สถานการณ์ในเอเชียตะวันออกกลับมาร้อนแรงขึ้นอีกครั้ง โดยคราวนี้เกิดจากท่าทีแข็งกร้าวของนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นต่อจีน ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนจนฉุดให้หุ้นของบริษัทใหญ่ๆ พากันร่วง 

เช้าวันนี้ (17 พฤศจิกายน 2026) หุ้นของบริษัทเครื่องสำอาง Shiseido ห้างสรรพสินค้า Takashimaya Fast Retailing บริษัทแม่ของแบรนด์แฟชั่นค้าปลีก Uniqlo ต่อเนื่องไปถึงสายการบิน ANA และ Japan Airlines และ Oriental Land เจ้าของสวนสนุก Tokyo Disneyland ต่างพากันร่วง และยังอยู่แดนลบไปจนปิดการซื้อ-ขายประจำวัน

ขาลงดังกล่าวเป็นผลมาจากการเทขายของนักลงทุน หลังหวั่นว่า การที่นายกรัฐมนตรี ซาเนะ ทากาอิชิ ประกาศว่าจะสั่งใช้กำลังทหารเข้าแทรกแซงหากจีนพยายามบุกไต้หวัน เพราะการกระทำนั้นถือเป็นสถานการณ์ที่คุกคามญี่ปุ่น 

นี่ทำให้จีนไม่พอใจ นำมาสู่การเตือนให้พลเมืองหลีกเลี่ยงการเดินทางไปญี่ปุ่น และยังแนะนำให้นักศึกษาทบทวนการไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่นด้วย จนกระตุ้นความกังวลว่า ภาคค้าปลีก สายการบิน ท่องเที่ยว จะซบเซา หากชาวจีนซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่ลดหรือเลี่ยงการมาเยือนญี่ปุ่นขึ้นมาจริงๆ 

สถานการณ์ดังกล่าวถือเป็นเรื่องที่จับตามอง เพราะหลายปีมาแล้วที่ชาวจีนคือนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่สุดที่มาญี่ปุ่น โดยตามข้อมูลของทางญี่ปุ่นระบุว่าจากนักท่องเที่ยว 31.65 ล้านคนช่วง 9 เดือนแรกของปี 2025 เป็นชาวจีนไปแล้ว 7.49 ล้านคน ซึ่งนี่หมายถึงเม็ดเงินมหาศาลทางการท่องเที่ยวต่อเนื่องไปยังธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องกันของญี่ปุ่น

สำหรับนายกฯ ซาเนะ ทากาอิชิ แม้สร้างประวัติศาสตร์เป็นผู้นำสูงสุดในรัฐบาลคนแรกของญี่ปุ่นที่เป็นสตรี แต่ก็เป็นที่รู้กันในแวดวงการเมืองญี่ปุ่นมานานแล้วว่า มีนโยบายอนุรักษ์นิยมเข้มข้น และยังมักแสดงท่าทีแข็งกร้าวต่อชาวต่างชาติ และจีนอยู่เสมอ 

เมื่อได้ขึ้นดำรงตำแหน่งเธอก็ยังเน้นนโยบายนี้ ทั้งการชื่นชมประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ สั่งตั้งหน่วยงานป้องปรามพฤติกรรมของชาวต่างชาติ จนมาถึงการประกาศท่าทีที่แข็งกร้าวต่อจีน ซึ่งช่วยให้คะแนนนนิยมของรัฐบาลเพิ่มขึ้นไม่หยุด 

ทว่าท่าทีแข็งกร้าวดังกล่าว ไม่ได้มีที่มาจากการเป็นนักการเมืองสายอนุรักษ์นิยมเข้มข้นเท่านั้น แต่ยังมาจากการที่จีนได้ส่งเรือยามฝั่งแล่นผ่านหมู่เกาะเซนกากุ (ที่จีนเรียกว่าเตียวหยู) ซึ่งเป็นพื้นที่พิพาทระหว่างสองประเทศ 

และยังมีขึ้นท่ามกลาง ความไม่พอใจนักท่องเที่ยวต่างชาติของชาวญี่ปุ่นที่กำลังเพิ่มขึ้น ทั้งด้วยจำนวนที่มากเกินไปจนสถานที่ท่องเที่ยวช้ำ (Overtourism) และพฤติกรรมไม่เหมาะสมต่างๆ ที่ขัดต่อความสุภาพเรียบร้อยตามวัฒนธรรมญี่ปุ่น ซึ่งจากการที่จีนเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่ จึงมักมีข่าวชาวจีนอยู่ในกลุ่มที่ทำตัวไม่เหมาะสมอยู่ด้วย 

ทั้งนี้ต้องติดตามกันต่อไปว่า ทั้งสองประเทศจะประสานรอยร้าวได้หรือไม่ และญี่ปุ่นเองก็ดูจะพึ่งพาจีนมากกว่าที่จีนพึ่งพาญี่ปุ่น เพราะนอกจากจีนสำคัญต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวญี่ปุ่นแล้ว ยังถือเป็นประเทศคู่ค้าอันดับต้นๆ อีกด้วย 

โดยดูเหมือนว่า ญี่ปุ่นเริ่มแสดงให้เห็นท่าทีที่อ่อนลงแล้ว หลังกระทรวงต่างประเทศส่ง มาซาอากิ คานาอิ อธิบดีกรมเอเชียและโอเชียเนียเข้าพบกับ หลิว จิน อธิบดีกรมเอเชียและโอเชียเนียจีน / theguardian, bbc 


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer