ความท้าทายในการดำเนินธุรกิจเข้ามาทายทักได้เสมอ ไม่ว่าบริษัทมีขนาดเล็กใหญ่ หรืออยู่ในธุรกิจใด โดยบริษัทจะสามารถเดินหน้าต่ออีกได้นานแค่ไหน หรือไปถึงเป้าหมายที่วางไว้หรือไม่ ส่วนหนึ่งวัดได้จากการก้าวผ่านความท้าทายและจัดการกับปัญหานั่นเอง เหมือนเป้าหมายการเสนอขายหุ้นต่อสาธารณะเป็นครั้งแรก (IPO) ของ Uber ที่กำลังถูกจับตามอง
ปีหน้าคือเป้าหมาย IPO ที่บริษัทใหญ่ในธุรกิจเรียกใช้บริการรถ Taxi ผ่าน App (Ride Hailing) วางไว้ แต่งานนี้คงไม่ราบรื่นและง่ายดายอย่างที่คิด หลังไตรมาส 3 ที่ผ่านมา ขาดทุนถึง 1,070 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 35,310 ล้านบาท) และการเติบโตยังช้าอีกด้วย
ตัวเลขที่นักลงทุนไม่พอใจ แต่ผู้บริหาร Uber บอกพอไปได้
ตัวเลขขาดทุนจากย่อหน้าก่อน เพิ่มจากไตรมาส 2 ของปีนี้อยู่ 20% แต่ลดลง 27% จากไตรมาส 3 ของปี 2017 ส่วนตัวเลขผลประกอบการที่ 2,950 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 97,350 ล้านบาท) และยอดรายได้จากการใช้บริการที่ 12,700 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 419,000 ล้านบาท) ในไตรมาส 3 ปีนี้ ก็เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่แล้ว เพียง 5% และ 6% เท่านั้น

Dara Khasrowshahi
อัตราการเติบโตที่น้อยและติดอยู่ในเลขหลักเดียวมาหลายไตรมาสติด ทำให้บรรดานักลงทุนและผู้ถือหุ้นเป็นกังวล เนื่องจากต่างจากปีก่อนอย่างสิ้นเชิง ที่อัตราเติบโตเพิ่มขึ้นเป็นเลขสองหลักทุกไตรมาส ด้าน Dara Khasrowshahi ประธานบริหาร (CEO) ของ Uberระบุว่าตัวเลขดังกล่าวพอรับได้ เพราะในส่วนของยอดรายได้จากการใช้บริการ มี 2,100 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 69,300 ล้านบาท) มาจาก Uber Eats คิดเป็นอัตราการเติบโตจากไตรมาส 3 ของปีก่อนถึง 150%

ผู้บริหารชาวอเมริกันเชื้อสายอิหร่านระบุว่า ตัวเลขเชิงบวกจากUber Eats ทำให้บริษัทอยู่ในจุดที่สามารถต่อยอดสร้างบริการรองรับความต้องการผู้ใช้ได้อีก ทั้งการส่งอาหารและสินค้า เพิ่มจากบริการด้านขนส่งมวลชนต่างๆ ที่มีอยู่เดิม

ด้าน Nelson Chai ประธานฝ่ายการเงินคนแรก Uber ในรอบ 3 ปี เผยว่าต้นสังกัดกำลังไปได้สวยในอินเดียและตะวันออกกลาง
CEO ยังต้องพิสูจน์ฝีมือท่ามกลางความท้าทาย
แม้เป็นบริษัทที่สร้างตลาด Ride Hailing App ขึ้นมา และยังเป็นบริษัทลำดับต้นๆ ในกลุ่มธุรกิจเกิดใหม่ที่สร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างพลิกวงการ (Disruptive Business) แต่ปัจจุบันUber กำลังตกเป็นรองคู่แข่งในหลายประเทศที่เข้าใจผู้ใช้ในประเทศตนมากกว่า จนต้องยอมถอนตัวจากรัสเซีย จีน และหลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อลดความสูญเสีย

Khasrowshahi วัย 49 ปี ซึ่งย้ายจาก Expedia มาเป็นผู้บริหารของ Uberต่อจาก Travis Kalanick เมื่อปีที่แล้ว ได้ปรับวิสัยทัศน์ของบริษัท ด้วยการเพิ่มบริการอื่นๆ เช่น จักรยาน ส่งอาหาร ส่งสินค้าและพัสดุ เข้ามาใน Platform เพื่อให้สามารถทำกำไรและมีรายได้เพิ่มขึ้น ซึ่งในอนาคตอันใกล้จะช่วยสร้างความมั่นใจให้นักลงทุน ก่อน IPO ซึ่งอาจต้องขยับจากครึ่งหลังมาเป็นครึ่งแรกของปีหน้า เพื่อชิงความได้เปรียบก่อนคู่แข่งอย่าง Lyft ที่มีข่าวว่าจะ IPO ปีหน้าเช่นกัน

ประเมินกันว่าหาก Khasrowshahi แก้ไขสถานการณ์ได้ เมื่อ IPO มูลค่าของ Uberอาจเพิ่มจาก 70,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 2.3 ล้านล้านบาท) ขึ้นเป็น 120,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 3.9 ล้านล้านบาท)/cnn, cnbc, reuters
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /
