ญี่ปุ่นเริ่มได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งรอบใหม่ หลังนายกรัฐมนตรี ซานาเอะ ทาคาอิชิ ประกาศขู่จีน โดยธุรกิจที่จะ “เจ็บหนัก” สุดคือสายการบินและบริษัทท่องเที่ยว

มีรายงานว่า สายการบินจีนหลายแห่งซึ่งในจำนวนนี้มี 3 แห่งที่เป็นของรัฐ จะคืนเงินให้เต็มจำนวนกับผู้ที่ขอยกเลิกตั๋วไปญี่ปุ่น ขณะที่สายการบิน เสฉวนแอร์ไลน์ ได้ยกเลิกเที่ยวบินทั้งหมดระหว่างเฉิงตูและซัปโปโรตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงปลายเดือนมีนาคม

ด้านสปริงแอร์ไลน์ สายการบินจีนอีกแห่ง ได้ยกเลิกเที่ยวบินไปญี่ปุ่นหลายเที่ยว โดยอ้างเหตุผลด้านการวางแผนของบริษัท

ส่วน ฮั่นหมิง หลี่ นักวิเคราะห์ด้านการเดินทางทางอากาศในจีน ประเมินว่า ระหว่างวันที่ 15 ถึง 17 พฤศจิกายน มีตั๋วเครื่องบินไปญี่ปุ่นถูกยกเลิกไปแล้วประมาณ 500,000 ใบ โดยคิดเป็นสัดส่วนการยกเลิกตั๋วที่ 33% ซึ่งถือว่าสูงมากและสูงกว่าค่าเฉลี่ยต่อวันซึ่งอยู่ที่เพียง 5% เท่านั้น

ตัวเลขเหล่านี้ถือว่ามีนัยสำคัญ เพราะ ชาวจีนคือนักท่องเที่ยวอันดับหนึ่งที่เดินทางเข้าญี่ปุ่น ยืนยันได้จากข้อมูลของทางการญี่ปุ่นที่ระบุว่า 9 เดือนแรกของปี 2025 ชาวจีนเดินทางเข้ามาในประเทศเป็นจำนวนมากถึง 9.45 ล้านคน

โดยแค่เพียงระหว่างกรกฎาคมถึงกันยายนที่ผ่านมา ยอดการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวจีนในญี่ปุ่น ก็สูงถึง 590,000 ล้านเยน (ประมาณ 123,000 ล้านบาท) แล้ว

ผลกระทบจากการที่ ซานาเอะ ทาคาอิชิ นายกฯ หญิงคนแรกของญี่ปุ่น ผู้มีนโยบายอนุรักษ์นิยมเข้มข้น และแข็งกร้าวด้านกิจการต่างประเทศ ประกาศว่าจะสั่งใช้กำลังทหารเข้าแทรกแซงหากจีนพยายามบุกไต้หวัน และ ต่อเนื่องจากความไม่พอใจที่จีนส่งกำลังทหารไปบริเวณเกาะเซนโกคุ (หรือที่จีนเรียกว่าเกาะ เตียวหยู) เพราะถือว่าเป็นการคุกคามญี่ปุ่น ยังไม่หมดแค่นั้น

โดยก่อนหน้านี้ได้ฉุดให้หุ้นบริษัทใหญ่ๆ ของญี่ปุ่นในหลายธุรกิจ ตั้งแต่เครื่องสำอาง ห้างสรรพสินค้า แฟชั่นค้าปลีก ถึงสายการบิน และ บริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นเจ้าของสวนสนุกใหญ่ ร่วงลงมา

พร้อมกันนี้ ยังได้ทำให้วงการภาพยนตร์ซบเซา โดย ผู้จัดจำหน่ายภาพยนตร์ต้องเลื่อนฉายภาพยนตร์ญี่ปุ่นอย่างน้อยสองเรื่องในจีนอย่างไม่มีกำหนด และสื่อของรัฐอ้างว่าภาพยนตร์อนิเมะญี่ปุ่นเรื่องดังแห่งยุคที่อยู่อย่าง Demon Slayer: Infinity Castle มียอดขายตั๋วลดลงอย่างเห็นได้ชัด  

ขณะเดียวกันยังมีรายงานว่า จีนได้ระงับการนำเข้าสินค้าประมงจากญี่ปุ่น เนื่องจากไม่พอใจท่าทีของนายกฯ ญี่ปุ่น อีกด้วย

ท่ามกลางการคาดการณ์ว่า หากความขัดแย้งครั้งนี้ยังไม่ได้รับการแก้ไข จนสถานการณ์บานปลาย มูลค่าความเสียหายต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นอาจสูงถึง 2.2 ล้านล้านเยน (ประมาณ 460,000 ล้านบาท)

ด้านญี่ปุ่นก็ไม่ได้นิ่งนอนใจต่อเรื่องนี้ โดยผู้นำภาคอุตสาหกรรมได้เข้าพบนายกฯ ซานาเอะ ทาคาอิชิ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เพื่อเรียกร้องให้ลดความตึงเครียดลง ขณะที่รัฐบาลก็ได้ส่ง มาซาอากิ คานาอิ อธิบดีกรมเอเชียและโอเชียเนีย เข้าพบกับ หลิว จิน ซง อธิบดีกรมเอเชียและโอเชียเนียของจีน เพื่อคลี่คลายสถานการณ์

ขณะเดียวกันรัฐบาลญี่ปุ่นได้ประกาศเตือนให้ชาวญี่ปุ่นในจีน ติดตามสถานการณ์นี้อย่างใกล้ชิด และต้องระวังตัวให้ดี เพราะเกรงว่า อาจมีการประท้วงต่อต้านญี่ปุ่น จนชาวญี่ปุ่นในจีนอาจไม่ปลอดภัย และควร งดการเดินทางไปจีนจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย / theguardian 


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer