ขี้เกียจดูหนังโฆษณา แต่ถ้าเข้าช้าก็เกรงใจคนนั่งแถวริมที่ต้องเบี่ยงขาหลบให้ นี่คือปัญหาแบบ ‘เล็กน้อยมหาศาล’ ที่คนออกไปหนังนอกบ้านส่วนใหญ่มักจะต้องพบเจอ
หลายคนอาจจะเถียงว่าถ้าไม่อยากเจอปัญหาทางเดินระหว่างที่นั่งแบบนี้ ก็ให้อัพเกรดที่นั่งเป็นโซฟาราคาแพงที่อยู่หลังสุดของโรงหนังสิ!
แต่ตอนนี้ความสบายในการดูหนังของคุณนั้นไม่จำเป็นต้องแลกมาด้วยราคาที่แพงเสมอไป เพราะมีโรงหนังเปิดใหม่อยู่แห่งหนึ่งที่ตั้งใจออกแบบให้เราเดินเข้า-ออกทางเดินระหว่างที่นั่งได้แบบง่ายๆ คนที่นั่งอยู่แถวริมไม่ต้องนั่งเบี่ยงขาหลบอีกต่อไป
และโรงหนังที่กำลังพูดถึงอยู่นี้คือ ZigmaCineStadium ที่เพิ่งจะเปิดให้คอหนังได้เข้าไปใช้บริการเมื่อวันที่ 4 ก.ค. 2561 ที่ผ่านมานี้ โดยมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 240 บาทเท่านั้น!
ซึ่งหลังจากที่ได้เข้าไปดู Mission Impossible Fallout ที่โรงหนังแห่งนี้ก็ได้พบว่าความพิเศษของมันไม่ได้มีแค่ความกว้างของทางเดินเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงระบบจอ ระบบเสียง ความสบายของเก้าอี้ ที่เพิ่มอรรถรสจนทำให้เราเหมือนได้ไปร่วมรบกับ Tom Criuse อยู่ในจออีกด้วย
ส่วนรายละเอียดในความพิเศษของ ZigmaCineStadium จะเป็นอย่างไร การดูหนังเดียวกันที่โรงหนังอื่นกับที่ ZigmaCineStadium จะแตกต่างกันขนาดไหน
ให้ภาพและข้อความที่ด้านล่างนี้เล่าให้ทุกคนฟังกันเลยดีกว่า
จอกว้างแบบ Giant Screen ที่มาในความคมชัดระดับ 4K
หลังจากที่ซื้อน้ำซื้อป๊อปคอร์นแล้วเดินตรงไปที่ ZigmaCineStadium หรือโรงหนังหมายเลข 12 ที่ SF World Cinema เซ็นทรัลเวิลด์ ก็ได้พบกับจอขนาด Giant Screen ที่หากใครเข้าโรงหนังบ่อยๆ ก็จะรู้ทันทีว่าจอของโรงหนังนี้นั้นมีขนาดกว้างและใหญ่กว่าโรงหนังทั่วไป
แถมยังเป็นความใหญ่แบบสะใจ! ได้ชมภาพที่คมชัดเหนือกว่าทุกโรงภาพยนตร์ด้วยระบบฉาย Sony Digital Cinema 4K บนจอยักษ์กันแบบเต็มตา !
ระบบเสียงแบบ Dolby Atmos เพิ่มความสมจริงที่ทำให้เราเหมือนได้เข้าไปอยู่ในหนัง
หากบอกว่านี่คือโรงหนังที่ใช้ระบบเสียงแบบ Dolby Atmos ซึ่งแตกต่างจากโรงหนังทั่วไปที่ใช้ระบบ Dolby Surround ที่ทำให้เสียงมีมิติมากกว่า หลายคนก็อาจจะยังไม่เข้าใจสักเท่าไหร่
ถ้าอย่างนั้นเราขอเล่าให้เห็นภาพแบบง่ายๆ ว่า นี่คือระบบเสียงที่ทำให้รู้สึกเหมือนว่า “Tom Cruise มาขับเฮลิคอปเตอร์บนหัว” ดีกว่า
ซึ่งพอไปหาข้อมูลทางเทคนิคเพิ่มเติมว่าทำไมระบบเสียงแบบ Dolby Atmos ถึงให้ความสมจริงจนทำให้เรารู้สึกว่าเหมือนอยู่ในสถานการณ์เดียวกับนักแสดงได้มากถึงเพียงนี้ ก็ได้พบกับคำตอบว่า หากเป็นระบบเสียงแบบเดิมอย่าง Dolby Surround ลำโพงจะถูกติดไว้แค่ตำแหน่งด้านซ้าย ด้านขวา และด้านหลังของผู้ชม แต่ระบบ Dolby Atmos จะให้ความสมบูรณ์แบบมากกว่าด้วยการเพิ่มลำโพงในตำแหน่งด้านบนศีรษะของคนดูเข้ามา
ซึ่งการเพิ่มตำแหน่งของลำโพงนี้ก็ตามมาด้วยการรับสัญญาณเสียงจากตัวหนังได้เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน อีกทั้งลำโพงทุกตัวยังมี Power Amp เป็นของตัวเอง ทำให้สามารถควบคุมเสียงจากกันได้อย่างอิสระ ออกแบบเสียงให้มีมิติได้มากขึ้น และนั่นก็นำมาซึ่งความสมจริงที่ทำให้เรารู้สึกเหมือนได้เข้าไปอยู่ในหนังด้วยนั่นเอง
ที่นั่งแบบกว้าง เพื่อความสบายในการดูหนัง
ภายในโรงหนังที่มีความจุที่นั่งจำนวน 276 ที่ แบ่งเป็นที่นั่ง 3 แบบ ซึ่งได้แก่ SUITE, PRIME และ PREMIUM
ซึ่งที่นั่งทั้ง 3 แบบนั้นมีจุดเด่นที่เหมือนกัน นั่นคือความกว้างระหว่างทางเดินของเบาะหนัง ที่สามารถเดินเข้าออกได้อย่างสบายๆ ถูกออกแบบมาในแนวคิดของ Super Stadium ทำให้คนที่นั่งอยู่ไม่จำเป็นต้องเบี่ยงขาหลบอย่างที่เราเคยเห็นกันอีกต่อไป แถมความกว้างนี้ยังเป็นระยะห่างที่พอดี ที่ทำให้คุณนั่งดูหนังนานๆ ได้อย่างสบายตา
ความพิเศษสำหรับที่นั่งแบบ Prime ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะยังรวมไปถึงวัสดุของเบาะนั่งที่ทำมาจากหนัง ในดีไซน์ที่กว้างกว่าเบาะนั่งทั่วไป ปรับเอนได้ ไร้ซึ่งอาการปวดหลัง แม้ Mission Impossible จะเป็นหนังที่มีความยาวกว่า 2 ชั่วโมงก็ตาม
ที่นั่งแบบ Prime ว่าเจ๋งแล้วใช่ไหม แต่แบบ SUITE นี่สิยิ่งกว่า เพราะไม่ใช่แค่ความกว้างที่มากกว่าเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการปรับเอนของเบาะที่ราบจนแทบจะนอนหลับได้ รวมไปถึงที่วางของที่ทำจากไม้แบบพรีเมียม และที่สำคัญคือที่ชาร์จแบตฯ สำหรับสาย USB ระหว่างที่ปิดเครื่องดูหนัง ก็ได้เติมพลังให้กับมือถืออีกด้วย
รับรองหนังจบ แบตฯ ครบเต็ม 100%
เรียกได้ว่าเป็นโรงหนังที่ให้อรรถรสในการรับชมครบทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นภาพ เสียง หรือที่นั่งที่บอกเลยว่าคุ้มค่า สวนทางกับราคาเข้าชมที่แพงกว่าโรงหนังแบบปกติเพียงไม่กี่สิบบาท
ถ้าใครอยากจะไปสัมผัสความคุ้มค่า ประสบการณ์ในการดูหนังแบบใหม่ ที่ทำให้คุณเหมือนได้เข้าไปอยู่ในหนังได้แม้ไม่ใส่แว่นตา 3D ก็สามารถเข้าไปเช็ครอบหนังได้ที่ www.sfcinemacity.com
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ