในระยะยาว ขณะเดียวกันยังมีผู้ตั้งข้อสงสัยถึงกระบวนการอนุมัติที่ทำให้โครงการใหญ่เช่นนี้เกิดขึ้นได้
ด้าน ไช่ กั๋ว เฉียง ศิลปินวัย 67 ปี ผู้มีชื่อเสียงจากการใช้ดินปืนและพลุสร้างงานศิลป์ รวมถึงเป็นผู้ออกแบบการแสดงพลุในพิธีเปิดโอลิมปิกปักกิ่ง 2008 ก็ออกมาขอโทษต่อสาธารณชน และให้คำมั่นว่าจะร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เพื่อฟื้นฟูพื้นที่
.
เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายของแบรนด์ระดับโลกที่พยายามใช้ “ศิลปะและการตลาด” สร้างความโดดเด่น แต่กลับถูกสังคมตั้งคำถามเรื่องความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรมท้องถิ่น สำหรับ Arc’teryx ดราม่านี้อาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ว่าจะสามารถกู้ภาพลักษณ์ด้านการอนุรักษ์ธรรมชาติกลับมาได้หรือไม่
ที่มา
https://www.bbc.com/news/articles/c1eddw19042o