ข้าวตราฉัตร ยังคงรักษาตำแหน่งอันดับหนึ่งในใจผู้บริโภคไว้ได้อย่างมั่นคงและยาวนาน คว้ารางวัล Marketeer No.1 Brand Thailand 2025 ในหมวดแบรนด์ข้าวสารบรรจุถุง ไปครองอีกครั้ง นับเป็นปีที่ 14 ติดต่อกัน
หนึ่งในโจทย์ที่ยากที่สุดของแบรนด์ไม่ใช่แค่การเป็นอันดับหนึ่ง แต่คือการรักษาความไว้วางใจนั้นไว้ได้อย่างมั่นคง สม่ำเสมอ และยาวนานอย่างมีพลัง เสมือนการ ‘รักษามาตรฐานและคุณภาพของข้าว’ ให้เหมือนเดิมทุกถุง ในทุกวัน”
คุณยงยุทธ พฤกษ์มหาดำรง รองกรรมการผู้จัดการบริหาร บริษัท ข้าว ซี.พี. จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย “ข้าวตราฉัตร” เปิดสนทนากับ Marketeer พร้อมเผยวิสัยทัศน์การขับเคลื่อนแบรนด์ให้ยืนหนึ่งได้อย่างยั่งยืน
ธุรกิจข้าวต้องเข้าใจทุกมิติ ตลอดจนบริบทที่ควบคุมไม่ได้
คุณยงยุทธมองว่า ปัจจัยที่กระทบธุรกิจข้าวในวันนี้ ไม่ใช่แค่เรื่องผู้บริโภค แต่อยู่ที่ต้นน้ำธุรกิจอันซับซ้อน ตั้งแต่ค่าเงินบาท นโยบายภาษีอเมริกา ความผันผวนของราคาสินค้าเกษตร ไปจนถึงภาวะโลกร้อน ที่ทำให้เกิดภัยธรรมชาติ ทั้งหมดล้วนเชื่อมโยงกัน และส่งผลโดยตรงต่อเสถียรภาพของราคาข้าว
ในมุมของผู้ประกอบการระดับภูมิภาค ข้าวตราฉัตรจึงไม่ได้มองตลาดแบบแยกประเทศ แต่ติดตามสถานการณ์ต่าง ๆ จากคู่แข่งนานาชาติ อย่างครอบคลุมครบถ้วน เพราะการกำหนดกลยุทธ์ในระยะยาว ไม่อาจพึ่งข้อมูลภายในประเทศเพียงอย่างเดียว
สิ่งที่ ข้าวตราฉัตร ให้ความสำคัญคือการอ่านเกมล่วงหน้า ไม่ใช่แค่ “รู้ว่าอะไรเกิดขึ้น” แต่ต้อง “รู้ว่าหลังจากนั้นจะเกิดอะไร”
“ในวันที่โลกเปลี่ยนเร็ว ตลาดผันผวน พฤติกรรมผู้บริโภคซับซ้อน และเทคโนโลยีพลิกโฉมธุรกิจเกษตร องค์กรที่จะรอดและเติบโต จึงต้องไม่ใช่แค่แบรนด์ที่ดี แต่ต้องเป็น ‘ผู้นำที่กล้าขับเคลื่อน’ เปรียบเทียบง่าย ๆ เหมือนในสนามแข่งรถ ในเวลาที่ถนนเปียกที่สุด รถทุกคันจะชะลอ แต่คนที่จะแซงได้คือคนที่กล้าเหยียบคันเร่งแบบมีสตินั่นเอง”
เสิร์ฟทุกความต้องการวันนี้และอนาคต
ขณะที่โลกต้นน้ำซับซ้อนขึ้น พฤติกรรมปลายน้ำก็ซับซ้อนไม่แพ้กัน ผู้บริโภคยุคใหม่ โดยเฉพาะ Gen Y ลงไป เริ่มตั้งคำถามกับการกินข้าว บ้างลดแป้ง บ้างเน้นสุขภาพ หรือกลุ่ม Aging ที่ลดปริมาณข้าวลงด้วยเงื่อนไขสุขภาพ ไปจนถึงร้านอาหารที่ต้องการข้าวที่หุงง่าย ราคาประหยัด และคงคุณภาพทุกวัน
ข้าวตราฉัตรจึงเลิกคิดแบบ One for All แต่สร้าง “Variety ที่มีเหตุผล” เพื่อรองรับกับลูกค้าแต่ละกลุ่มโดยตรง ตั้งแต่ ข้าวฉัตรไลท์ดัชนีน้ำตาลต่ำ ข้าวกล้องหอมมะลิตราฉัตร ข้าวหอมมะลิใหม่ตราฉัตร 100% และสูตรอื่น ๆ อีกมากมาย
ไปจนถึง “ข้าวรักษ์โลกตราฉัตร ข้าวหอมมะลิใหม่ 100%” คาร์บอนต่ำ แบรนด์แรกของข้าวหอมมะลิใหม่บรรจุถุงที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งไม่เพียงแต่ให้ความหอม อร่อย นุ่มเหนียว แต่มาพร้อมกับการใส่ใจสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีและกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อโลก เพื่อช่วยลดโลกร้อนและมลภาวะ โดยการปลูกข้าวตามมาตรฐานเกษตรยั่งยืน ปรับเปลี่ยนวิธีการจัดการแปลงโดยไม่เผาเศษวัสดุ อีกทั้งบรรจุภัณฑ์ สามารถ Recycle ได้ 100% ใส่ใจทุกขั้นตอนตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ
ทั้งหมดนี้ไม่ใช่แค่การปรับสินค้า แต่คือการออกแบบอนาคตของแบรนด์จากอินไซต์ที่ลึกและแม่นยำ
“ความเคลื่อนไหวเหล่านี้ ไม่ได้เกิดจากการตามเทรนด์ แต่คือการดักพฤติกรรมล่วงหน้า และลงทุนสร้างมาตรฐานใหม่ให้ตลาด ไม่ว่าจะเป็นการเก็บข้าวในห้องเย็น 15 องศาตลอดปี ซึ่งไม่มีใครกล้าทำในระดับ Mass Scale มาก่อน หรือการเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ให้เป็น Easy Opening แบบ Twist ที่ใช้งานสะดวกและย่อยสลายได้ ตลอดจนการเข้าไปร่วมพัฒนาพันธุ์ข้าวใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์อนาคต ไม่ใช่เพียงวันนี้”
จาก Brand Mass สู่ Brand ที่เข้าใจรายบุคคล
คุณยงยุทธบอกว่า ยุคนี้ไม่ได้ใช้กลยุทธ์แบบ “ทำแคมเปญทีเดียวครอบคลุมทั้งประเทศ” อีกต่อไป แต่ต้องคิดแบบลึก-เล็ก-เฉพาะกลุ่ม และเป็น “การตลาดที่เข้าใจ Pain Point จริง” ดังนั้นข้าวตราฉัตรไม่ใช่แบรนด์ที่ “ทำให้คนพูดถึง” ด้วยแคมเปญเดียว แต่คือตัวตนที่ “อยู่ในชีวิตประจำวัน” ของผู้คนโดยแท้จริง
“ในวันที่คนไม่ได้มีเวลาไปแบกข้าวกลับบ้าน การที่ลูกค้าเจอข้าวตราฉัตรในช่อง Delivery ได้ง่าย ๆ ทั้งใน 7-Eleven, Makro หรือ Lotus ต่างหาก คือคำตอบที่ชัดที่สุดของคำว่า Customer Centric”
ยกตัวอย่างการขับเคลื่อนที่เป็นไฮไลต์สำคัญ เช่น การร่วมมือกับ 7-Eleven ทำข้าวถุง Delivery จับตลาดคนเมือง หรือสนับสนุนกิจกรรมวิ่งเพื่อเข้าถึงคนรักสุขภาพ ไปจนถึงโปรโมตข้าวรักษ์โลกผ่าน Gen Z ที่เชื่อในความรับผิดชอบต่อสังคม
ขณะเดียวกัน ข้าวตราฉัตรยังพัฒนาระบบหลังการขายให้โดนใจแบบเข้าอกเข้าใจ เช่น การรับประกันความพึงพอใจ ข้าวให้ลูกค้าที่ซื้อผิดแบบไม่มีเงื่อนไข ซึ่งทำให้แบรนด์ไม่ใช่แค่ “ดี” แต่ “มีใจ” ที่จะมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าทุกคน
“ไม่ใช่แค่ผลิตภัณฑ์ดี แต่ต้องเป็นแบรนด์ที่ดี” : คุณค่าที่คนยุคนี้เลือกเชื่อ
เมื่อถามว่าอยากให้คนจดจำข้าวตราฉัตรอย่างไร คุณยงยุทธไม่ได้ตอบด้วยคำว่าคุณภาพ แม้ข้าวตราฉัตรจะใส่ใจเรื่องนี้ไม่เคยขาด แต่เขากลับบอกว่า “อยากให้จำว่าเราคือแบรนด์ที่มีความรับผิดชอบ”
“ลูกค้ายุคนี้มองลึกกว่าความอร่อย หรือคุณภาพ เขามองว่าแบรนด์คุณมีส่วนช่วยทำให้โลกนี้ดีขึ้นหรือไม่”
ดังนั้นตราฉัตรจึงไม่ใช่แค่เพราะผลิตข้าวที่ดี แต่เพราะแบรนด์นี้สร้างสิ่งดี ๆ ร่วมกับสังคมมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่การสนับสนุนเยาวชนมากมาย ในโครงการข้าวไทย เด็กไทย ไม่ว่าจะเป็นกีฬา โรงเรียนแบดมินตันบ้านทองหยอด หรือ วิชาการอย่างโอลิมปิกวิชาการ สนับสนุนโรงเรียนในโครงการมูลนิธิสานอนาคตการศึกษา คอนเน็กซ์อีดี (CONNEXT ED) ไปจนถึงการดูแลชุมชนและศูนย์ร่วมจิตวิญญาณ ศาสนา
“คุณภาพและความน่าเชื่อถือของ ข้าวตราฉัตร ผู้บริโภคต่างรับรู้แล้ว แต่ความท้าทายที่สำคัญคือการเป็นองค์กรที่ดี ไม่ใช่เพียงแค่การค้าขาย ลูกค้ามองหาไม่ใช่แค่ว่าอร่อยหรือไม่ แต่ยังมองว่าเราได้ตอบแทนสังคมอย่างไรด้วย” คำนี้ดูจะสรุปจุดยืนของข้าวตราฉัตรได้อย่างครบถ้วน
จากพันธุ์ข้าวสู่เทคโนโลยี AI และระบบอัตโนมัติ
ในโลกที่ทุกอย่างขยับเร็ว คุณยงยุทธเชื่อว่า อุตสาหกรรมข้าวจะเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยเริ่มจาก “ต้นน้ำ” ที่เทคโนโลยีจะเข้ามาเต็มรูปแบบ ทั้ง Farm Automation, Mega Farm, Precision Agriculture, การควบคุมคุณภาพ การเก็บเกี่ยวด้วยเครื่องจักรไร้คนขับ ไปจนถึง AI ที่มาช่วยวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทั้งห่วงโซ่
และเมื่อเกมเปลี่ยนเร็วขนาดนี้ แบรนด์ที่ชนะจะไม่ใช่แค่คนที่ทำข้าวได้ดี แต่คือคนที่ “เห็นเกมใหม่ก่อนคนอื่น” และ “กล้าลงมือทำ”
“ใครที่เข้าถึงเทคโนโลยีต้นน้ำก่อน จะเป็นผู้กำหนดเกม โลกไม่ได้แข่งกันแค่แพงแต่ดีอีกต่อไป แต่มันจะกลายเป็น ‘ดีมาก แต่ต้องถูก’ และยังเข้าถึงได้ในระดับ Mass”
รางวัลของทุกคนในระบบนิเวศ
คุณยงยุทธกล่าวขอบคุณอย่างจริงใจต่อผู้บริโภค พันธมิตร คู่ค้า ชาวนา ทีมงาน และทุกคนใน Value Chain ในเครือที่ช่วยกันผลักดันแบรนด์ให้ยังคงเป็นอันดับหนึ่งได้ต่อเนื่องถึง 14 ปี พร้อมย้ำว่า การรักษาอันดับหนึ่งไว้คือสิ่งที่ยากยิ่งกว่าการขึ้นเป็นที่หนึ่ง และข้าวตราฉัตรจะไม่หยุดเพียงเท่านี้ เพราะสิ่งที่ทีมงานข้าวตราฉัตรมองอยู่ไม่ใช่ “วันนี้”
แต่คือ “พรุ่งนี้ที่ดียิ่งกว่า”
14 ปีที่ข้าวตราฉัตรครองความเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในใจผู้บริโภคมาโดยตลอด ต้องขอบคุณผู้บริโภค พันธมิตร คู่ค้า ชาวนา ทีมงาน และทุกคนใน Value Chain ที่ร่วมสร้างแบรนด์นี้ขึ้นมา… ความท้าทายคือการรักษาความไว้ใจนั้นให้ได้ และเดินหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง เราเชื่อว่าปีหน้า คุณจะเห็นข้าวตราฉัตรในรูปแบบที่ใหม่ขึ้น ดีขึ้น และมีพลังยิ่งกว่าเดิม”
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /
